X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เล่นกับลูกยังไงให้ฉลาด? 10 วิธี กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์

บทความ 5 นาที
เล่นกับลูกยังไงให้ฉลาด? 10 วิธี กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์

แนะนำวิธีเล่นกับลูกง่ายๆ 10 วิธีกระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์ ให้ลูกมีพัฒนาการดี สมองไว เริ่มได้เลย ไม่ต้องรอคลอด

ชีวิตน้อยๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในครรภ์แม่ กำลังพัฒนาอวัยวะและประสาทสัมผัสต่างๆ อย่างต่อเนื่อง การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์ จึงสำคัญต่อการวางรากฐานความฉลาดและพัฒนาการที่ดีรอบด้านของลูก วันนี้เรามี วิธีเล่นกับลูกง่ายๆ 10 วิธี กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์ เพื่อให้ลูกมีพัฒนาการดี สมองไวตั้งแต่ในครรภ์มาฝากค่ะ

 

ประสาทสัมผัสของทารกในครรภ์ เริ่มพัฒนาเมื่อไหร่?

แม้จะอยู่ในพื้นที่จำกัดในครรภ์แม่ แต่ลูกน้อยก็มีการพัฒนาประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างน่าทึ่ง ซึ่งจะค่อยๆ เริ่มทำงานและสมบูรณ์ขึ้นตามลำดับดังนี้

  • การสัมผัส

การสัมผัส คือ ประสาทสัมผัสแรกที่เริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว ลูกน้อยจะเริ่มตอบสนองต่อการสัมผัสได้ตั้งแต่ประมาณ สัปดาห์ที่ 8-10 โดยเริ่มจากบริเวณริมฝีปากและแก้ม จากนั้นจึงพัฒนาไปทั่วร่างกายภายในสัปดาห์ที่ 14 การสัมผัสช่วยให้ลูกน้อยรับรู้ถึงสิ่งรอบตัว รวมถึงเรียนรู้ขอบเขตและตำแหน่งของร่างกายตัวเอง

  • การได้ยิน

โครงสร้างของหูเริ่มก่อตัวตั้งแต่ไตรมาสแรก แต่ลูกน้อยจะเริ่มได้ยินเสียงอย่างชัดเจนขึ้นประมาณ สัปดาห์ที่ 16-18 และจะตอบสนองต่อเสียงต่างๆ ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ การได้ยินช่วยให้ลูกน้อยคุ้นเคยกับเสียงที่อยู่รอบตัว โดยเฉพาะเสียงหัวใจและเสียงพูดของคุณแม่ ซึ่งจะกลายเป็นเสียงที่สร้างความรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นเมื่อเขาคลอดออกมา

  • การรับรส

ตุ่มรับรสเริ่มพัฒนาประมาณ สัปดาห์ที่ 11-15 และลูกน้อยจะเริ่มกลืนน้ำคร่ำ ซึ่งมีรสชาติแตกต่างกันไปตามอาหารที่คุณแม่รับประทาน (เช่น หวาน, ขม) ทำให้เขาสามารถแยกแยะรสชาติได้ การพัฒนาประสาทรับรส เป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูกน้อยคุ้นเคยกับรสชาติหลากหลาย ก่อนที่จะเริ่มรับประทานอาหารหลังคลอด

  • การได้กลิ่น

Advertisement

โครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการได้กลิ่นเริ่มก่อตัวประมาณ สัปดาห์ที่ 11-15 และลูกน้อยจะเริ่มรับรู้กลิ่นที่อยู่ในน้ำคร่ำได้ การได้กลิ่นจะช่วยให้ลูกน้อยจำกลิ่นเฉพาะตัวของคุณแม่ได้หลังคลอด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น

  • การมองเห็น

ดวงตาเริ่มก่อตัวเร็วตั้งแต่ไตรมาสแรก แต่การมองเห็นเป็นประสาทสัมผัสสุดท้ายที่พัฒนา เนื่องจากสภาพแวดล้อมในครรภ์มืดมาก ลูกน้อยจะเริ่มตอบสนองต่อแสงสว่างจางๆ ที่ส่องผ่านหน้าท้องได้ประมาณ สัปดาห์ที่ 26-28 ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับตัวและมองเห็นโลกภายนอกเมื่อคลอด

 

กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์

 

ประโยชน์ของการเล่นกับลูกในท้อง กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์ 

การเล่นกับลูกน้อยในครรภ์ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างความผูกพันทางอารมณ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อพัฒนาการสมองและการเรียนรู้ของลูกน้อยอย่างมหาศาล

  • สร้างเครือข่ายใยประสาทในสมอง: การกระตุ้นประสาทสัมผัสอย่างสม่ำเสมอจะช่วยส่งเสริมการสร้างและการเชื่อมโยงของใยประสาทในสมอง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของความฉลาด การเรียนรู้ และการแก้ปัญหา
  • พัฒนาการทางภาษาและทักษะการสื่อสาร: การฟังเสียงและการพูดคุยช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับจังหวะของภาษาและคำศัพท์
  • พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม: ลูกน้อยที่ได้รับการกระตุ้นและตอบสนองอย่างสม่ำเสมอ มักจะมีอารมณ์ดี สงบ และมีสายใยผูกพันกับคุณแม่แน่นแฟ้น
  • กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและการเรียนรู้: การได้รับสิ่งกระตุ้นใหม่ๆ ทำให้สมองของลูกน้อยมีการทำงานและเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ หลังคลอด
  • ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว: การรับรู้การสัมผัสและการตอบสนองต่อการกระตุ้นช่วยให้ลูกน้อยมีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วขึ้น

 

กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์

10 วิธี กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์ เล่นกับลูกยังไงในฉลาดตั้งแต่ในท้องแม่

มาดู 10 วิธีง่ายๆ ที่คุณแม่สามารถทำได้ทุกวัน เพื่อช่วย กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์ ให้เติบโตอย่างฉลาดและแข็งแรงกันค่ะ!

 

1. พูดคุยกับลูกน้อยบ่อยๆ (กระตุ้นการได้ยิน, ภาษา)

เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวันของคุณแม่, แนะนำตัวเองและคุณพ่อ, พูดคุยกับลูกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือแค่ทักทาย “สวัสดีครับ/ค่ะลูกรัก” ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและนุ่มนวล

ประโยชน์: ลูกน้อยจะเริ่มคุ้นเคยกับเสียงของคุณแม่ ซึ่งเป็นเสียงที่ปลอดภัยและอบอุ่นที่สุด และช่วยสร้างความผูกพันทางอารมณ์ รวมถึงวางรากฐานด้านภาษา

 

2. ร้องเพลงหรือเปิดเพลงคลาสสิก/บรรเลงเบาๆ (กระตุ้นการได้ยิน, อารมณ์)

ร้องเพลงกล่อมเด็ก เพลงที่คุณแม่ชอบ หรือเปิดเพลงคลาสสิกอย่าง Mozart, Beethoven, หรือเพลงบรรเลงที่มีจังหวะผ่อนคลาย (เลี่ยงเพลงที่มีจังหวะรุนแรงหรือเสียงดังเกินไป) เปิดในระดับเสียงที่พอดี ไม่ต้องจ่อลำโพงที่หน้าท้องโดยตรง

ประโยชน์: เสียงเพลงช่วยกระตุ้นการได้ยินและจังหวะ ซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนาการทางดนตรีและอารมณ์ของลูกน้อย

 

3. อ่านนิทานหรือหนังสือให้ลูกฟัง (กระตุ้นการได้ยิน, ภาษา, จินตนาการ)

เลือกนิทานหรือหนังสือที่มีเนื้อหาดีๆ มีภาพประกอบสวยงาม อ่านออกเสียงด้วยน้ำเสียงที่หลากหลาย มีสูง-ต่ำ น่าสนใจ

ประโยชน์: เป็นการฝึกการฟังให้ลูกน้อยคุ้นเคยกับสำเนียงและคำศัพท์ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาและจินตนาการตั้งแต่ในครรภ์

 

กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์

 

4. ลูบหน้าท้องอย่างอ่อนโยน (กระตุ้นการสัมผัส)

ใช้มือของคุณแม่ลูบไล้หน้าท้องอย่างเบามือเป็นวงกลม หรือลูบไปตามตำแหน่งที่ลูกน้อยเคลื่อนไหวบ่อยๆ สังเกตการตอบสนองของลูกน้อย

ประโยชน์: เป็นการสื่อสารผ่านการสัมผัส ช่วยให้ลูกน้อยรับรู้ถึงการสัมผัสจากภายนอก สร้างความรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น

บทความจากพันธมิตร
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่

 

5. นวดหน้าท้องเบาๆ ด้วยโลชั่นบำรุงผิว (กระตุ้นการสัมผัส, กลิ่น)

ใช้โลชั่นบำรุงผิวสำหรับคนท้องที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ (หากคุณแม่ไม่แพ้กลิ่น) นวดหน้าท้องเบาๆ เป็นวงกลมขณะอาบน้ำหรือก่อนนอน

ประโยชน์: กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์ ทั้งการสัมผัสและกลิ่นของลูกน้อย นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณแม่ด้วย

 

6. ตอบสนองต่อการเตะหรือดิ้นของลูก (กระตุ้นการสัมผัส, การสื่อสารสองทาง)

เมื่อลูกน้อยเตะหรือดิ้น ให้คุณแม่ใช้มือลูบเบาๆ บริเวณที่ลูกดิ้น หรือลองแตะเบาๆ เพื่อให้ลูกรับรู้ว่าคุณแม่รับรู้การเคลื่อนไหวของเขา

ประโยชน์: เป็นการสื่อสารสองทาง ลูกน้อยจะเรียนรู้ว่าการกระทำของเขาสามารถส่งผลให้เกิดการตอบสนองได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

 

กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์

 

7. เดินเล่นและทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวอย่างเบาๆ (กระตุ้นการทรงตัว, การรับรู้การเคลื่อนไหว)

เดินเล่นในสวนสาธารณะ, โยคะสำหรับคนท้อง, หรือว่ายน้ำเบาๆ การเคลื่อนไหวของคุณแม่จะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวของน้ำคร่ำ ซึ่งลูกน้อยจะรับรู้ได้

ประโยชน์: ช่วยกระตุ้นระบบประสาทที่ควบคุมการทรงตัวและการรับรู้การเคลื่อนไหวของลูกน้อย ทำให้พัฒนาการด้านการทรงตัวและกล้ามเนื้อทำงานประสานกันได้ดีขึ้น

 

8. ส่องไฟฉายไปที่หน้าท้อง (กระตุ้นการมองเห็น)

เมื่อทารกเข้าสู่ไตรมาสที่สาม (ประมาณสัปดาห์ที่ 28 ขึ้นไป) ลองใช้ไฟฉายส่องไปที่หน้าท้องประมาณ 1-2 วินาที แล้วเลื่อนไฟฉายไปมาอย่างช้าๆ ทำวันละ 1-2 ครั้ง (ไม่ควรทำนานหรือบ่อยเกินไป)

ประโยชน์: กระตุ้นประสาทลูกในครรภ์ ด้านการมองเห็นของลูกน้อยให้เริ่มทำงาน และลูกอาจมีการตอบสนองโดยการหันศีรษะตามแสงหรือเคลื่อนไหว

 

9. รับประทานอาหารหลากหลายรสชาติ (กระตุ้นการรับรส)

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายรสชาติ โดยเฉพาะผักผลไม้สด (ปรึกษาแพทย์เรื่องอาหารที่เหมาะสม) รสชาติจากอาหารที่คุณแม่รับประทานจะซึมผ่านไปยังน้ำคร่ำที่ลูกน้อยกลืนเข้าไป

ประโยชน์: ช่วยให้ลูกน้อยคุ้นเคยกับรสชาติต่างๆ ตั้งแต่ในครรภ์ ทำให้เขาเปิดใจยอมรับอาหารใหม่ๆ หลังคลอดได้ง่ายขึ้น

 

10. พักผ่อนและทำสมาธิ (กระตุ้นอารมณ์, ความสงบ)

หายใจลึกๆ นั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลงเบาๆ แช่น้ำอุ่น (ไม่ร้อนจัด)

ประโยชน์: เมื่อคุณแม่ผ่อนคลาย ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุข (Endorphins) ซึ่งจะส่งผ่านไปยังลูกน้อย ทำให้ลูกน้อยรู้สึกสงบ มีความสุข และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี

 

การเล่นกับลูกน้อยโดยการ กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์ อย่างสม่ำเสมอและอ่อนโยน ไม่เพียงแต่สร้างความฉลาดรอบด้าน แต่ยังสร้างสายใยรักและความผูกพันที่มั่นคงระหว่างคุณแม่และลูก ซึ่งจะเป็นพื้นฐานความสุขและการเรียนรู้ตลอดชีวิตของลูกน้อยอีกด้วยค่ะ

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เพลงกล่อมลูกในท้อง ให้ลูกในท้องหลับสบาย คลอดออกมาเป็นเด็กฉลาด

รวมเพลงสำหรับคนท้อง เพลงคนท้อง ฟังได้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

วิธีลูบท้องกระตุ้นสมองและพัฒนาการทารกในครรภ์

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • /
  • เล่นกับลูกยังไงให้ฉลาด? 10 วิธี กระตุ้นประสาทสัมผัสลูกในครรภ์
แชร์ :
  • วิธีดูแลตัวเองตอนท้องอ่อนๆ คนท้องห้ามทำ 7 กิจกรรมเหล่านี้ ที่อาจทำอยู่ทุกวัน

    วิธีดูแลตัวเองตอนท้องอ่อนๆ คนท้องห้ามทำ 7 กิจกรรมเหล่านี้ ที่อาจทำอยู่ทุกวัน

  • หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

    หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

  • วางแผนลาคลอด ตอนกี่สัปดาห์? รวมคำแนะนำจากประสบการณ์คุณแม่

    วางแผนลาคลอด ตอนกี่สัปดาห์? รวมคำแนะนำจากประสบการณ์คุณแม่

  • วิธีดูแลตัวเองตอนท้องอ่อนๆ คนท้องห้ามทำ 7 กิจกรรมเหล่านี้ ที่อาจทำอยู่ทุกวัน

    วิธีดูแลตัวเองตอนท้องอ่อนๆ คนท้องห้ามทำ 7 กิจกรรมเหล่านี้ ที่อาจทำอยู่ทุกวัน

  • หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

    หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

  • วางแผนลาคลอด ตอนกี่สัปดาห์? รวมคำแนะนำจากประสบการณ์คุณแม่

    วางแผนลาคลอด ตอนกี่สัปดาห์? รวมคำแนะนำจากประสบการณ์คุณแม่

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว