คุณแม่แชร์ประสบการณ์ วิธีดูแลแผลบนหน้าลูก ยาทาแผลสด แผลที่หน้า ลบรอยแผลเป็นบนใบหน้า เมื่อลูกได้รับอุบัติเหตจนเกิดบาดแผลที่หน้าเกือนทั้งแก้ม พร้อมดูแลรักษาจนแทบไม่เห็นรอยแผลในระยะเพียงแค่ 9 วัน!!!
แผลที่หน้า ยาทาแผลถลอกที่หน้า มียาอะไรบ้าง ? แผลถลอกกี่วันหาย วิธีทําให้แผลแห้งตกสะเก็ดเร็ว
วันที่ 1
คุณหมอให้สบฟัน ลองยิ้ม เชคฟัน ส่องไฟเชคดวงตา ทุกอย่างปกติ หากยังไม่ได้ฉีดยากันบาดทะยัก คุณหมอจะแนะนำให้ฉีดด้วย สรุปว่า แผลบางส่วนอยู่ที่ชั้นหนังกำพร้า มีแผลลึกเป็นบางจุด คุณหมอล้างแผลและทายาให้ กลับบ้านกิน ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ทำความสะอาดหน้า และรอบแผลด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำสะอาดบิดหมาด ค่อยๆเช็ด ยังไม่ต้องสระผม เพราะห้ามแผลโดนน้ำ ไม่งั้นจะอักเสบ เป็นหนอง ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และรักษายากกว่า
ขั้นตอนการทำแผลถลอก แผลถลอกกี่วันหาย
- เช็ดแผลด้วยสำลีชุบน้ำเกลือ เอาสิ่งสกปรกออก
- ทายา ChlorOph (จริงๆ แล้วเป็นยาป้ายตา แต่ใช้กับแผลสดที่ใบหน้าได้ค่ะ)
- แปะแผ่นตาข่าย
- ปิดพลาสเตอร์ฟิล์ม
- ทำแผลเสร็จประคบเย็น ด้วยคูลเจล 24 ชม อย่าลืมห่อคูลเจลด้วยผ้าขนหนู กันไม่ให้น้ำจากคูลเจลโดนแผล
ยากินที่ได้โรงพยาบาล
- Cloxacillin ขนาด 250 mg จำนวน 20 เม็ด
ยาฆ่าเชื้อ
วันละ 4 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ( กินยา 30 นาที ก่อนอาหาร)
อันนี่หมอย้ำว่าต้องกินให้หมด ไม่งั้นคราวหลังจะดื้อยา - 2. Serratiopeptidase 5 mg จำนวน 10 เม็ด
ยาลดอักเสบ ลดบวม
วันละ3 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น - ibruprofen 100 mg จำนวน 10 เม็ด
ยาแก้ปวด ลดอาหารอักเสบ
วันละ3 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น - vitaminC 500 mg จำนวน 50 เม็ด
แอนตี้ออกซิแดน บำรุงผิว
วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า เย็น
วันที่ 2
ไปพบคณหมอ ลูกมีอาการหน้าบวม และอาเจียน คุณหมอบอกว่าอาาการบวมจะเริ่มออกหลังจากได้รับบาดแผลหนึ่่งวันเป็นเรื่องปกติ จากนั้นก็ล้างแผลและทายา 1 ครั้ง ทำแผลเสร็จ ต้องไป x-ray กระะดูกใบหน้า ผลตรวจปกติ คุณหมอให้ยากินลดบวม กับวิตามินซีเพิ่มด้วยวันนี้
วันที่ 3
ไปตรวจที่โรงพยาบาล หน้ายังบวมอยู่ มีรอยช้ำใต้ตาเพิ่มขึ้นมาอีก แต่ไม่อาเจียนแล้ว คุณหมอล้างแผลและทายา 1 ครั้ง แผลดีขึ้น ไม่เป็นหนอง ไม่อักเสบ หมอประเมินว่าน่าจะเป็นแผลเป็น นานประมาณ 3 เดือน รอแผลแห้งแล้วจะให้ยารักษาแผลเป็น
วันที่ 4
รอยช้ำใต้ตาและบริเวณแก้ม กลายเป็นสีเหลืองๆ ม่วงๆ แผลเริ่มตกสะเก็ด คุณหมอล้างแผลทายา 1 ครั้ง อีก 4 วันค่อยกลับมาโรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อดูอาการและรับยารักษาแผลเป็นพรุ่งนี้ลูกต้องกลับไปโรงเรียนแล้ว เอาใบรับรองแพทย์ไปให้คุณครูด้วย ให้คุณครูช่วยดูแลเรื่องยากิน และงดวิชาพละ ระหว่างนี้ต้องระวังอย่างให้แผลโดนน้ำและแสงแดด
วันที่ 5
อาการหน้าบวมเริ่มดีขึ้น แต่รอยช้ำสีเหลืองชัดเจน วันนี้ทำแผลเองวันแรก เช็ดน้ำเกลือ,ทายา,แปะตาข่าย,ปิดฟิล์ม ยาบรูเฟนกับลดบวมหมดแล้ว เหลือแต่ยาแก้อักเสบต้องกินต่อไปจนหมด
วันที่ 7
รอยช้ำดีขึ้น ส่วนที่เป็นแผลจจะเป็นเนื้อสีชมพูๆ ทายาและปิดพลาสเตอร์ฟิล์มเหมือนเดิม ห้ามแผลโดน แสงแดด ไม่งั้นจะผิวที่เกิดใหม่จะเป็นสีดำ พาไปสระผมที่ร้านแทนการสระที่บ้าน เพราะแผลยังโดนน้ำไม่ได้
วันที่ 9
หน้าไม่บวมแล้ว สีผิวเริ่มเนียนกันผิวเดิม เหลือรอยช้ำ กับแผลตกสะเก็ดนิดหน่อย ไปพบคุณหมอตามนัด คุณหมอบอกแผลหายเร็วจัง ไม่ต้องใช้ยาทาแผลเป็นแล้ว เดี๊ยวหายเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : กลัวลูกเป็นแผลเป็น วิธีรักษาแผลไม่ให้เป็นแผลเป็น ดูแลแผลลูกไม่ให้นูนแดงเกิดคีลอยด์
เปรียบเทียบวันที่ 1-9
สรุปว่าจะเป็นแผลเป็นหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า เราดูแลตอนเป็นแผลสดได้ดีแค่ไหนค่ะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็น ประโยชน์กับคุณแม่ทุกท่านที่มีลูกอยู่ในวัยซนนะคะ
ที่มา: Joy Chuapun