ในช่วงชีวิตวัยเด็กของแต่ละคน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเกือบทุกคนก็ต่างเคยเป็นเด็ก ขี้งอน ขี้น้อยใจ กันมาก่อนทั้งนั้น เมื่อมีอะไรไม่ได้ดั่งใจนิด ๆ หน่อย ๆ เราก็ร้องไห้ แถมบางคนยังชอบกระทืบเท้าเสียงดัง ดังนั้น ไม่แปลกหากลูก ๆ ของเราจะเป็นแบบเดียวกันกับเราในตอนนั้น อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้ลูกมีนิสัยขี้งอนโดยไม่จัดการอะไรเลย อาจทำให้เด็กโตไปมีนิสัยขี้งอนได้ และนิสัยขี้งอนนี้ ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตและการเข้าสังคมของเด็ก ๆ วันนี้เราจะมาแชร์วิธีจัดการกับลูก ๆ ที่ขี้งอนสำหรับคุณแม่กันค่ะ
อาการแบบไหน ที่เรียกว่า ขี้งอน
คนที่ขี้งอน มักจะหน้าบูดบึ้งตึง เงียบ ไม่พูดจา และบางรายอาจอารมณ์ไม่ดี งอแง โกรธ หรือมีอารมณ์ฉุนเฉียวร่วมด้วย ซึ่งอาการต่าง ๆ เหล่านี้ มักจะพบในเด็กวัยกำลังโต ที่ยังไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ หรือจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ดีนัก หรือแม้กระทั่งในวัยรุ่นบางคน ก็ยังคงชอบงอนพ่อแม่บ่อย ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรปล่อยให้ลูก ๆ งอนและเอาแต่ใจจนเกินไป เพราะเด็กอาจชินและติดเป็นนิสัย จนงอนคนนั้นคนนี้ไปทั่ว การสอนให้เด็กรู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเองและพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ด้วยเหตุผล ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยให้ลูก ๆ ใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับคนอื่น ๆ ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ดื้อต่อต้าน โรคพฤติกรรมดื้อต่อต้าน หากลูกเกิน 3 ขวบแล้วยังเป็นอย่างนี้ ใช่เลย!
วิธีจัดการกับเด็กนิสัยขี้งอน
เด็กที่กำลังโตหลาย ๆ คน ยังไม่รู้จักวิธีระบายอารมณ์อย่างเหมาะสม เพราะฉะนั้นหลาย ๆ ครั้ง เด็กอาจขี้งอน เมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นอย่างใจหวัง แต่ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ ก็สามารถจัดการกับอาการขี้งอนของเด็ก ๆ ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
1. ใช้เวลาอยู่กับเด็ก ๆ ให้เพียงพอ
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ที่คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะทำงานยุ่ง เพราะต้องหาเงินมาเลี้ยงดูเด็ก ๆ แต่ก็อย่าลืม ว่าการใช้เวลาอยู่กับลูก ๆ ก็สำคัญเช่นกัน การที่เราไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก หรือปล่อยให้เขาต้องเล่นเพียงลำพังบ่อย ๆ อาจทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยว จนงอนพ่อแม่ หรือแอบไปน้อยใจคนเดียวบ่อย ๆ มิหนำซ้ำ ยังอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาในอนาคตได้ เช่น หากเด็กมีปัญหา หรือมีอะไรไม่สบายใจ ก็อาจจะไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะไม่ได้สนิทกับพ่อแม่ และไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกับพ่อแม่เท่าที่ควร เป็นต้น ซึ่งการใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากขึ้น ถือว่าเป็นการตีสนิทกับลูก และทำให้ลูกกล้าเปิดใจกับพ่อแม่มากขึ้น
2. ทำบ้านให้เป็นที่ที่น่าอยู่
บ้านเป็นที่ที่เด็ก ๆ ใช้เวลาอยู่เป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่เกิดจนโต ดังนั้น บ้านจึงควรเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ และมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เด็ก ๆ ได้เป็นตัวของตัวเอง และกล้าที่จะระบายความรู้สึกในใจ หากบรรยากาศในบ้านอึมครึม หรือหากพ่อแม่ทำให้เด็กอึดอัด เมื่อเด็กงอน เด็กก็จะไม่ยอมพูดคุยกับพ่อแม่เกี่ยวกับความรู้สึก หรือเหตุผลที่ทำให้เขาไม่พอใจหรืองอน
3. สอนให้เด็ก ๆ กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด
หากเด็ก ๆ กำลังงอนหรือหน้าบึ้ง คุณพ่อคุณแม่ควรกระตุ้นให้เด็ก ๆ พูดความรู้สึก หรือสิ่งที่รบกวนใจอยู่ออกมาเป็นคำพูดแทนการใช้อารมณ์ รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่ควรดุด่า บังคับเด็ก ต้องค่อย ๆ พูด และไม่ใช่ถ้อยคำที่หยาบคายกับลูก ๆ หากว่าเราดุหรือด่าลูกด้วยถ้อยคำที่รุนแรง อาจทำให้เด็ก ๆ ไม่อยากพูดกับเราอีกเลยก็เป็นได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : รับมือลูกเอาแต่ใจ อย่างไรให้ได้ผล มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
4. ลองให้เด็ก ๆ เขียนไดอารี่ระบายความคิด
หากเด็ก ๆ ไม่ยอมสื่อสารความรู้สึกผ่านทางคำพูด ลองกระตุ้นให้เด็ก ๆ เขียนระบายออกมาเป็นตัวหนังสือแทนได้ นอกจากการเขียนระบายความรู้สึกด้วยวิธีนี้ จะทำให้เด็กได้เขียนสิ่งที่อยู่ในใจลงไปแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ช่วยเด็กให้ระบายความเครียดได้ดีอีกด้วย
5. พ่อแม่ต้องใจเย็น
พ่อแม่บางคน เมื่อเห็นลูกงอนหรือหน้าบูด ก็มักมีอารมณ์ฉุนเฉียวหรือโมโหลูก ซึ่งการทำพฤติกรรมอย่างนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสม ทางที่ดีที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับน้อง ๆ ด้วยเหตุผล และพูดจาดี ๆ กับลูก หากเราทำพฤติกรรมที่รุนแรงกับลูก ลูกอาจโตมาเป็นเด็กที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจได้
6. ให้เด็กกินอาหารที่ดีมีประโยชน์
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้เด็กอารมณ์แปรปรวนจนอาจเป็นคนขี้งอนบ่อย คือ การทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน หากคุณพ่อคุณแม่ไม่รู้ว่าควรจะให้ลูกทานอะไรดี ก็ให้เข้าปรึกษาคุณหมอหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทุกเมื่อ ซึ่งจากงานวิจัยชิ้นหนึ่ง พบว่า กรดไขมัน และวิตามินบีนั้น มีส่วนช่วยให้การจัดการอารมณ์ของเด็กได้ดี หากเด็กได้รับวิตามินบีไม่เพียงพอ เด็กจะกลายเป็นคนที่ฉุนเฉียว อารมณ์เสียบ่อย
แม้อาจจะมีบางครั้ง ที่ลูก ๆ ของเราแสดงออกทางอารมณ์ หรือพฤติกรรมไม่ค่อยสมเหตุสมผล แต่ก็ขอให้คุณพ่อคุณแม่อดทน และพยายามเข้าใจลูก ๆ ในตอนที่เรายังเป็นเด็ก เราก็คงไม่ต่างจากลูก ๆ ของเรา เด็กวัยกำลังโตนั้น ยังไม่รู้วิธีจัดการอารมณ์เหมือนผู้ใหญ่ ดังนั้น เราต้องค่อย ๆ สอนเขาด้วยเหตุและผล พูดจากับเขาด้วยถ้อยคำที่เหมาะสมจะดีที่สุดนะคะ
ที่มา : Momjunction , colossalumbrella
บทความที่เกี่ยวข้อง :
ลูกงอแง ร้องไห้โยเย อาจเป็นเพราะผื่นผ้าอ้อมทำให้ลูกรักไม่สบายตัว
การขึ้นเสียงใส่ลูกส่งผลกระทบระยะยาว การพูดด้วยอารมณ์โมโหส่งผลเสียต่อลูก
ลูกขี้โมโห ! เลี้ยงยังไงดี จะรับมือกับลูกขี้โมโหได้ยังไงบ้าง