สุกี้ ชาบู หมูกระทะ เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารที่เราคนไทยกินได้ทุกวัน ทุกโอกาส ไม่ว่าจะกินที่ร้านหรือเปิดปาร์ตี้ที่บ้าน ซึ่งไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้ในเมนูนี้ก็คือ หม้อไฟฟ้า วันนี้ theAsianparent จึงมีเคล็ดลับดี ๆ วิธีเลือกหม้อไฟฟ้า ว่าควรเลือกซื้อยังไงให้ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด ปลอดภัย อีกทั้งยังใช้งานได้นาน หม้อไฟฟ้าไม่พังง่าย ถ้าอยากรู้ว่าวิธีเลือกควรเลือกอย่างไรตามไปดูได้เลยค่ะ
หม้อไฟฟ้า ดียังไง ?
หม้อไฟฟ้า หรือ หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในการทำอาหารประเภทสุกี้ ชาบู เมนูต้ม เมนูนึ่ง รวมถึงเมนูอบ ซึ่งถือว่าเป็นไอเทมที่มีความอเนกประสงค์สมชื่อ เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลาย มีความคุ้มค่าในการใช้งาน เนื่องจากมีความครอบคลุมในการทำอาหารได้มากมายหลายอย่าง ซึ่งหม้อไฟฟ้าจะเป็นไอเทมที่มีความก้ำกึ่งระหว่าง หม้อต้มไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า และหม้อนึ่งไฟฟ้าที่ถูกผสมผสานอยู่ในชิ้นเดียว จึงทำให้ข้อดีของหม้อไฟฟ้า คือความสารพัดประโยชน์ในการใช้งานนั่นเองค่ะ อีกทั้งยังมีความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะใช้งานง่ายมาก ๆ เพียงแค่เสียบปลั๊กไฟก็สามารถเนรมิตอาหารรสเด็ดได้เหมือนกินที่ร้านเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 8 เตาย่าง เตาบาร์บีคิวย่างถ่าน สำหรับแคมป์ปิ้ง และงานปาร์ตี้ที่บ้าน
แนะนำ วิธีเลือกหม้อไฟฟ้า by TAP
หลังจากที่ได้ทราบกันไปแล้วว่าข้อดีของหม้อไฟฟ้าดียังไง ต่อมาก็มาดูกันว่าหม้อไฟฟ้าควรเลือกอย่างไร เพื่อให้คุ้มค่า ปลอดภัย และมีอายุการใช้งานที่สามารถใช้ได้นาน สำหรับพ่อบ้าน – แม่บ้านคนไหนที่อยากได้หม้อไฟฟ้าที่ดีคุ้มค่าสามารถนำวิธีเลือกเหล่านี้ไปประกอบการเลือกซื้อได้เลยค่ะ
1. วิธีเลือกหม้อไฟฟ้า | จากดีไซน์ที่ถูกใจ
สำหรับวิธีการเลือกหม้อไฟฟ้าวิธีแรกต้องเริ่มจากความชอบทั้งเรื่องของดีไซน์ สี รูปทรง การออกแบบ อาทิ เช่น ด้ามจับ ฝาหม้อ ตัวหม้อไฟฟ้า หรือฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ถูกใจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการใช้งานมากที่สุด เพราะได้สิ่งที่ต้องการ ซึ่งหม้อไฟฟ้าปัจจุบันนี้ก็มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบทั้งสีสันสดใส หรือ สีคลีน ๆ สไตล์มินิมอล ซึ่งถ้าเลือกซื้อหม้อไฟฟ้าที่มีดีไซน์ถูกใจก็จะช่วยทำให้ทานอาหารได้อร่อยมากยิ่งขึ้น
2. วิธีเลือกหม้อไฟฟ้า | จากความจุของหม้อ
การที่จะเลือกซื้อหม้อไฟฟ้าให้ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด ! ต้องเลือกจากความจุที่ต้องการ โดยให้เลือกจากการใช้งาน อาทิ เช่น
- ถ้าต้องการใช้หม้อไฟฟ้าเพียงแค่คนเดียวสำหรับคนที่อยู่หอ หรือ อยู่คอนโด ปริมาณหม้อไฟฟ้าที่มีความพอเหมาะ ใช้แล้วจะไม่ทำให้กินไฟ หรือเปลืองเนื้อที่ในการวางนั่นก็คือ หม้อไฟฟ้าขนาดความจุ 1 ลิตร ซึ่งเป็นขนาดที่กำลังดีต่อการใช้งานเพียงคนเดียว
- แต่สำหรับใครที่อยู่เป็นคู่ เพิ่งแต่งงานกัน หรืออยู่หอกับเพื่อน ๆ จำนวน 2 – 3 คน แนะนำให้เลือกซื้อหม้อไฟฟ้าขนาดความจุ 1.5 – 2 ลิตร จะตอบโจทย์ได้มากยิ่งขึ้น
- และสำหรับใครที่ต้องการใช้งานโดยการรับประทานทั้งครอบครัวตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (4 – 5 คน) ควรเลือกซื้อหม้อไฟฟ้าที่มีความจุประมาณ 3 ลิตร ซึ่งจะมีความใหญ่จุใจสามารถใส่อาหารได้เยอะ และทานพร้อมกันได้โดยที่ไม่ต้องแยกเป็นหลาย ๆ หม้อ
3. วิธีเลือกหม้อไฟฟ้า | จากกำลังวัตต์ และ การปรับระดับความร้อน
รู้หรือไม่ว่า.. หม้อไฟฟ้าบางรุ่นที่มีความจุน้อยแต่กำลังวัตต์เยอะจะช่วยทำให้หม้อไฟฟ้าร้อนได้เร็วมากขึ้น ในขณะที่หม้อไฟฟ้าบางรุ่นมีความจุที่เยอะมาก ๆ แต่กำลังวัตต์น้อยก็จะทำให้หม้อร้อนช้า รอนาน ไม่ทันใจในการรับประทาน เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อหม้อไฟฟ้าก็ต้องดูในเรื่องของกำลังวัตต์ เพื่อให้ตอบโจทย์ในการใช้งานนั่นเองค่ะ
รวมถึงการปรับระดับความร้อน ซึ่งหม้อไฟฟ้าแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็จะมีฟังก์ชันการปรับระดับความร้อนที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2 – 3 ระดับ คือระดับเบา ระดับกลาง และระดับสูง สำหรับใครที่ชอบให้หม้อไฟฟ้าร้อนเร็ว ๆ แนะนำให้เลือกหม้อไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับความร้อนได้สูง เพื่อให้ทันใจต่อการรับประทาน
4. วิธีเลือกหม้อไฟฟ้า | จากตำแหน่งของปลั๊กไฟ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เคยใช้หม้อไฟฟ้าจะต้องเคยมีปัญหาในเรื่องของตำแหน่งรูเสียบปลั๊กไฟ ซึ่งปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นก็คือเวลาล้างทำความสะอาดจะทำได้ค่อนข้างยากถ้าหากรูเสียบปลั๊กไฟอยู่ด้านข้างของหม้อไฟฟ้า เพราะขณะที่ล้างทำความสะอาด น้ำยาล้างจาน น้ำ หรือคราบอาหารอาจจะไหลเข้ารูปลั๊กได้ถ้าหากไม่ระมัดระวัง ซึ่งจะทำให้หม้อไฟฟ้าเสียง่าย พังเร็ว อายุการใช้งานสั้นลงนั่นเองค่ะ
TIPS by TAP : ซึ่งการจะให้ดีแนะนำให้เลือกหม้อไฟฟ้าที่มีรูเสียบปลั๊กไฟอยู่จุดเดียวกับตัวด้ามจับ เพราะว่าเวลาล้างทำความสะอาดจะทำได้ง่ายกว่า ช่วยให้ทำความสะอาดหม้อได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
5. วิธีเลือกหม้อไฟฟ้า | มีชั้นนึ่งมาให้พร้อม
สำหรับใครที่อยากได้ความคุ้มค่า คุ้มราคา และอยากได้หม้อไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย แนะนำให้เลือกซื้อหม้อไฟฟ้าที่มีชั้นนึ่งมาให้พร้อม เพราะจะช่วยทำให้สามารถทำอาหารได้หลายประเภทมากยิ่งขึ้น แถมยังสามารถใช้ในการอุ่นอาหารก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหม้อไฟฟ้าบางยี่ห้อจะไม่ได้มาพร้อมชั้นนึ่ง จึงทำให้สามารถใช้งานได้ไม่หลากหลายและไม่ค่อยคุ้มค่าต่อการใช้งานนั่นเองค่ะ
6. วิธีเลือก หม้อไฟฟ้า | ทำความสะอาดง่าย
การทำความสะอาดเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกซื้อหม้อไฟฟ้า เพราะหม้อไฟฟ้าบางรุ่นที่มีดีไซน์เป็นร่อง ๆ ที่ก้นหม้อ หรือมีรอยเชื่อมระหว่างตัวหม้อจะทำให้ล้างทำความสะอาดได้ยาก เพราะคราบจะตกลงไปอยู่ในร่องทำให้ต้องขัด ๆ ถู ๆ นานขึ้น ในขณะที่หม้อไฟฟ้าที่ดีไซน์เป็นพื้นเรียบ ไร้รอยต่อ ไร้รอยเชื่อมจะสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่ามาก ๆ ซึ่งจะช่วยให้คราบมัน รอยไหม้ สามารถล้างออกได้ง่ายมากขึ้นนั่นเองค่ะ
7. วิธีเลือก หม้อไฟฟ้า | จากวัสดุที่ใช้ผลิต
และสำหรับวิธีเลือกหม้อไฟฟ้าวิธีสุดท้ายที่จะช่วยทำให้ได้หม้อไฟฟ้าที่มีความคุ้มค่า และมีอายุการใช้งานที่สามารถใช้ได้นานนั่นก็คือ การเลือกจากวัสดุที่ใช้ผลิต ซึ่งวัสดุที่นิยมนำมาใช้ผลิตหม้อไฟฟ้าจะมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ แบบเคลือบสารที่ช่วยป้องกันไม่ให้อาหารติดหม้อ และแบบสเตนเลส ซึ่งทั้ง 2 ประเภทก็มีทั้งข้อดี และ ข้อด้อยที่แตกต่างกันออกไป
- หม้อไฟฟ้าแบบเคลือบสารป้องกันการติดหม้อ : โดยที่ข้อดีของหม้อไฟฟ้าประเภทนี้ก็ตรงตามชื่อเลยค่ะ ก็คือจะช่วยทำให้อาหารไม่ติดหม้อส่งผลให้สามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย แต่ข้อด้อย คือต้องระมัดระวังในการล้างด้วยเช่นกัน เพราะมิเช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนที่ผิวเคลือบได้นั่นเองค่ะ
- หม้อไฟฟ้าแบบสเตนเลส : ซึ่งข้อดีของหม้อไฟฟ้าประเภทนี้คือความทนทาน สามารถใช้งานได้นานมาก ๆ แต่ข้อด้อยก็คืออาจจะล้างทำความสะอาดได้ยากกว่าเล็กน้อย หรือต้องใช้เวลาขัดนานกว่าปกติ
และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีเลือกหม้อไฟฟ้าที่ theAsianparent ได้รวบรวมมาฝากสำหรับใครที่กำลังอยากซื้อหม้อไฟฟ้ามาใช้แต่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อยังไงถึงจะดี มีความคุ้มค่า และเหมาะกับตัวเองก็สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปเลือกซื้อ หรือปรับใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การรับประทานของตัวเองได้เลยค่ะ เพื่อให้ได้หม้อไฟฟ้าที่คุ้มค่า ใช้งานได้นาน และถูกใจมากที่สุด !
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำ 7 หม้อไฟฟ้า หม้ออเนกประสงค์ ขนาดเล็ก ร้อนเร็ว ราคาไม่แพง
10 หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี ทนทาน ใช้งานง่าย หลากสไตล์ อาหารสุกเร็ว
7 หม้อสุกี้ หม้อสุกี้ชาบู หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ สำหรับคนรักชาบูที่อยากแนะนำ
ที่มา : bestreview
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!