“ความเคารพ” สำคัญสำหรับเด็ก ฝึกอย่างไรให้ลูกเข้าใจตั้งแต่ยังเล็ก

เด็กเล็กมักมีการแสดงออกในแบบที่ตนเองจดจำ การที่จะให้เด็กมีความเข้าใจคำว่า “ความเคารพ” จึงต้องเริ่มจากบุคคลรอบตัวที่จะต้องแสดงความเคารพต่อผู้อื่นให้ลูกเห็นเสียก่อน รวมไปถึงการใช้สื่อ และกิจกรรมต่าง ๆ ช่วยให้ลูกมีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันยังต้องระวังเรื่องของการเสพสื่อที่อาจทำให้ลูกจดจำพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความสำคัญในด้านนี้ด้วยเช่นกัน

ความเคารพในเด็กคืออะไร ทำไมจึงสำคัญ ?

เด็กเล็กที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนั้นอาจมีการแสดงออกที่ต้องระมัดระวังอันเกิดจากการเลียนแบบบุคคลรอบตัว หรือ “ความไม่รู้” ทำให้การแสดงออกอาจขัดต่อบรรทัดฐานทางสังคมได้ การที่เด็กได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้ไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย ถือเป็นการปลูกฝังแนวคิดที่ถูกต้องให้กับเด็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เช่น การให้เด็กมีการพูดจา หรือปฏิบัติต่อบุคคลอื่นอย่างสุภาพ ไม่แสดงกิริยาอาการที่ไม่เคารพ เช่น โวยวายใส่ หรือพูดจาไม่ดีใส่ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันความเคารพ ยังรวมไปถึงความหลากหลายในตัวของบุคคล เช่น ความสามารถ, สีผิว และเพศด้วย

หากเด็กไม่ได้รับการปลูกฝังในเรื่องนี้ในอนาคตเมื่อเด็กโตไปจะทำให้มีปัญหากับบุคคลอื่นรอบตัวได้ และไม่เข้าใจบริบทของสังคมที่มีการเปิดรับ และให้ความสำคัญกับการเคารพและให้เกียรติกันทั้งชีวิตจริง และโลกออนไลน์

“ความเคารพ” เริ่มขึ้นที่ตัวเรา

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนคงอยากให้ลูกตัวน้อยโตขึ้นมาเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจและมีความเคารพต่อผู้อื่นอยู่แล้ว แต่สำหรับเด็กเล็กต้องพึงคำนึงตลอดว่าพวกเขาจะจดจำสิ่งที่อยู่รอบตัว ด้วยวัยที่กำลังเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ทำให้เด็ก ๆ มักจะจดจำสิ่งที่บุคคลรอบตัวพูดถึง หรือกระทำออกมาบ่อย ๆ ดังนั้นหากต้องการให้ลูกโตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีความเคารพต่อผู้อื่น ก็ต้องเริ่มจากตัวของคุณพ่อคุณแม่เวลาพูดถึงคนอื่น ต้องมีความเคารพในตัวตนของผู้อื่น หรือต้องเริ่มจากการเคารพในสิ่งที่ลูกเป็นก่อน เพื่อให้ลูกได้เห็นและจดจำ

ความเคารพต้องรวมถึงตัวตนที่ลูกเป็น

ความเคารพ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มขึ้นมาคือการยอมรับตัวตนที่ลูกเป็นทั้งความถนัดสิ่งต่าง ๆ ความเก่งไม่เก่งในด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งบางครั้งอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เห็นด้วยแต่ต้องให้ความเข้าใจกับเด็กและสิ่งที่เขาเป็น ระวังการเปรียบเทียบหากนำเด็กไปเทียบกับคนที่เก่งกว่าจะทำให้เด็กเกิดความกดดันได้ และเมื่อเขาโตขึ้นเขาอาจแสดงออกด้วยการไม่ยอมรับในตัวตนของผู้อื่นเหมือนกับที่เขาเคยไม่ถูกยอมรับมาก่อนนั่นเอง

นอกนี้ในด้านคำพูดเองก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก การแสดงออกทั้งคำพูดและภาษากายจะทำให้ลูกจดจำ หากลูกมีความไม่มั่นใจหรือแสดงความแตกต่างใด ๆ ออกมา คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรใช้คำพูด และสีหน้าท่าทางไปในเชิงแง่ลบ เพราะลูกจะจดจำและนำไปใช้กับผู้อื่นได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติอย่างไรและเข้าใจลูกมากขึ้นภายใน 16 นาที

ความหลากหลายเป็นเรื่องธรรมดา

เด็กยุคนี้เกิดมาท่ามกลางแนวคิดที่มีความหลากหลายกว่าในอดีตอยู่มาก เนื่องจากยุคดิจิทัลทำให้เกิดวัฒนธรรม หรือตัวตนใหม่ ๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเพศ หรือเรื่องสีผิวที่ได้รับความสนใจ และถูกผลักดันอย่างมากในตอนนี้ เด็กที่เติบโตมาในยุคนี้จึงต้องมีความเข้าใจในความหลากหลาย แน่นอนว่าอาจเป็นเรื่องยากที่เด็กเล็กจะศึกษา และสามารถเข้าใจได้ด้วยตนเอง เรื่องแบบนี้จึงหนีไม่พ้นผู้ปกครองที่เป็นสื่อกลางในการอธิบายให้เด็กเข้าใจได้ง่ายขึ้น ยิ่งฝึกเด็กในตอนนี้เขาจะยิ่งเรียนรู้ และเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ต่อต้านความหลากหลาย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

ทางเลือกทางหนึ่งในการให้ลูกได้เข้าใจความหลากหลายในสังคมปัจจุบัน สามารถหาศึกษาได้จากวิดีโอการ์ตูนด้านล่างได้เช่นกัน

ขอบคุณวิดีโอจาก Youtube : JC PRC

ใช้สื่อกลางสอนให้ลูกรู้จักความเคารพ

เด็กช่วงก่อนเข้าเรียนเป็นวัยที่กำลังซน และอยากเล่นอยากรู้เรื่องรอบ ๆ ตัวของเขา การนำเด็กมานั่งฟังข้อมูลที่ต้องประมวลความเข้าใจคงเป็นเรื่องยาก แต่คุณพ่อคุณแม่ยังคงใช้ไม้ตายคือนิทานสอนลูก และการทำกิจกรรมสนุก ๆ ได้เสมอ

• การเล่านิทานให้ลูกฟัง : เป็นทางเลือกพื้นฐานเมื่อต้องการให้ข้อคิดต่าง ๆ กับลูกในทุกเรื่อง ความเคารพเองก็เช่นกัน การพูดให้เด็กเข้าใจหรือการให้เนื้อหาสาระโดยตรงอาจเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับเด็กเล็ก การใช้สื่อกลางเรียนรู้ในรูปแบบนิทานก็ถือเป็นทางเลือกที่ทำได้ ยกตัวอย่างวิดีโอด้านล่างนี้ที่กล่าวถึงความเคารพต่อผู้อื่น

ขอบคุณวิดีโอจาก Youtube : OFF ICE

• การทำกิจกรรมในครอบครัว : เด็กชอบเล่น และผ่อนคลายมากกว่าการทำในสิ่งที่เครียดหรือกดดันเสมอ หากเข้าใจในจุดนี้การให้เด็กเรียนรู้ผ่านการเล่นไม่ใช่เรื่องที่แปลก เช่น การเล่นเกมตอบคำถามที่เกี่ยวกับตัวตนของผู้อื่น หรือการแสดงออกต่อผู้อื่น โดยจะมีช้อยให้ลูกเลือกตอบ หากลูกตอบถูกก็จะได้คะแนน หากตอบผิดต้องเฉลยว่าผิดเพราะอะไร หลังจากนั้นค่อยรวมคะแนนที่ลูกได้และให้รางวัลตามความเหมาะสม กิจกรรมนี้อาจทำเป็นครั้งคราวตามโอกาสแต่ต้องเปลี่ยนคำถามเสมอ เพื่อทดสอบและสอนลูกให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้นตามลำดับ

สังเกตความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ความเคารพ”

การแสดงความเคารพบุคคลอื่นให้ลูกเห็นเป็นสิ่งที่ดี ไปจนถึงสอนให้ลูกรู้จักความหลากหลายก็ต้องทำ แต่หลังจากทำไปแล้วหากเด็กยังมีพฤติกรรมไปทางด้านลบ เช่น ล้อผู้อื่นที่มีความสามารถต่ำกว่า หรือการไม่ให้เกียรติคนรอบตัวที่เป็นเพศอื่น นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้แล้ว ต้องทำการตักเตือนลูก ๆ ว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นไม่ถูกต้อง และอธิบายให้ลูกเห็นว่าไม่ถูกอย่างไร และควรแก้ไขอย่างไร ในทางตรงกันข้ามหากลูกมีความเข้าใจดี และแสดงออกไปในทางที่ดี มีความเคารพและให้เกียรติผู้อื่นก็ไม่ควรนิ่งเฉยเช่นกัน ควรให้รางวัลกับเขา หรือกล่าวชื่นชมว่าสิ่งที่ลูกทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 วิธีปราบลูกดื้อ ทำยังไงดีเมื่อลูกดื้อ วิธีปราบลูกอย่างสร้างสรรค์ ทำอย่างไร ?

การเลียนแบบการแสดงออกจากสื่อที่ต้องระวัง

ยุคนี้อะไรก็เป็นออนไลน์ ดังนั้นเด็กหลายคนจึงยากที่จะหลีกเลี่ยงการเสพสื่อออนไลน์ต่าง ๆ หรือรวมไปถึงการดูทีวี และภาพยนตร์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้หากเด็กเห็นจนชิน เขาอาจจะมองว่าเป็นเรื่องปกติ สามารถทำได้ ซึ่งบางพฤติกรรมอาจแสดงถึงความไม่เคารพต่อผู้อื่น การพูดจาไม่ดี อาจเป็นความเสี่ยงของการปลูกฝังในสิ่งที่ผิดได้  ดังนั้นทุกครั้งที่ลูกสัมผัสกับสื่อออนไลน์ หรือสื่ออื่น ๆ ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยลูกเอาไว้คนเดียว แต่ต้องคอยอยู่กับลูกและให้คำแนะนำเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ลูกได้พบเห็นด้วย

หากเด็กมีการเลียนแบบพฤติกรรม หรือมีความไม่เข้าใจเกี่ยวกับ “ความเคารพ” อย่างรุนแรงจนแสดงออกแบบผิด ๆ ถึงเตือนแล้วอธิบายแล้วเด็กไม่มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น และต่อต้านอย่างมาก ควรพาลูกเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการปฏิบัติตัว เพื่อไม่ให้เด็กมีปัญหาในอนาคต

บทความที่น่าสนใจ

แนะนำหนังเรื่อง “ผจญภัยพิทักษ์คริสต์มาส” ครอบครัวคือสิ่งสำคัญสำหรับเด็กเสมอ

6 เมนูไข่ขาว !! สำหรับเด็ก ทำง่าย-ได้เร็ว ลูกชอบแน่นอน

ลูกโยน-ขว้างสิ่งของ เมื่อความ “โกรธ” ไม่ใช่เรื่องตลก แต่รับมือได้ใน 4 ขั้นตอน

ที่มาข้อมูล : facebook aboutmom