วิธีดูแลแผลบนหน้าลูก หายได้ใน 9 วัน วิธีรักษาง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

คุณแม่แชร์ประสบการณ์เมื่อลูกได้รับอุบัติเหตจนเกิดบาดแผลที่หน้าเกือนทั้งแก้ม พร้อมดูแลรักษาจนแทบไม่เห็นรอยแผลในระยะเพียงแค่ 9 วัน!!!

คุณแม่แชร์ประสบการณ์ วิธีดูแลแผลบนหน้าลูก ยาทาแผลสด แผลที่หน้า ลบรอยแผลเป็นบนใบหน้า เมื่อลูกได้รับอุบัติเหตจนเกิดบาดแผลที่หน้าเกือนทั้งแก้ม พร้อมดูแลรักษาจนแทบไม่เห็นรอยแผลในระยะเพียงแค่ 9 วัน!!!

วิธีดูแลแผลบนหน้าลูก ยาทาแผลสด แผลที่หน้า

แผลที่หน้า ยาทาแผลถลอกที่หน้า มียาอะไรบ้าง ? แผลถลอกกี่วันหาย วิธีทําให้แผลแห้งตกสะเก็ดเร็ว

วันที่ 1

มียารักษาแผลถลอกอะไรบ้าง

คุณหมอให้สบฟัน ลองยิ้ม เชคฟัน ส่องไฟเชคดวงตา ทุกอย่างปกติ หากยังไม่ได้ฉีดยากันบาดทะยัก คุณหมอจะแนะนำให้ฉีดด้วย สรุปว่า แผลบางส่วนอยู่ที่ชั้นหนังกำพร้า มีแผลลึกเป็นบางจุด คุณหมอล้างแผลและทายาให้ กลับบ้านกิน ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ทำความสะอาดหน้า และรอบแผลด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำสะอาดบิดหมาด ค่อยๆเช็ด  ยังไม่ต้องสระผม เพราะห้ามแผลโดนน้ำ ไม่งั้นจะอักเสบ เป็นหนอง ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และรักษายากกว่า

 

ขั้นตอนการทำแผลถลอก แผลถลอกกี่วันหาย

  1.  เช็ดแผลด้วยสำลีชุบน้ำเกลือ เอาสิ่งสกปรกออก
  2.  ทายา ChlorOph (จริงๆ แล้วเป็นยาป้ายตา แต่ใช้กับแผลสดที่ใบหน้าได้ค่ะ)
  3.  แปะแผ่นตาข่าย
  4.  ปิดพลาสเตอร์ฟิล์ม
  5.  ทำแผลเสร็จประคบเย็น ด้วยคูลเจล 24 ชม   อย่าลืมห่อคูลเจลด้วยผ้าขนหนู กันไม่ให้น้ำจากคูลเจลโดนแผล

วิธีดูแลแผลบนหน้าลูก

ยากินที่ได้โรงพยาบาล

  1. Cloxacillin ขนาด 250 mg จำนวน 20 เม็ด
    ยาฆ่าเชื้อ
    วันละ 4 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ( กินยา 30 นาที ก่อนอาหาร)
    อันนี่หมอย้ำว่าต้องกินให้หมด ไม่งั้นคราวหลังจะดื้อยา
  2. 2. Serratiopeptidase 5 mg จำนวน 10 เม็ด
    ยาลดอักเสบ ลดบวม
    วันละ3 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น
  3.  ibruprofen 100 mg จำนวน 10 เม็ด
    ยาแก้ปวด ลดอาหารอักเสบ
    วันละ3 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น
  4. vitaminC 500 mg จำนวน 50 เม็ด
    แอนตี้ออกซิแดน บำรุงผิว
    วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า เย็น

วิธีดูแลแผลบนหน้าลูกให้หายดี ยาทาแผลสด

วันที่ 2

ไปพบคณหมอ ลูกมีอาการหน้าบวม และอาเจียน คุณหมอบอกว่าอาาการบวมจะเริ่มออกหลังจากได้รับบาดแผลหนึ่่งวันเป็นเรื่องปกติ จากนั้นก็ล้างแผลและทายา 1 ครั้ง ทำแผลเสร็จ ต้องไป x-ray กระะดูกใบหน้า ผลตรวจปกติ คุณหมอให้ยากินลดบวม กับวิตามินซีเพิ่มด้วยวันนี้

วิธีดูแลแผลบนหน้าลูกให้หายดี แผลที่หน้า

วันที่ 3

ไปตรวจที่โรงพยาบาล หน้ายังบวมอยู่  มีรอยช้ำใต้ตาเพิ่มขึ้นมาอีก แต่ไม่อาเจียนแล้ว คุณหมอล้างแผลและทายา 1 ครั้ง แผลดีขึ้น ไม่เป็นหนอง ไม่อักเสบ หมอประเมินว่าน่าจะเป็นแผลเป็น นานประมาณ 3 เดือน รอแผลแห้งแล้วจะให้ยารักษาแผลเป็น

วิธีดูแลแผลบนหน้าลูกให้หายดี ยาทาแผลสดแผลที่หน้า 

วันที่ 4

รอยช้ำใต้ตาและบริเวณแก้ม กลายเป็นสีเหลืองๆ ม่วงๆ แผลเริ่มตกสะเก็ด คุณหมอล้างแผลทายา 1 ครั้ง อีก 4 วันค่อยกลับมาโรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อดูอาการและรับยารักษาแผลเป็นพรุ่งนี้ลูกต้องกลับไปโรงเรียนแล้ว เอาใบรับรองแพทย์ไปให้คุณครูด้วย ให้คุณครูช่วยดูแลเรื่องยากิน และงดวิชาพละ ระหว่างนี้ต้องระวังอย่างให้แผลโดนน้ำและแสงแดด

ยารักษาแผลถลอก แผลที่หน้า

วันที่ 5

อาการหน้าบวมเริ่มดีขึ้น แต่รอยช้ำสีเหลืองชัดเจน วันนี้ทำแผลเองวันแรก เช็ดน้ำเกลือ,ทายา,แปะตาข่าย,ปิดฟิล์ม ยาบรูเฟนกับลดบวมหมดแล้ว เหลือแต่ยาแก้อักเสบต้องกินต่อไปจนหมด

ยารักษาแผลถลอก แผลที่หน้า

วันที่ 7

รอยช้ำดีขึ้น ส่วนที่เป็นแผลจจะเป็นเนื้อสีชมพูๆ ทายาและปิดพลาสเตอร์ฟิล์มเหมือนเดิม ห้ามแผลโดน แสงแดด ไม่งั้นจะผิวที่เกิดใหม่จะเป็นสีดำ พาไปสระผมที่ร้านแทนการสระที่บ้าน เพราะแผลยังโดนน้ำไม่ได้

ยาทาแผลสด ยารักษาแผลถลอก แผลที่หน้า

วันที่ 9

หน้าไม่บวมแล้ว สีผิวเริ่มเนียนกันผิวเดิม เหลือรอยช้ำ กับแผลตกสะเก็ดนิดหน่อย ไปพบคุณหมอตามนัด คุณหมอบอกแผลหายเร็วจัง ไม่ต้องใช้ยาทาแผลเป็นแล้ว เดี๊ยวหายเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง : กลัวลูกเป็นแผลเป็น วิธีรักษาแผลไม่ให้เป็นแผลเป็น ดูแลแผลลูกไม่ให้นูนแดงเกิดคีลอยด์

 

รักษาแผลถลอกที่หน้า แผลที่หน้า

เปรียบเทียบวันที่ 1-9

สรุปว่าจะเป็นแผลเป็นหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า เราดูแลตอนเป็นแผลสดได้ดีแค่ไหนค่ะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็น ประโยชน์กับคุณแม่ทุกท่านที่มีลูกอยู่ในวัยซนนะคะ

ที่มา: Joy Chuapun

 บทความที่เกี่ยวข้อง
 
 
 
 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team