วิธีเลือกแว่นกรองแสง ให้ได้คุณภาพ และเหมาะสมกับตัวเอง อาจจะต้องมีข้อพิจารณาในหลาย ๆ ปัจจัย แต่บอกเลยว่าการเลือกแว่นกรองแสงนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดค่ะ ซึ่งแว่นกรองแสง ถือเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับกลุ่มคนที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจ้องจอโทรศัพท์อยู่เป็นประจำ หรือหน้าจออุปกรณ์ต่าง ๆ
เพราะอุปกรณ์หน้าจอต่าง ๆ ล้วนมีแสงสีฟ้าที่จะส่งผลกระทบกับดวงตามากมาย ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงหันมาเลือกใช้แว่นกรองแสงกันมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้สุขภาพดวงตานั้นแย่ลงกว่าเดิม ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูทริคดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันเลยค่ะ
วิธีเลือกแว่นกรองแสงสีฟ้า ให้ได้คุณภาพ และเหมาะกับตัวเอง
1. ชนิดของเลนส์แว่นกรองแสงสีฟ้า
เพื่อการใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด คุณก็จะต้องเลือกชนิดของเลนส์แว่นกรองแสงสีฟ้าให้เหมาะสมกับความใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต ซึ่งเลนส์กรองแสงจะมีอยู่ 2 ชนิด หลัก ๆ ดังนี้
- เลนส์บลูบล็อก (Blue Light Block)
เป็นเลนส์กรองแสงสีฟ้าธรรมดาทั่วไป ที่ไม่สามารถเปลี่ยนสีได้ และมีเปอร์เซ็นต์ในการกรองแสงให้เลือกใช้ ถือเป็นเลนส์ที่สามารถปกป้องดวงตาจากแสง UV และแสงสีฟ้าได้พร้อมกันสามารถช่วยป้องกันแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ดี เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น แต่เลนส์ชนิดนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ทำงานเกี่ยวกับสีนะคะ
- เลนส์บลูบล็อกออโต้ (Blue Block Auto)
เป็นเลนส์กรองแสงสีฟ้าอีกหนึ่งชนิดที่สามารถเปลี่ยนให้สีเข้มได้อัตโนมัติ เมื่อคุณอยู่กลางแดด โดยตัวเลนส์เวลาที่อยู่ในร่มจะมีสีเหลืองเล็กน้อย แต่ถ้าหากอยู่กลางแจ้ง หรืออยู่ในที่ที่มีแสงแดด ตัวเลนส์ก็จะเปลี่ยนสีเข้มขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นเลนส์กรองแสงสีฟ้าอีกหนึ่งชนิดที่สามารถปกป้องดวงตาเวลาที่ใช้คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือได้เป็นอย่างดีค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 8 แว่นกรองแสง แว่นถนอมสายตาที่ดีที่สุด ควรเลือกยี่ห้อไหนดี?
2. เปอร์เซ็นต์การกรองแสงสีฟ้าของเลนส์แว่น
ปัจจัยต่อมาที่จะต้องพิจารณาก่อนที่จะเลือกแว่นกรองแสงมาใช้งานนะคะ ก็คือเรื่องของเปอร์เซ็นต์ของเลนส์กรองแสงสีฟ้า ซึ่งเปอร์เซ็นต์ของการกรองแสงก็จะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละยี่ห้อ โดยเปอร์เซ็นต์หลัก ๆ ตามมาตรฐานของ EN คือ 25%, 40% และ 60% โดยจะแบ่งรายละเอียดออกเป็น ดังนี้
- เลนส์กรองแสงสีฟ้า 25%
สำหรับเลนส์กรองแสงชนิดนี้ลักษณะของเลนส์จะมีสีเหลืองอ่อน ๆ ถ้าหากใส่ในที่ร่มจะไม่ค่อยรู้สึกถึงความแตกต่างเท่าไหร่ แต่ถ้าหากใส่กลางแจ้ง หรือใส่ขณะที่ใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่จะรู้สึกได้ถึงสีของเลนส์ ซึ่งเปอร์เซ็นต์นี้จะเหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นใช้แว่นกรองแสง หรือคนที่ทำงานในออฟฟิศ หรือนั่งเรียนในห้องที่มีแสงสว่าง เป็นต้น
- เลนส์กรองแสงสีฟ้า 40%
สำหรับแว่นกรองแสงที่ใช้เลนส์กรองแสงสีฟ้า 40% จะมีสีเข้มปานกลาง ใส่ในร่มจะแยกออกได้ยากเช่นกัน แต่ถ้าหากใส่กลางแจ้งก็จะสามารถมองเห็นสีได้ชัดเจน ซึ่งเลนส์กรองแสงสีฟ้า 40% จะสามารถบรรเทาอาการตาล้าได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานถึง 6 – 8 ชั่วโมง ติดต่อกันหรือคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่เป็นหน้าจออยู่ตลอดเวลาค่ะ
- เลนส์กรองแสงสีฟ้า 60%
สำหรับเลนส์ที่มีการกรองแสง 60% ถือเป็นเลนส์ที่มีสีเข้มที่สุด คล้ายกับแว่นกันแดดเลยค่ะ สามารถลดอาการเมื่อยล้าตาได้ เหมาะกับคนที่เพ่งหน้าจอเป็นระยะเวลานาน ๆ หรือใช้อุปกรณ์ที่มีหน้าจอในที่ที่มีแสงน้อย การเลือกใช้เลนส์กรองแสงสีฟ้า 60% จะช่วยกรองแสงสีฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ
3. น้ำหนักของกรอบแว่นกรองแสง
ในส่วนของเรื่องน้ำหนักของกรอบแว่นก็ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้งานเช่นเดียวกันนะคะ เพื่อให้การสวมใส่แว่นตานั้นสบายยิ่งขึ้น เพราะแว่นกรองแสงที่ดี และมีคุณภาพ ควรมีน้ำหนักที่เบา เพื่อที่จะได้ไม่เจ็บเวลาที่สวมใส่นาน ๆ เพราะถ้าหากกรอบแว่นนั้นมีน้ำหนักที่หนักจนเกินไปจนเกิดการถ่วงลงมา ก็จะส่งผลการมองเห็น และส่งผลกระทบให้จุดศูนย์กลางตาดำตก เมื่อเกิดการสะสมพฤติกรรมการใส่แว่นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ปวดหัว ก่อนที่จะเลือกซื้อแว่นกรองแสงมาใช้งาน อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยนี้ด้วยนะคะ
4. เลือกกรอบแว่นที่บิดงอได้
อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้คุณสามารถใช้แว่นกรองแสงได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นก็คือควรเลือกกรอบแว่นกรองแสงที่ผลิตจากวัสดุพิเศษที่สามารถบิดงอได้นะคะ เพื่อลดโอกาสในการแตกหักเกิดขึ้น เพราะหลาย ๆ คนก็อาจจะเคยมีประสบการณ์นั่งทับแว่น หรือเผลอทำแว่นตกพื้นอย่างแน่นอน ดังนั้น การเลือกซื้อกรอบแว่นกรองแสงที่สามารถบิดงอได้ มีความยืดหยุ่นสูง และน้ำหนักเบา ก็จะช่วยให้ใช้งานแว่นกรองแสงได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้นค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 กรอบ แว่นตา ยี่ห้อไหนดี ดีไซน์สวย เข้ากับรูปหน้า ปี 2023!
5. เลือกแว่นกรองแสงสีฟ้าให้ตรงกับค่าสายตา
เพื่อการใช้งานแว่นกรองแสงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรเลือกแว่นกรองแสงแบบเลนส์สายตาจะดีที่สุดนะคะ เช่น ถ้าหากคุณมีค่าสายตาที่ผิดปกติ สายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง ถ้าหากจะเลือกแว่นกรองแสงสีฟ้ามาใช้งานในชีวิตประจำวัน ควรเลือกสั่งตัดเลนส์ให้เหมาะกับค่าสายตาของตัวเองนะคะ เพราะในปัจจุบันก็ได้มีหลากหลายยี่ห้อที่สามารถสั่งตัดเลนส์ที่มีค่าสายตาพิเศษได้แล้วค่ะ
6. งบประมาณ
ในส่วนของเรื่องงบประมาณก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่คุณจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษเช่นกันนะคะ เพราะแว่นกรองแสงแต่ละยี่ห้อก็จะมีราคาหลากหลายมาก ๆ ดังนั้น เพื่อให้ตอบโจทย์ในการใช้งาน คุณควรตั้งงบประมาณที่ตัวเองต้องการไว้ จากนั้นก็ตรวจดูคุณภาพให้เหมาะสมกับงบประมาณ เพื่อให้ได้แว่นที่ตรงในแบบที่ต้องการ และเหมาะสมกับราคาที่ตั้งเอาไว้ ซึ่งคุณอาจจะให้พนักงานช่วยแนะนำสินค้าตามงบประมาณที่คุณตั้งไว้ก็จะช่วยให้การเลือกแว่นกรองแสงของคุณง่ายยิ่งขึ้นนะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ วิธีเลือกแว่นกรองแสง ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ บอกเลยว่าคุณสมบัติในการพิจารณาเลือกซื้อแว่นกรองแสงมาไว้ใช้งานให้คุณภาพ และเหมาะสมกับตัวเองนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดค่ะ หากใครที่ยังกังวล ไม่รู้จะเลือกแว่นกรองแสงอย่างไรดี ลองนำเอาวิธีที่เรานำมาฝากไปพิจารณาดูกันได้นะคะ หากใครที่เผชิญกับแสงสีเป็นประจำ และเป็นระยะเวลานาน ๆ แนะนำให้เลือกแว่นกรองแสงมาไว้ใช้งานนะคะ เพื่อสุขภาพสายตาที่ดีค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำ 9 กล่องใส่แว่น ดีไซน์สวยทันสมัย ทนทานต่อการใช้งาน ราคาสบายกระเป๋า
แว่นตา เลือกยังไงให้เหมาะกับเด็ก เด็กสายตาสั้นต้องใส่แว่นตาแบบไหน
ใส่แว่นตาแบบไหน ให้ดูดี และแบบไหนจะเหมาะกับใบหน้าของเรา
ที่มา : my-best