วิธีละลายหมูแช่แข็ง ทำยังไง? ขั้นตอนการละลายหมูแช่แข็งแบบง่าย ๆ

ทุกครั้งที่เราจะประกอบอาหารเมนูไหนก็ตาม โดยเฉพาะอาหารที่นำไปแช่แข็ง แน่นอนว่านี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างใช้เวลาอยู่เช่นกัน สำหรับใครที่อยากจะนำหมูแช่แข็งมาทำประกอบอาหาร แต่ก็ไม่รู้ว่าเราควรมี วิธีละลายหมูแช่แข็ง อย่างไรบ้าง? เพื่อที่เราจะได้นำหมูเหล่านี้มาทำอาหารกันแบบง่าย ๆ เอาเป็นว่าเรามาดู วิธีละลายหมูแช่แข็ง ไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะ

เทคนิคการเลือกซื้อเนื้อหมูดูจากอะไรบ้าง?

ก่อนที่เราจะนำเนื้อหมูมาประกอบอาหาร เรามาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะว่า เราควรมีวิธีการเลือกซื้อเนื้อหมูอย่างไรบ้าง เพื่อเนื้อหมูที่เราซื้อไปนั้น จะได้มีรสชาติที่อร่อยและเก็บไว้ได้นานมากที่สุด หลายคนคงอยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าเลือกอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่ามาเลือกไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีเก็บผักสลัด ยังไง? ให้อยู่ได้นาน และสดใหม่อยู่เสมอ

1. ดูลักษณะสีของเนื้อหมู

สิ่งที่เราดูเป็นอย่างแรกอาจจะเริ่มสังเกตจากลักษณะสีของเนื้อหมูก่อน โดยเราอาจจะเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีสีชมพูอ่อน ๆ  ที่มีไขมันสีขาวอยู่ด้วย เพราะสิ่งนี้จะทำให้เราได้เนื้อหมูที่มีความสดใหม่ ที่สำคัญไม่ควรเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีสีแดงจนเกินไปนะคะ เพราะอาจจะมีสารเร่งเนื้อแดงผสมอยู่ด้วยได้

2. ไม่ควรเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีสีคล้ำ

ซื้อเนื้อหมูทั้งที หากใครที่อยากจะเก็บเนื้อหมูให้นาน ๆ เราไม่ควรที่จะซื้อเนื้อหมูที่มีสีเขียวคล้ำนะคะ เพราะสิ่งนี้อาจจะกำลังบ่งบอกว่าเนื้อหมูที่เราจะซื้อไปนั้นเป็นเนื้อหมูที่ไม่สดและเสียง่าย หากใครที่เจอเนื้อหมูลักษณะแบบนี้ไม่ควรซื้อมาเลยนะคะ

3. ซื้อเนื้อหมูที่กดแล้วไม่บุ๋ม

ข้อนี้ก็เป็นอะไรที่เราต้องระวังด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อไหร่ที่เราซื้อเนื้อหมูที่กดแล้วเป็นรอยบุ๋ม สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบอกว่าหมูที่เราซื้อนั้น ไม่สดหรืออาจจะเป็นเนื้อหมูเก่าที่ผ่านการแช่แข็งมาแล้วนั่นเองค่ะ

4. ลักษณะผิวของเนื้อหมูต้องมันวาว

อีกหนึ่งการสังเกตที่เราไม่ควรมองข้ามเลย คือลักษณะเนื้อหมูจะต้องมีความมันวาว บริเวณเนื้อหมูจะต้องไม่มีพังผืดเกิดขึ้น และในส่วนที่เป็นมันหมูอาจจะต้องมีลักษณะขาวใสตามไปด้วยค่ะ

5. สังเกตพยาธิในเนื้อหมู

ขั้นตอนต่อมาเราก็อาจจะต้องทำการสังเกตว่า เนื้อหมูที่เราซื้อมานั้นมีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ ภายในเนื้อหมูหรือเปล่า ถ้าเราทำการสังเกตแล้วพบว่ามีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ แทรกอยู่ในเนื้อหมู เราไม่ควรซื้อมารับประทานนะคะ เพราะอาจจะมีพยาธิอยู่ในเนื้อหมูด้วย

6. ทำการดมกลิ่นเนื้อหมู

สิ่งที่ขาดไม่ได้ต่อมาเลยคือ เราอาจจะต้องทำการดมกลิ่นเนื้อหมูก่อน หากดมกลิ่นแล้วเนื้อหมูมีกลิ่นเหม็น เราก็อาจจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงและไม่ควรที่จะซื้อเนื้อหมูเหล่านี้มาประกอบอาหารนะคะ

7. ควรปรุงให้สุก

หากเมื่อไหร่ที่เรานำเนื้อหมูเหล่านี้มาประกอบทำเป็นเมนูอาหาร เราควรที่จะต้องปรุงให้สุกก่อนรับประทานทุกครั้ง และหากจะดูว่าเนื้อหมูที่เราซื้อมานั้นมีความสดใหม่หรือไม่ เมื่อเวลาหมูสุกเนื้อจะมีลักษณะเป็นสีขาว ไม่มีสีแดงหลงเหลืออยู่ในเนื้อหมู

8. เก็บใส่ในกล่องพลาสติก

ซื้อเนื้อหมูมาทำอาหาร แต่เรากลับเหลือเนื้อหมูไว้บางส่วน ดังนั้นเราก็อาจจะนำเนื้อหมูส่วนที่เหลือมาเก็บไว้ในกล่องพลาสติกและนำไปแช่ช่องแข็ง เพื่อเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้ แต่การเก็บหมูด้วยวิธีนี้เราอาจจะต้องระวังหน่อยนะคะ หากเราเก็บไม่ดี สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้รสชาติของเนื้อหมูเปลี่ยนไปได้

เคล็ดลับการเก็บเนื้อหมูอย่างไรให้อยู่ได้นาน

หากคุณแม่คนไหนกำลังมองหาวิธีการเก็บเนื้อหมู หรือการถนอมเนื้อหมู อยากให้เนื้อหมูที่เราซื้อมานั้นเก็บไว้ได้นานมากที่สุด เรามาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีเคล็ดลับอย่างไรบ้าง และเคล็ดลับที่เรานำมาฝากทุกคนนั้นจะเห็นผลหรือไม่มาลุ้นกันเลยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีล้างตู้เย็น ให้สะอาดหมดจด ทุกซอกทุกมุมเหมือนได้ตู้เย็นใหม่!

1. เลือกซื้อเนื้อที่มีความสดใหม่

สิ่งที่เราจะต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก เราอาจจะต้องเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีความสดใหม่ ซึ่งเนื้อหมูที่ซื้อนั้นจะต้องมีเนื้ออมชมพู ไม่เป็นเนื้อที่แดง และไม่มีกลิ่นเหม็น และที่สำคัญอาจจะต้องดูลักษณะเนื้อตามไปด้วย

2. ล้างทำความสะอาด

ขั้นตอนต่อมาให้เรานำเนื้อหมูที่ซื้อมานั้น มาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนที่จะเก็บเข้าไปในกล่อง เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรค หรือสิ่งเจือปนต่าง ๆ ที่อาจจะติดมากับเนื้อหมูนะคะ

3. เก็บเนื้อหมูให้ในที่ที่มีอากาศน้อยที่สุด

ต่อมาเราอาจจะต้องเลือกวิธีการเก็บเนื้อหมูในบริเวณที่มีอากาศน้อยที่สุด ซึ่งสถานที่เก็บเนื้อหมูได้นานที่สุดอาจจะเป็นการเก็บเนื้อหมูไว้ในช่องแช่แข็งนั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ค่อนข้างนิยมมาก ๆ เพราะฉะนั้นใครที่อยากจะเก็บเนื้อหมูไว้รับประทานนาน ๆ เราอาจจะนำมาเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้เลย

วิธีละลายหมูแช่แข็ง แบบง่าย ๆ

หากใครที่ชอบนำเนื้อหมูไปแช่แข็งเป็นประจำอยู่แล้ว และอยากที่จะรู้ว่าเนื้อหมูที่เรานำไปแช่แข็งนั้น มีขั้นตอนการละลายด้วยวิธีไหนบ้าง เข้ามาดูกันเลยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับ! วิธีกำจัดมด แบบง่าย ๆ ที่หลายคนควรรู้

1. ละลายในตู้เย็น

ขั้นตอนการละลายเนื้อหมูอย่างแรก เราอาจจะเลือกละลายเนื้อหมูในตู้เย็นก็ได้ การละลายเนื้อหมูด้วยวิธีนี้อาจจะเป็นการละลายที่ไม่ได้ต้องการใช้เนื้อหมูเร็วขนาดนั้น โดยให้เรานำเนื้อหมูออกมาจากช่องฟรีซ จากนั้นก็นำมาใส่ไว้ในตู้เย็นช่องปกติทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน เพียงเท่านี้เราก็สามารถนำเนื้อหมูมาประกอบอาหารได้ตามปกติแล้ว

2. ละลายในน้ำเย็น

ขั้นตอนการละลายเนื้อหมูในน้ำเย็น  เราอาจจะนำเนื้อหมูมาแช่ไว้ในถุงพลาสติกพร้อมกับทำการปิดปากถุงให้สนิท จากนั้นให้นำไปแช่ด้วยน้ำเย็น ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างการแช่ เราอาจจะต้องทำการเปลี่ยนน้ำไปเรื่อย ๆ ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง ต้องบอกว่าการละลายหมูด้วยวิธีนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

3. ละลายด้วยหม้อสเตนเลส

ขั้นตอนต่อมาเป็นการละลายเนื้อหมูด้วยหม้อสเตนเลส ซึ่งขั้นตอนการทำคือให้เรานำเนื้อหมูที่ผ่านการแช่แข็งมาห่อด้วยฟิล์มถนอมอาหาร จากนั้นเราก็จะนำเนื้อหมูที่ได้มาวางไว้บริเวณก้นหม้อ ทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที เพียงแค่ใช้เวลาไม่นานเนื้อหมูเราก็จะนุ่มขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ และที่สำคัญไปกว่านั้นต้องบอกว่าเป็นขั้นตอนที่ทำตามได้ง่ายมาก ๆ แถมยังใช้เวลาในการทำไม่นานเลย ใครที่รีบ ๆ อาจจะลองใช้วิธีนี้ดูนะคะ

4. ละลายเนื้อหมูด้วยไมโครเวฟ

อีกหนึ่งวิธีที่เราจะทำการละลายเนื้อหมูได้แบบง่าย ๆ เราอาจจะละลายเนื้อหมูด้วยไมโครเวฟได้ โดยอาจจะใช้ไฟต่ำปานกลาง อยู่ที่ประมาณ 160 – 200 วัตต์ ซึ่งใช้เวลาเวฟประมาณ 4 นาที หมูเราก็จะเริ่มละลายและสามารถนำไปประกอบอาหารได้เลยนะคะ แต่วิธีนี้เราอาจจะต้องระวังหน่อยนะคะ เมื่อไหร่ที่เราเวฟนานจนเกินไป สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้หมูของเราดูฉ่ำจนเกินไป

วิธีการละลายเนื้อหมู และเทคนิคการซื้อเนื้อหมูที่เราได้นำมาฝากทุกคนให้ได้รู้กันนั้น ต้องบอกเป็นอะไรที่ค่อนข้างสำคัญและไม่ควรมองข้ามมาก ๆ ยิ่งใครที่ชอบนำเนื้อหมูมาประกอบอาหารอยู่แล้ว ก่อนที่เรานำเนื้อหมูมาประกอบอาหาร อย่าลืมเข้ามาอ่านรายละเอียดกันนะคะ เชื่อเลยว่าสิ่งที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ จะต้องทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนคลายข้อกังวล และสามารถนำเนื้อหมูแช่แข็งมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นมาเลย ห้ามพลาดเลยนะคะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิธีกำจัดปลวก ทำอย่างไร? บอกลาปัญหาปลวกขึ้นบ้านกัน!

15 วิธีไล่ยุง ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัย อ่อนโยนต่อลูกน้อย ไม่อันตราย

10 วิธีกำจัดแมลงเม่า เมื่อมันบินเข้าบ้านเรา จัดการไล่แมลงเม่าเมื่อบินเข้าบ้าน

ที่มา : krua, pitchameat