การเลือกโรงเรียนให้ลูก ฉบับคุณแม่ยุคปัจจุบันที่มองที่ลูกเป็นตัวแปรสำคัญ
การเลือกโรงเรียน เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนกำลังคิดอยู่ใช่ไหมคะว่าจะทำยังไง เพราะเมื่อลูกเขาเราโตขึ้นสิ่งที่หนึ่งที่ผู้ปกครอหลายคนคงจะเครียด และ คงจะสับสนคือเรื่องของโรงเรียน เพราะจะเลือกแบบไหนดี ควรจะเลือกจากอะไร วันนี้เรามีทริคจากคุณแม่ยุคปัจจุบัน อย่างคุณแม่เอ็นจอย มาให้ทุกคนดูกันเลยค่ะ กับ การเลือกโรงเรียนให้ลูก ฉบับคุณแม่ยุคปัจจุบันที่มองที่ลูกเป็นตัวแปรสำคัญ
การเลือก โรงเรียนให้ลูก ฉบับคุณแม่ยุคปัจจุบันที่มองที่ลูกเป็นตัว แปรสำคัญ
การเลือก โรงเรียนให้ลูก ฉบับคุณแม่ยุคปัจจุบันที่มองที่ลูกเป็นตัวแปรสำคัญ
เนื่องจากยุคปัจจุบัน พ่อแม่ ทำงานค่อนข้างหนัก การที่มีเวลาอยู่กับลูกก็จะน้อยลง แต่ทางคุณจอยและสามี ก็พยายามอย่างเต็มที่ในทั้งสองทาง ทั้งการทำงาน และการให้เวลากับลูก ดังนั้นการเลือก โรงเรียน ใหักับลูกนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ลูกกับโรงเรียนเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และ ต้องใช้ความใส่ใจอันดับต้นๆ นั้นเป็นเพราะว่า ทุกคนก็อยากจะมอบสิ่งที่ดี ที่สุดให้ตัวเองและลูก การเลือกโรงเรียนจึงต้องเป็นเรื่องที่พิถีพิถัน ราวๆกับคำว่า “ช้าๆได้พร้าเล่มงาม” ไม่ต้องรีบและต้องดู ทุกองค์ประกอบที่สำคัญ คุณจอยเผยว่า ในช่วงที่เธอเลือกโรงเรียนให้ลูกนั้นเธอต้องโฟกัสและให้จุดศูนย์กลางคือลูก
1.เรื่องระยะเวลาในการเดินทาง
การเลือก โรงเรียนให้ลูก ฉบับคุณแม่ยุคปัจจุบันที่มอง ที่ลูก เป็นตัว แปรสำคัญ
สมัยที่คุณจอยเลือกโรงเรียนใหม่ๆนั้น บ้านที่เธออยู่นั้นอยู่แถวบางนา ส่วนที่ทำงานนั้นอยู่ พุฑธมณฑลสาย 5 ซึ่งถ้าเทียบระยะทางระหว่างที่ทำงานของเธอกับบ้านนั้นไกลกันมาก เพราะฉะนั้น ปัจจัยสำคัญ (Factor) แรกที่คุณจอยจะให้ความสำคัญเลยคือ ระยะทาง เพราะด้วยความที่อยู่กรุงเทพสิ่งที่แม่จอยโฟกัสคือ ระยะเวลาการเดินทาง เพราะแม่จอยบอกว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่าที่เราควรจะใช้อย่างระมัดระวังถ้าเกิดใช้เวลาบนรถจนหมดลูกอาจจะเหนื่อยและไม่สนุกกับการไปโรงเรียน รวมถึง หากเราใช้เวลากับการเดินทางมากเกินไป ก็จะทำให้ลูกไม่มีเวลาทำอย่างอื่น
2.ราคา
การเลือก โรงเรียนให้ลูก ฉบับคุณแม่ยุคปัจจุบันที่มองที่ ลูก เป็น ตัว แปรสำคัญ
ราคาคุณจอยเผยว่า ควรจะเอาที่เราคิดว่าเราสามารถสู้ไหว และ คุ้มค่าที่สุด สำหรับคุณจอยตอนมีลูกคนแรกเธอตั้งใจจะมีคนเดียว เลยคุยกับสามีว่า เราจะทุ่มให้ได้เยอะที่สุด เลยตัดสินใจเลือกเป็น โรงเรียนนานาชาติ แต่ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
3.วิชาการ และ สภาพแวดล้อม
หลังจากที่คุณจอย ตัดสินใจที่จะเลือกโรงเรียนนานาชาติแล้ว สิ่งที่เธอจะต้องโฟกัสต่อไปคือเรื่องของการเรียน การสอน ในเรื่องของวิชาการ แน่นอนค่ะ โรงเรียนนานาชาตินั้นจะมีการเรียนการสอน เป็นภาษาอังกฤษ แต่จะทำยังไงให้ลูกได้บาลานซ์ ให้หลากหลายคุณจอยเลยเลือกโรงเรียนที่มีอีกครึ่งเป็นภาษาจีน และ อีกครึ่งเป็นภาษาไทย และสภาพแวดล้อมต้องส่งเสริมในการเรียน แต่ด้วยความที่คุณจอยรู้สึกว่าการเรียนการสอนมันสำคัญ แต่ กิจกรรม สำคัญด้วยเธอจึงชั่งน้ำหนักทั้งการเรียน และ กิจกรรม
การเลือก โรงเรียนให้ลูก ฉบับคุณแม่ยุคปัจจุบันที่ มอง ที่ลูก เป็นตัว แปรสำคัญ
โดยคำตอบที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณจอยคือ โรงเรียนนานาชาติไทย-สิงคโปร์ (Thai-Singapore International School) เป็นโรงเรียนนานาชาติสามภาษา ที่ใช้การเรียน การสอน 3 ภาษา คือภาษาอังกฤษ (50%) , ภาษาจีน (40%) และ ภาษาไทย (10%) โดยใช้หลักสูตรสิงคโปร์ที่ได้รับ การอนุมัติการใช้หลักสูตรจากกระทรวงศึกษาธิการ ประเทศสิงคโปร์และได้รับการอนุญาตการจัด ตั้งโรงเรียนจากกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยเพื่อให้นักเรียนของโรงเรียนได้รับคุณภาพ การศึกษาที่ดีที่สุดจากหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
โดยจากปัจจัย ที่ได้พูดข้างบน เลยทำให้คุณจอยตัดสินใจเลือกโรงเรียนนี้ อย่างแรกคือระยะทางจากบ้านถึงโรงเรียน คุณจอยบอกเดินทางสะดวกมาก เพราะโรงเรียนนี้ตั้งอยู่บนถนนใหญ่ และ หลังจากที่คุณจอยส่งลูกเสร็จก็สามารถขึ้นทางด่วนขับไปทำงานได้เลย ระยะเวลาจากบ้านถึงโรงเรียนก็ไม่ไกล ทำให้ลูกมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ซึ่งคุณจอยรู้สึกว่าเป็นผลดีต่อทั้งตัวเธอและตัวลูก
และในเรื่องของราคา คุณจอยใช้คำว่าสมเหตุสมผล เพราะคุณจอยและสามี คุยกันแล้วว่าในราคานี้ และ รูปแบบของโรงเรียนนานาชาติ เรียกได้ว่าเป็นราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้
สิ่งที่คุณจอยชอบมากที่สุดสำหรับโรงเรียนนี้คือ โรงเรียน สอนให้นักเรียนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะทำผิดพลาดและไม่มีใครคอยตัดสิน ว่าสิ่งนี้หรือผิดสิ่งนี้ถูก คุณจอยสังเกตจากลูกของเธอและพบว่า ลูกชายของเธอกล้าที่จะพูดและแสดงความคิดเห็นมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะผิด หรือ พลาด ครูจะคอยดูแล ชี้แนะ แต่ไม่ได้ตัดสินว่าเด็กคนนั้นไม่ดีอย่างไร แต่พร้อมที่จะเข้าใจในการกระทำและความคิดของเด็กในตอนนั้นๆ
เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนที่ลูกจะเป็นคนขี้อายและไม่กล้าตัดสินใจกับเรื่องอะไร แต่หลังจากไปโรงเรียนเสร็จ คุณจอยสังเกตว่าลูกสามารถที่จะแสดงความเห็น และ มีความสุขกับการไปโรงเรียนมากขึ้นและชอบไปโรงเรียนทุกวัน ที่สำคัญเพื่อนๆที่โรงเรียนน่ารัก แถมพ่อแม่ผู้ปกครองแต่ละคนค่อนข้างจะเป็นกันเอง ทำให้ ไม่ใช่แค่ลูกเป็นเพื่อนกันเท่านั้น แต่ทำให้ผู้ปกครองเป็นเพื่อนกันไปด้วย
คุณจอยยังเสริมอีกว่า เรื่องของการกล้าแสดงออก โรงเรียนนี้ก็สนับสนุนนักเรียนอย่างเต็มที่ เพราะในเรื่องของการแสดง การเต้น หรือ กิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน โดยปกติแล้วโรงเรียนจะเลือกให้นักเรียนคนใดคนหนึ่งทำ แต่โรงเรียนนานาชาติไทย-สิงคโปร์ นั้นให้นักเรียนทุกคนได้ทำ เพื่อที่จะเป็นการให้ทุกคนกล้าแสดงออกและลดความเหลื่อมล้ำได้มากเลยค่ะ ในชั้นเด็กเล็ก N1-K2 ให้นักเรียนสลับห้องกันทุกปี เพื่อที่เด็กๆจะได้รู้จักกันอย่างทั่วถึง มีเพื่อนที่หลากหลาย และรู้จักการปรับตัวอีกด้วย
ในเรื่องของ สิ่งอำนวยความสะดวก โรงเรียนก็มีทั้งสระว่ายน้ำ สนามบาส และ ตึกเรียนที่ทันสมัย ซึ่งตอบโจทย์กับทุกอย่างที่คุณจอยมองว่าเป็นประโยชน์ต่อลูก นอกจากนี้ด้านโภชนาการโรงเรียนก็มีอาหารว่าง และ อาหารกลางวันให้ลูก ซึ่งอาหารที่มีให้ก็เป็นอาหารที่มีประโยชน์ และ ครบ 5 หมู่ รวมถึง Homeroom Teacher หรือ ครูประจำชั้น จะมีข้อมูลทั้งหมดว่านักเรียนแพ้อาหารประเภทไหน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อทั้งเด็กและพ่อแม่
การเลือก โรงเรียนให้ลูก ฉบับคุณแม่ยุคปัจจุบันที่ มอง ที่ลูก เป็น ตัว แปรสำคัญ
และ สิ่งสุดท้ายที่คุณจอยประทับใจในโรงเรียนนี้มากๆคือ การรับฟังความเห็นจากผู้ปกครอง โรงเรียนเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของนักเรียน เพราะฉะนั้นบ้านก็จำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้นักเรียนได้รับประโยชน์มากที่สุด ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 โรงเรียนได้มีการปรับเปลี่ยน จากการเรียนการสอนปกติ เป็นแบบ Online ในช่วงแรกทางโรงเรียนก็มีช่วงกระตุก หรือ ช่วงที่ระบบยังไม่เข้าที่ ก็ได้มีการถามความเห็นจากผู้ปกครอง โดยทุกอย่างที่คุณจอยได้ฟีดแบ็ค หรือ ได้ออกความเห็นไป ทางโรงเรียนได้ปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น ภายในสองอาทิตย์คุณจอยก็สามารถปล่อยให้ลูกเรียนออนไลน์โดยไม่ต้องประกบได้อีกเลย
การเลือก โรงเรียนให้ลูก ฉบับคุณแม่ยุคปัจจุบันที่มองที่ลูก เป็น ตัว แปรสำคัญ
คุณจอยยังเผยเคล็ดลับการเลือกโรงเรียนให้ลูกกับเราอีกว่า การเลือกโรงเรียนของแต่ละคนนั้นอาจจะไม่เหมือนกันแต่เชื่อว่าทุกคนก็อยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกเสมอ เพราะฉะนั้นก็ขอให้ค่อยๆเลือกและอย่าใจร้อนในการเลือกโรงเรียนนะคะ ค่อยๆเลือก ค่อยๆตัดสินใจ ให้ลองพาเค้าไปดู ทุกๆ โรงเรียน ที่พ่อแม่สนใจ แล้วลองถามเค้าปรึกษาเค้าว่าเค้าชอบที่ไหน เพื่อประกอบการพิจารณาของพ่อแม่ด้วยนะคะ ความสุขของลูก ก็คือความสุขของพ่อแม่เช่นกันค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
www.tsis.ac.th
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
โรงเรียนสาธิตพัฒนา พัฒนาการเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรม (School Hit)
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!