เคล็ดลับเกี่ยวกับ วิธีการซักเสื้อผ้า ของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน

เคล็ดลับเกี่ยวกับ วิธีการซักเสื้อผ้า ของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน

สุขอนามัยส่วนบุคคลอาจดีขึ้นตั้งแต่เหตุการณ์ไวรัส Coronavirus หรือ Covid-19 ระบาด แต่ที่สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือพฤติกรรมการซักรีดของเรา ซึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงมาก ๆ คือ วิธีการซักเสื้อผ้า ของคุณและการดูแลความสะอาดเครื่องซักผ้า

การวิจัยล่าสุดระบุไว้ว่าไวรัส Coronavirus หรือ Covid-19 สามารถอยู่รอดได้บนพื้นผิวต่าง ๆ ได้ รวมถึงสามารถอยู่บนเสื้อผ้าได้เป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง สิ่งนี้นำไปสู่ความสับสนอย่างมากเมื่อพูดถึงการทำความสะอาดเสื้อผ้า

“การฝึกฝนสุขอนามัยที่ดีและทำความสะอาดเสื้อผ้าหลังการใช้งานแต่ละครั้งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการหยุดส่งไวรัสจากเสื้อผ้าสู่คน”

เพื่อความเข้าใจของเราซึ่งแตกต่างจากพื้นที่เป็นของแข็งที่สามารถเช็ดได้เสื้อผ้ามีเส้นใยหลายชั้นและดังนั้นการทำความสะอาด “พื้น” จึงไม่เพียงพอ

Ryan Merszei ผู้จัดการทั่วไปของ Jeeves ผู้ให้บริการซักรีดในฮ่องกงกล่าวว่า เสื้อผ้าจำเป็นต้องอยู่ในขั้นตอนการทำความสะอาด เช่น การล้างด้วยผงซักฟอกหรือกระบวนการทำความสะอาดแบบแห้ง

ตามกฎแล้วถ้าคุณสวมใส่เสื้อผ้านอกบ้านหรือไปในพื้นที่แออัด คุณควรล้างมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเสื้อผ้าสามารถเป็นแหล่งที่เชื้อโรคอยู่ได้เหมือนกับพื้นที่แข็ง ซึ่งไวรัสได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถอยู่รอดได้เป็นเวลานาน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ให้คำแนะนำว่า “ควรใช้ความร้อนในการซักผ้า” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคดังกล่าว

NHS ในสหราชอาณาจักรแนะนำว่าควรใช้ความร้อนระหว่าง 40 และ 60 องศาเซลเซียส (degrees Celsius) หรือ 104 และ 140 องศาฟาเรนไฮต์ (degrees Fahrenheit) พร้อมกับผงซักฟอกคุณภาพดี

ในขณะที่บางแหล่งได้แนะนำว่า สารฟอกขาวนั้นดีกว่าสำหรับพื้นผิวที่แข็ง แต่มันสามารถทำลายเสื้อผ้าได้ อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้คุณใช้ผงซักฟอกตามคำแนะนำบนเสื้อผ้าที่ระบุไว้

ในกรณีที่ไม่สามารถล้างทำความสะอาดได้ทันทีให้เแยกเสื้อผ้าดังกล่าวไว้ในถุงสะอาด เพื่อเป็นการลดการกระจายตัวของเชื้อโรค ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างดีแล้ว

ถุงกันกระแทกที่สามารถกำจัดหรือฟอกได้จะมีประโยชน์เช่นกัน CDC ยังให้คำแนะนำในการป้องกันการซักผ้าที่สกปรก “เพราะจะช่วยลดโอกาสในการแพร่กระจายไวรัสผ่านทางอากาศได้”

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องซักผ้ามีวิธีอื่น ๆ เช่น การล้างมือ  ในการล้างมือนั้นหากสามารถสามารถใช้น้ำที่อุณหภูมิสูงขึ้นจากระดับปกติได้ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความร้อนสามารถใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้าและช่วยลดเชื้อโรคได้  โดยอุณหภูมิควรสูงกว่า 75 องศาเซลเซียส (167 ฟาเรนไฮต์) ถึงจะสามารถฆ่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่ได้ ตามข้อมูลจาก CDC

อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะต้องพิจารณาไปตามกรณีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ไม่จำเป็นต้องซักเสื้อผ้าทุกชั้น เว้นแต่ชุดนั้นเป็นชุดที่คุณสวมใส่ออกไปด้านนอก หลังจากจัดการเสื้อผ้าที่สกปรกแล้วให้ล้างมือด้วย (หรือสวมถุงมือที่ใช้แล้วทิ้ง) หากคุณไม่สามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าที่คุยสวมใส่ได้ อย่าพึ่งกังวลใจไป!

Lisa Maragakis ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการป้องกันการติดเชื้อของ Johns Hopkins กล่าวว่ามีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการสัมผัสเชื้อโรคที่อยู่บนพื้นผิวที่นุ่ม เช่น ผ้า นั้นยากกว่าการสัมผัสเชื้อโรคที่ติดอยู่ตามพื้นที่แข็ง ๆ เช่น พื้น ประตู หรือลูกบิดประตูเป็นต้น

วิธีการซักเสื้อผ้า ของคุณเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค

วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส Coronavirus หรือ COVID-19 คือการล้างมือ ฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวในแต่ละวัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และเว้นระยะห่างระหว่างตัวคุณและคนอื่น ๆ

คำแนะนำอย่างเป็นทางการจาก CDC ระบุว่า Covid-19 มักจะถูกส่งผ่าน “ทางเดินหายใจที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ที่ติดเชื้อไอหรือจาม” แทนที่จะถูกส่งผ่านทางวัตถุและวัสดุที่ปนเปื้อน อย่างไรก็ตาม CDC ยังระบุด้วยว่ามีหลักฐานบ่งชี้ว่า Coronavirus อาจยังคงติดอยู่บนสิ่งต่าง ๆ ได้หลายชั่วโมง ไม่ว่าจะบนพื้นผิวที่ทำจากวัสดุที่หลากหลายซึ่งรวมถึงเสื้อผ้าด้วย

แม้การวิจัยยังไม่ได้มีผลแน่ชัดว่า Coronavirus หรือ COVID-19 มีผลกับผ้า  แต่อย่างไรก็ตามในขณะที่เรายังคงฝึก social distancing และแยกตัวเองนั้น เสื้อผ้าของเราอาจมีส่วนทำให้เกิดการแพร่กระจายของไวรัส เราศึกษาแนวทางปฏิบัติของ NHS อย่างเป็นทางการเพื่อเปลี่ยนวิธีทำความสะอาดเสื้อผ้าของเราและลดการสัมผัสกับ COVID-19

ในขั้นตอนนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาที่เป็นที่รู้จักสำหรับ Coronavirus หรือ COVID-19 ดังนั้นการฝึกฝนมาตรการที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสเป็นกุญแจสำคัญ การปฏิบัติเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการป้องกันการสัมผัสกับผู้ที่อาจติดเชื้อผ่านทางสังคมและการแยกตนเอง แต่ยังช่วยกำจัดการสัมผัสกับพื้นผิวที่อาจปนเปื้อนอีกด้วย ตอนนี้แนวทาง NHS อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับวิธีการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค มีคำแนะนำเฉพาะเกี่ยวกับวิธีการจัดการเสื้อผ้าและซักรีดของคุณเพื่อป้องกันการติดเชื้อดังนี้

• ล้างมือให้สะอาดหลังจากซักผ้าที่สกปรก

การล้างมือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันตนเองจากการติดโรค ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ล้างมือให้สะอาด หลังจากผ่านการซักผ้าที่สกปรกแล้วล้างมืออีกครั้งหากจะซักผ้าครั้ง

• อย่าทิ้งเสื้อผ้าไว้ในตะกร้า

พวกเราหลายคนทิ้งสิ่งของไว้ในตะกร้าซักผ้าเป็นเวลาหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ ก่อนที่เราจะซักมัน ซึ่งอาจจะทำให้เชื้อโรคและไวรัสบางชนิดสามารถรอดชีวิตมานานได้ ในความเป็นจริงเชื้อโรคอาจอยู่รอดได้หลายวันหรือหลายสัปดาห์ ความน่าจะเป็นของเชื้อโรคที่รอดชีวิตเพิ่มขึ้นหากสิ่งของนั้นมีความชื้น และอาจเป็นไปได้ว่าเสื้อผ้าออกกำลังกายที่มีเหงื่อออก หรือเสื้อยืดของคุณหลังจากออกกำลังกายที่บ้าน อาจกระตุ้นให้เชื้อโรคแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว แทนที่จะเพิ่มเสื้อผ้าสกปรกของคุณ หรือ วางเสื้อผ้าสกปรกของคุณไว้ตามที่ต่าง ๆ ในห้อง คงจะดีกว่าหากคุณทำการแยกเสื้อผ้าดังกล่าวไว้ในถุง หากคุณนั้นไม่ได้สามารถซักเสื้อผ้าได้บ่อย การถุงแยกเพื่อป้องกันการปนเปื้อนที่อาจช่วยยับยั้งการแพร่พระจายของไวรัสได้

• นำเสื้อผ้าออกทันทีหลังซักเสร็จ

เชื้อโรคและไวรัส สามารถอยู่รอดในเครื่องซักผ้าและแพร่กระจายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่ได้ เมื่อคุณวางเสื้อผ้าลงไปในเครื่องให้เริ่มการซักทันที จากนั้นให้ทำการนำเสื้อผ้าไปตากทันทีที่ซักเสร็จ ตั้งเวลาในโทรศัพท์ของคุณเพื่อเตือนให้คุณนำผ้าออกทันทีที่พร้อม และหลีกเลี่ยงการซักผ้าก่อนเข้านอนเพราะจะทำให้เสื้อผ้าสะอาดของคุณสัมผัสกับเชื้อโรคภายในเครื่องที่อาจติดเชื้อไวรัส คุณควรพิจารณาการล้างเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากผ่านการใช้งานแต่ละครั้ง

• ทำความสะอาดสิ่งต่าง ๆ ในอุณหภูมิสูง

คำแนะนำทางการแนะนำว่าควรซักชุดชั้นใน ผ้าเช็ดตัว และชุดเครื่องนอนควรใช้ความร้อนอยู่ที่ 60C (140F) หรือที่ 40C (104F) พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ใช้สารฟอกขาวเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย

หากคุณมักจะสวมใส่ชุดชั้นในที่ซักด้วยมือเท่านั้น ตอนนี้ถือเป็นเวลาที่จะซื้ออุปกรณ์ที่สามารถใช้งานกับการซักผ้าที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส โดยไม่ทำลายเนื้อผ้า

• วิธีการซักเสื้อผ้า และแจ๊กเก็ตของคุณ

เมื่อเราคิดถึงการซักผ้า พวกเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะซักเสื้อ ตอนนี้เรากำลังหลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวที่อาจปนเปื้อนด้วยมือของเรา ดังนั้นหากคุณใช้แจ็คเก็ต เช่น ข้อศอกหรือแขนสัมผัสไปยังสิ่งที่ใช้บ่อย เช่น ปุ่มลิฟท์ และประตูร้าน คุณควรล้างมือให้สะอาด เสื้อผ้าก็เช่นเดียวกับมือของคุณ

อย่างไรก็ตามคุณอาจต้องการทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ในพื้นที่ที่มองเห็นไม่ชัดของแจ็คเก็ตของคุณก่อนที่จะใช้มันเป็นครั้งแรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเสื้อผ้าของคุณทำจากหนังนิ่มหรือหนังที่บอบบาง

• ทำความสะอาดรองเท้า

หากคุณกลับมาจากข้างนอกโอกาสที่คุณจะใช้มือเพื่อปลดเชือกผูกรองเท้าหรือถอดรองเท้าก่อนที่คุณจะมีโอกาสล้างมือ หากมือของคุณมีการปนเปื้อนสิ่งนี้อาจแพร่กระจายไปยังรองเท้าของคุณ และดังนั้นแม้ว่าจะไม่ใช่คำแนะนำของ NHS อย่างเป็นทางการ แต่ก็ควรใช้สเปรย์ต่อต้านเชื้อโรคบนรองเท้าและเชือกผูกรองเท้าของคุณหลังจากได้รับการสัมผัส

• วิธีการซักเสื้อผ้า แยกออกจากการซักผ้าขนหนู

เนื่องจากผ้าขนหนูมักมีความชื้น จึงทำให้เชื้อโรคสามารถคงอยู่ได้นานขึ้น เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากผ้าขนหนูของคุณกับเสื้อผ้า คุณควรซักผ้าขนหนูแยกต่างหากและซักด้วยความร้อน 60C ตามที่แนะนำ

• ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

เนื่องจากเชื้อโรคและไวรัสสามารถยังคงอยู่ในเครื่องซักผ้าของคุณ และแพร่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ได้ในแต่ละครั้ง ให้ทำความสะอาดเครื่อง วิธีที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการใช้เครื่องโดยไม่มีสิ่งใดนอกจากน้ำยาเพื่อฆ่าเชื้อโรค จากนั้นจึงรันเครื่องอีกครั้งโดยไม่มีสิ่งใดนอกจากน้ำเพื่อกำจัดร่องรอยของสารน้ำยาทำความสะอาดที่อาจทำให้เสื้อผ้าของคุณเสียหาย

Source : Asiaone, stylist

บทความอื่น ๆ ที่น่าใจ

วิธีเลือกซื้อผ้าอ้อมเด็กฉบับคุณแม่ญี่ปุ่น มั่นใจได้ว่าลูกใส่สบายไม่ระคายเคืองไม่งอแง

หมอสอนวิธีทำความสะอาด ของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์ หรือ ไปจ่ายตลาด

วิธีล้างขวดนม ล้างอย่างไร ฆ่าเชื้อแบบไหนให้สะอาด ไม่ให้มีคราบเหลือง