เชื่อว่าคู่รักหลายคู่ที่คบกันมาเป็นเวลานาน มักเกิดคำถามขึ้นในใจ เมื่อเกิดรู้สึกว่า รักจืดจางทำไงดี ทั้งที่ในขณะนั้นอาจจะไม่มีเรื่องใดให้ทะเลาะกันก็ได้ แต่เพราะเหตุใดกันนะ ทำไมถึงเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมาในหัว เมื่อย้อนกลับมามองคู่รักของเราแล้วนั้น ก็พบว่า เป็นเพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง โดยที่ไม่ได้ใส่ใจกันและกันเท่าที่ควร
จากความรักที่เคยหวานชื่น ตั้งแต่เมื่อครั้งเริ่มคบกัน กลายเป็นความเคยชินกับพฤติกรรม จนสุดท้ายความรักนั้น เดินทางมาถึงความอิ่มตัว เพราะในชีวิตรักของคนสองคน ที่แสนจะเรียบง่ายไร้ความตื่นเต้น ต้นเหตุสำคัญที่อาจทำให้คู่รักต้องแยกทางกัน
วันนี้ theAsianparent จะพาทุกคนไปศึกษาต้นเหตุที่ทำให้ความรักจืดจาง และวิธีการที่จะทำให้ความรักกลับมาเป็นเหมือนเดิม จะมีอะไรบ้างนั้นติดตามได้เลย!
สาเหตุที่ความรักจืดจาง
1. กิจวัตรประจำวันแบบเดิม ๆ
เป็นเรื่องปกติของคู่รัก ที่คบกันมาเป็นเวลานาน มักมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันในชีวิตประจำวัน เช่น กินข้าว ดูทีวี แต่เมื่อถึงเวลาต่างก็แยกย้ายกันนอน ซึ่งถึงแม้จะเป็นกิจกรรมที่เรียบง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยความเคยชินและไม่ตื่นเต้นในอีกฝ่าย โดยอาจจะกลายเป็นสาเหตุเริ่มต้น ที่ทำให้ใครคนใดคนหนึ่งอยากจะไปลองเจอสิ่งใหม่ หรือคนใหม่ที่น่าตื่นเต้นกว่าก็เป็นได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีจีบผู้ชายในแชต คุยอย่างไรให้โซเชียลสื่อรัก แถมได้แฟนยุค Covid-19
2. รักหมดโปรโมชัน
นอกจากความเคยชินจากกิจกรรมที่ทำร่วมกันแล้ว ยังมีความเคยชินที่เกิดขึ้นจากสถานที่เดิม ๆ อีกด้วย เพราะการไม่ค่อยพากันไปเดต หรือหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ เพื่อเพิ่มความโรแมนติก หรือลองทำทุกวันให้เหมือนช่วงที่จีบกันใหม่ ๆ เช่น การหาร้านอาหารใหม่, การจัดทริปเที่ยว หรือเซอร์ไพรส์ในวันสำคัญ ล้วนเป็นเรื่องสำคัญ ที่ไม่ควรละเลยในชีวิตคู่หรือหมดโปรโมชันอย่าปล่อยให้มันเป็นแค่วันธรรมดา ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่เป็นฝ่ายเซอร์ไพรส์ผู้หญิง แต่มันคือทั้งสองฝ่ายที่ต้องหมั่นเติมความหวานให้กันและกัน
3. เป็นคู่หูที่ดีต่อกัน
จากงานวิจัยของสหรัฐอเมริกามีการอ้างอิงว่า ปัญหาความรักจืดจาง อาจมีเหตุมาจากความไม่ใส่ใจในความรู้สึกของกันและกัน โดยคู่รักควรคำนึงว่า ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นเราทั้งคู่ต้องเป็น SUPPORTER ที่ดีต่อกัน ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องงานแต่หมายถึงทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับคู่ของเรา ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา อย่ามองว่าปัญหาของอีกคนเป็นเรื่องเล็กหรือไกลตัว และที่สำคัญอย่าใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา เพราะอย่าลืมว่าคนรักคือคนที่เราไว้ใจและคือคนที่เราต้องการกำลังใจมากที่สุด แค่ทั้งคู่รู้จักพูดคำว่า “ขอบคุณ” เมื่ออีกฝ่ายทำงานบ้านให้ ก็สามารถสร้างความสุขให้กับคู่รักได้แล้ว
4. อย่าละเลยเซ็กส์บนเตียง
ถึงแม้เรื่องเซ็กส์จะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ แต่ที่จริงแล้วกลับเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะปัญหาความรักจืดจางของหลายคู่ ก็เกิดจากข้อนี้ เมื่อรักกันไปนาน ๆ อาจมีการละเลยเรื่องบนเตียงเพิ่มขึ้น อาจจะด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หรือความเครียดจากเรื่องต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเพราะคบมานาน เลยทำให้เบื่อรสชาติเดิม ๆ และเมินเฉยกัน ไม่ได้ต้องการในตัวอีกฝ่ายมากเท่าแต่ก่อน ขอให้คู่รักทั้งหลายจงอย่าลืมว่า เซ็กส์นี่แหละ คือสิ่งที่จะเติมเต็มความรักให้กลับมาหวานได้อีกครั้ง
7 วิธีแก้ รักจืดจางทำไงดี
1. สื่อสารกันและกันอย่างเข้าใจ
เพราะการสื่อสารระหว่างคู่รัก เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก การพูดคุยกันแบบเห็นหน้าอย่างน้อยวันละครั้ง ก็เป็นตัวช่วยที่ทำให้ความรักดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น ลดปัญหาความไม่เข้าใจกันไปได้ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เกิดความรู้สึกค้างคาในใจ ควรตั้งคำถามออกไป เพื่อปรับคลื่นความเข้าใจให้ตรงกัน
อาจจะไม่ต้องถึงขั้น 10 คำถาม 3 ตัวเลือก แต่ลองใช้วิธีค่อย ๆ พูดคุยกันไปอย่างธรรมดา ลดการถากถางหรือประชดประชัน อยากถามอะไรก็ถามตรง ๆ พร้อมทั้งหาเหตุผลมาพูดคุยกันในแง่บวก หลีกเลี่ยงการปะทะ ก็เป็นวิธีที่ไม่เลว แถมทำให้อีกฝ่ายเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อสารขึ้นอีกด้วย!
2. หาจุดสนใจร่วมกัน
เชื่อว่าในคู่รักที่คบกันมานาน ต่างต้องมีความสนใจที่ร่วมกันบ้างแหละ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถดึงดูดมาเจอกัน จนกลายเป็นคู่รักได้เช่นนี้หรอก รู้หรือไม่ว่าการพูดคุยในเรื่องเดียวกัน หรือความสนใจเดียวกัน เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้นคู่รักที่ไม่อยากให้ความรักจืดจาง ต้องไม่ลืมกิจกรรมที่ทำให้มีส่วนร่วมด้วยกันทั้งคู่
หนึ่งสิ่งที่คู่รักควรจะต้องมี นอกจากความสนใจในเรื่องเดียวกัน นั่นก็คือ การเคารพความชอบของอีกฝ่าย จริงอยู่ที่ทั้งเราและเขา อาจจะไม่เข้าใจกันทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยทั้งคู่ควรเคารพความชอบของกันและกัน และสามารถทำสิ่งที่ชอบในบริเวณเดียวกันได้ แม้จะทำกิจกรรมคนละอย่างแต่ก็อยู่ในห้องเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายแฮปปี้!
หรือถ้าไม่งั้นลองเป็นกิจกรรมที่ทั้งคู่ทำร่วมกันได้ เช่น การเข้าครัวทำอาหาร แข่งกันว่าใครทำอร่อยกว่า หรือช่วยกันทำมื้อค่ำสุดโรแมนติก หรือช่วยกันทำสวน ตกแต่งหน้าบ้านให้เรียบร้อย ก็เป็นอีกหนึ่งการกระชับความสัมพันธ์รักได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ความสัมพันธ์ 8 รูปแบบ แปลกแต่มีอยู่จริง อัปเดตได้ที่นี่!
3. หมั่น Skinship คนรักอยู่เสมอ
ถึงแม้ว่าหลายคนอาจจะไม่เคยชินกับการกอด หอมแก้ม จุ๊บ ๆ สักเท่าไหร่ แต่การกระทำน่ารักมุ้งมิ้งแบบนี้แหละ เป็นเหมือนยาชูกำลังชนิดพิเศษที่ทำให้ชีวิตคู่ไม่จืดจาง กลับกัน พฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยทำให้เธอและเขาใกล้ชิด แน่นแฟ้นกันขึ้นไปอีก!
หากเป็นไปได้ในครั้งต่อ ๆ ไปที่ได้เจอกัน อาจจะเติมความรักให้กันและกัน ด้วยกอดแน่น ๆ หอมแก้มนิดหน่อย พอให้ใจเต้นแรกก็เป็นกำลังใจชั้นดี ถึงแม้ว่าครั้งแรกที่จะต้องทำ อาจจะรู้สึกเขินอาย แต่ครั้งต่อไปเดี๋ยวก็จะกลายเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้นั่นเอง
เพราะการพัฒนามาเป็นคู่รักกัน การที่ต้อง Skinship ด้วยการจับมือ หรือการกอดกัน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่น่าอาย อยากกอดเมื่อไหร่ก็กอด อยากจับมือเมื่อไหร่ก็จับ ไม่ต้องรอโอกาสพิเศษปีละหน ก็เป็นแฟนกันนี่ ถ้าทำแล้วมีความสุขก็จัดไปเลยยาว ๆ !
4. ไม่ลืมที่จะหยอดอารมณ์ขัน
คู่รักที่มีแต่ความสุข มักมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร่าเริง มีอารมณ์ขันเสมอ! หลายคนที่ตกหลุมรักคนหน้าตาธรรมดา แต่พูดทีฮากระจาย หาเรื่องตลกมาเล่าได้ไม่หยุดหย่อน จนขากรรไกรแทบค้าง มีเสน่ห์จนรู้ตัวอีกทีก็เป็นแฟนไปซะแล้ว! ความเป็นคนอารมณ์ดีนี่แหละค่ะ ที่จะมัดใจอีกฝ่ายให้อยู่กับเราได้มากกว่าเดิม เพราะบางคนที่อยู่ด้วยแล้วสัมผัสได้ถึงพลังงานลบ มีแต่จะทำให้เหนื่อยเปล่า ๆ จงอย่าลืมว่ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะทำให้ชีวิตคู่มีความสุขสุด ๆ เลยนะ
ลองคิดถึงชีวิตที่ต้องอยู่กับคนรักที่ทำหน้าเครียดบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลาสิไม่สนุกเลยใช่ไหมล่ะจะพูดให้ขำทีก็กลัวว่าจะโดนด่าอย่าลืมว่ามนุษย์ต้องการหัวเราะทั้งนั้นแหละชีวิตประจำวันก็มีเรื่องเครียดมากพออยู่แล้วไม่อย่างนั้นรายการซิตคอมคอมเมดี้จะครองอันดับประเภทรายการทีวียอดฮิตได้เหรอ นอกจากนี้การหัวร่อต่อกระซิกกุ๊กกิ๊ก ๆ ของคนสองคนยังทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกด้วยนะ
5. ละทิ้งโซเชียล เมื่ออยู่ด้วยกัน
เพราะโดยส่วนใหญ่ของคู่รักนั้น มักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียน หรือการทำงานอยู่แล้ว คู่รักบางคู่กว่าจะหาเวลาเจอกันก็ยากแสนยาก เมื่อถึงเวลาที่ได้เจอกัน อย่ามัวแต่ก้มหน้าเล่นเฟซบุ๊ก ไอจี หรือ ทวิตเตอร์อย่างนั้นเลย ถ้าหากเจอกันแล้วไม่คุยกัน จะมาเจอกันทำไม ถ้าเลวร้ายกว่านั้นอีกฝ่ายอาจจะคิดว่ามาคบกันทำไมด้วยซ้ำ!
เมื่อครั้งที่ได้ออกไปเดต หรือใช้เวลาอยู่กับคู่รักของเรา เลิกจิ้มหน้าจอดูคนนั้นคนนี้ในโซเชียล แล้วกดปิดเครื่องมือถือจะยังดีกว่า ลอง “ Disconnect to Connect ” เพื่อเพิ่มความรักให้กันและกันดีกว่า อย่าลืมว่าในบางครั้ง สมาร์ตโฟนก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็น ถ้าหากเราได้เจอกันแล้ว หันมา Log On กับคนข้างตัวอาจจะดีกว่า!
6. บอกรักและแสดงความรักเสมอ
คู่รักที่มีความสุขอยู่เสมอ มักเชื่อในเรื่องของการแสดงความรักไม่ว่าจะทั้งภายใน หรือภายนอก การแสดงออกด้วยคำว่ารักต่ออีกฝ่าย อย่างไรก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะคำบอกรักเป็นเสมือนยาใจที่ทำให้หายจากความอ่อนล้าได้เลยนะ! ย้ำเข้าไปเยอะ ๆ ไม่มีหรอกคำว่าเลี่ยน มีแต่จะเพิ่มความสำคัญให้กันและกันเพิ่มขึ้น
นอกเหนือไปกว่านั้น การแสดงความรักต่อกันในที่สาธารณะ ก็เป็นอีกหนึ่งที่น่าปลื้มใจได้เหมือนกัน เพราะชีวิตคนเราไม่ได้อยู่แค่ในบ้าน แม้จะออกมาซื้อของ เดินเล่นข้างนอกในที่สาธารณะก็แสดงความรักต่อกันได้! ไม่ว่าจะเป็นการจับมือ คล้องแขน โอบไหล่ กอดหลวม ๆ ระหว่างเดินเล่นด้วยกัน เผลอทีก็จุ๊บแก้มบ้าง หรือทำเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งจีบกันใหม่ ๆ ก็เพิ่มความกระชุ่มกระชวยได้สุด ๆ
หรือถ้าอยากจะ Roleplay (บทบาทสมมติ) ด้วยการเล่นบทบาทสมมุติว่าเธอและแฟนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ลองทักกันและกันเหมือนกับคนแปลกหน้า คุยกันเหมือนไม่เคยรู้จักกันและกัน ดีไม่ดีอาจจะแอบถามประเด็นที่ไม่กล้าถามก็ได้ เพราะบางครั้งถ้าอยู่ในฐานะ “แฟน” การเล่นนี้อาจทำให้รู้จักอีกฝ่ายมากขึ้นในอีกหลายแง่มุมก็ได้
7. มีการวางแผนอนาคตร่วมกัน
การวางแผนชีวิตอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ แต่อย่าลืมว่าการวางแผนนั้นมีหลายแบบ เช่น การนัดว่าศุกร์หน้าจะไปไหนดี ห้างหรือสวนสาธารณะ แล้วนัดวันว่างด้วยการกาปฏิทินไว้อะไรก็ว่าไป หรืออีกข้อนี้ที่หมายถึงการวางแผนที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือการวางแผนชีวิตในอนาคตของทั้งคู่นั่นเอง คู่รักตัวอย่างที่มีความสุขเสมอ มักจะวางแผนทุกอย่างในชีวิตร่วมกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
ลองคิดว่าเธอกับเขาเป็น “ทีมเดียวกัน” ที่ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็จงคิด ปรึกษา และหาทางออกกับอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ร่วมกัน อย่าปล่อยให้อีกฝ่ายคิด มโนอยู่คนเดียว ที่สำคัญการวางแผนแบบนี้ ทำให้เธอและแฟนใกล้ชิดแนบแน่นกันมากขึ้น เพราะเธอทั้งคู่วางเส้นทางไว้เดินจูงมือคู่กันไปแล้ว
อย่าลืมว่าคู่รักกันก็เหมือนคนคนเดียวกัน ควรมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เรียนรู้ความต่างของแต่ละบุคคล อาจต้องใช้ความพยายามปรับตัวเข้าหากันอยู่บ้าง แต่ก็เหมือนการต่อจิ๊กซอว์นั่นแหละ ในที่สุดเราก็จะหารอยต่างที่ต่อกันได้พอดีจนได้ ขอให้ใครก็ตามที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว มีความรักยืนยาวเหมือนคู่คุณปู่คุณย่าเลยนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน ใส่ใจแต่ไร้สถานะ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?
วิธีจีบผู้ชายก่อนยังไงให้เนียน พร้อมเทคนิคแบบ (ไม่) ลับ ในการคุย!
เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่ไหม เปิดใจฟังเพื่อปรับมุม กระชับรักที่คู่แต่งงานควรรู้
ที่มา : lifehack