เคยสังเกตหรือไม่ว่า ทำไมบางคนอธิษฐานขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว มักจะสมปรารถนาเสมอ แต่บางคน ขอแล้วขออีกกลับไม่เคยได้ตามที่ขอ หรือถ้าได้ ก็ยากเย็นแสนเข็ญซะเหลือเกิน จะว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอ็นดูเขามากกว่าเราหรือ ก็คงไม่ใช่ งั้นมาดูกันดีกว่าว่า ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผล เราจะต้องทำอย่างไร
10 วิธี ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผล
ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผล เคล็ดลับไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
1. การอธิษฐานขออย่างเจาะจง
หลายครั้งเมื่อเราไปทำบุญอธิษฐานขอพรนั้น เรามักจะนึกไม่ออก หรือสับสนว่าจะขอพรอะไรดี บางคนมีเยอะแยะจนลิสลงกระดาษแทบไม่หมด แต่ถ้าหากคุณอยากให้สัมฤทธิ์ผลโดยไว ให้คุณเจาะจงเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งไปเลย เพราะเทวดา นางฟ้า คงไม่สามารถวิ่งหากระดาษปากกามาจดสิ่งที่คุณขอได้ทั้งหมด ดังนั้น ขออย่างเดียว เจาะจง อธิษฐานอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ สัมฤทธิ์ผลเมื่อไหร่ ค่อยอธิษฐานขอพรข้อต่อไป ก็ยังทัน
นั่นแสดงว่า คุณต้องลำดับความสำคัญแล้วว่า พรข้อนี้ คือสิ่งที่คุณต้องการด่วนที่สุด ต้องการมากที่สุด และให้ความสำคัญกับมันมากที่สุด
2. การทำสมาธิ
การทำสมาธิ นับเป็นบุญอีกอย่างหนึ่งที่เราสามารถทำกันได้ง่าย ๆ และไม่ต้องเสียสตางค์สักแดง แต่ได้บุญมหาศาล ยิ่งมีสมาธิมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเปิดทางให้เราสามารถสื่อสารถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนสัญญาณโทรศัพท์ หรือสัญญาณอินเตอร์เน็ตนั่นเแหละค่ะ หากสัญญาณดี คุยอะไรก็รู้เรื่อง ชัดเจน ฟังเพลิน แต่หากสัญญาณติด ๆ ดับ ๆ อีกฝ่ายพาลจะวางสาย ไม่สนใจเอาดื้อ ๆ
ในช่วงที่อธิษฐานขอสิ่งที่เราปรารถนา การตั้งสมาธิมุ่งมั่น อธิษฐาน จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก หากรู้สึกยังว้าวุ่นใจ สับสน ให้นั่งสมาธิสงบจิตสงบใจก่อน 5 นาที แล้วจึงค่อยเริ่มอธิษฐาน การอธิษฐาน ให้สายตาจ้องมองไปที่ตาขององค์พระ หรือจุดใดจุดหนึ่ง อย่างมีสติ แล้วจึงกล่าวคำอธิษฐานออกมาให้ชัดเจน แล้วท่านจะสดับรับฟังคำอธิษฐานของคุณอย่างจดจ่อเช่นกัน
3. สิ่งที่อธิษฐานขอมีความเป็นไปได้
ถ้าคุณอยากให้พรของคุณเกิดขึ้นโดยไว คำอธิษฐานก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน คุณควรอธิษฐานในสิ่งที่เป็นไปได้ ไม่ใช่คว้าความฝันความหวังลม ๆ แล้ง ๆ มาอธิษฐานขอ บางคนบอกว่า ถ้ามีความเป็นไปได้ แล้วจะขอทำไม การอธิษฐานขอนั้น เป็นการเร่งให้เกิดผลโดยไว มิใช่การสร้างปฏิหาร์ยที่ไม่เป็นจริงให้เกิดขึ้นมา
เช่น หากคุณบอกว่า ขอให้คุณได้เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก ในขณะที่คุณมัวแต่กินเหล้า เมายา นอนตื่นสาย เกียจคร้านการงาน คุณจะเอาที่ไหนมารวย? หรือขอให้ได้รางวัลที่ 1 แต่ไม่เคยซื้อล็อตเตอรี่ เป็นต้น
การอธิษฐานที่ดีคือ คุณทำส่วนนั้นอย่างเต็มที่แล้ว แต่ต้องการอีกแรงช่วยสนับสนุน เช่น คุณทำงานอย่างเต็มที่ แต่ไม่ได้รับการเลื่อนขั้นสักที แต่คุณก็ยังคงทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ คุณจึงอยากอธิษฐานให้ ความมุ่งมั่นในการทำงานของคุณนั้น ปรากฎให้เห็นกับหัวหน้างาน จนทำให้คุณได้เลื่อนขั้น เลื่อนเงินเดือน เป็นต้น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : คำอธิษฐานเวลาทำบุญ ต้องทำยังไง? จึงจะเห็นผลเร็วที่สุด
การสร้างบุญ ไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินก็สามารถทำได้
4. การละเว้นเนื้อสัตว์ ชำระร่างกาย
เชื่อกันว่า การทานเนื้อสัตว์นั้น เป็นส่วนที่ทำให้ร่างกายเรามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เทวดาไม่รัก นางฟ้าไม่ชอบ เทพยดาไม่อยากมอง คุณพระคุณเจ้าไม่ค่อยจะโปรดเท่าที่ควร ดังนั้นก่อนจะไปอธิษฐานขอพร การทำให้อีกฝ่ายปลื้ม และเอ็นดู นับว่าเป็นใบเบิกทางที่ดี การละเว้นการทานเนื้อสัตว์ ก่อนไปอธิษฐานขอพร 1 – 2 วัน เพื่อชำระร่างกายให้หอม ให้สะอาด และยังทำให้เห็นถึงความตั้งใจ ปรารถนาในพรนั้น ให้สัมฤทธิ์ ท่านจะไม่อวยพรให้ก็คงจะทำใจลำบากซะแล้วซิ
5. ถือศีล 5 ให้เคร่งครัด
คนมีศีลมีธรรม ไปที่ไหน ก็มีแต่คนรักคนชอบ หากแต่การถือศีล ต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องมานั่งนุ่งขาวห่มขาว ประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าฉันถือศีลอยู่ โดยเฉพาะศีลข้อ 3 และศีลข้อ 5 ให้ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นอกจากจะดีกับตัวของคุณเองแล้ว ยังทำให้ศีลข้ออื่น ๆ ดูจิ๊บจ๊อยไปเลยสำหรับคุณ
6. บุญเก่าเราเคยสร้างมา
การจะสัมฤทธิ์ผลอะไรแต่ละอย่างนั้น ต้องอยู่ที่บุญเก่าด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าแรงบุญที่เคยทำมานั้น จะช่วยให้สิ่งที่เราปรารถนา หรือสิ่งที่เราอธิษฐานขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกิดผลชัด และรวดเร็วยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนถนน หากเรามีบุญเยอะ ก็จะเหมือนกันถนนที่ถูกลาดยาง ทำให้เราสามารถขับรถผ่านไปได้อย่างสบาย แต่หากกรรมเยอะ ก็เหมือนถนนที่เป็นทางขุระขระ มีหลุมมีบ่อ กว่าจะผ่านไปได้ ก็คงต้องใช้เวลา
เราไม่มีทางรู้หรอกว่า บุญเก่าในอดีตชาติมีมามากแค่ไหน หรือบาปจะเยอะกว่า ดังนั้น ให้มาโฟกัสที่ปัจจุบัน ให้เรามั่นทำบุญเข้าไว้ การทำบุญนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน ก็สามารถทำได้ การนั่งสมาธิ สวดมนต์ รักษาศีล ก็เป็นบุญเช่นกัน
7. การพูดดี ทำดี สร้างศีล สร้างธรรม
ข้อนี้ จะโยงสัมพันธ์กับการรักษาศีล แต่ต้องเข้าใจว่า บาปที่เราทำง่ายที่สุด คือบาปทางวาจา หรือที่เราได้ยินกันว่า วจีกรรม การพูดปด การพูดส่อเสียด การด่าทอว่าร้ายผู้อื่น หรือการซุบซิบนินทา ต่างก็เป็นกรรมทั้งนั้น ดังนั้นการที่เราจะปฏิบัติดีได้ ต้องเริ่มจากการพูดที่ดีก่อน นั่นเป็นเพราะ ปากนั้น มักจะเอ่ยวาจาไปตามใจ ใจคิดแย่ ปากก็เอ่ยวาจาแย่ ๆ ออกมา หากเรา คิดดี พูดดี ทำดีได้แล้ว ไปที่ไหน ใครก็รัก ไปที่ไหนใครก็เอ็นดู แล้วพระพุทธเจ้า เทพยดา นางฟ้า จะไม่รัก ไม่อวยพรคุณ ก็คงไม่ได้แล้ว
ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผล เคล็ดลับไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้อย่างไร ให้สมปรารถนารวดเร็วทันใจ
8. ขอขมากรรม
หากคุณเคยติดกรรมใครไว้ โดยเฉพาะบิดามารดา และผู้ที่มีพระคุณ นับเป็นกำแพงกั้นคำอวยพรจากฟ้า จากสวรรค์ องค์พระ องค์เจ้าอวยพรมาเท่าไหร่ ก็ถูกกีดกั้นด้วยผลกรรมที่เคยได้สร้างเอาไว้ ดังนั้น การขอขมากรรม จึงเป็นสิ่งที่คุณควรทำก่อนที่จะขอพรต่าง ๆ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเราเคลียร์ทางของเราแล้ว คำอวยพรจะมีมาแค่ไหน เราก็จะสามารถรับพรนั้น ได้เต็ม ๆ ไม่มีกั๊ก >>> วิธีขอขมาแม่ การขอขมากรรมพ่อแม่ เพื่อให้เสริมความเจริญให้ชีวิต ในวันแม่แห่งชาติ
9. การปิดทองที่องค์พระ
คุณรู้หรือไม่ว่า การปิดทององค์พระนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่กุศโลบาย แต่หากเปรียบเสมือนการห่อหุ้มองค์พระด้วยทองคำ เพียงแค่ ทองที่เราใช้เป็นแผ่นบาง ๆ เท่านั้นเอง ดังนั้นยิ่งเราใช้ทองบริสุทธิ์แค่ไหนก็ยิ่งส่งผลดีกับตัวเรามากยิ่งขึ้น โดยทั่วไป เรามักจะพบว่าทองที่มีให้ใช้บูชาแปะองค์พระตามสถานที่นั้น มักจะเป็นแผ่นทองคำเปลววิทยาศาสตร์ ดังนั้น หากคุณจะเตรียมแผ่นทองคำเปลวบริสุทธิ์ไปเอง ก็ไม่ผิดอะไร คุณสามารถเลือกแปะทองตามจุดต่าง ๆ ได้ และความหมายแต่ละจุดก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งเราจะมาอธิบายกันอีกครั้งเกี่ยวกับตำแหน่งการปิดทององค์พระกันนะคะ
10. อธิษฐานเพื่อผู้อื่น
การอธิษฐานเพื่อผู้อื่น เราสามารถทำได้เช่นกัน และนำเป็นกุศลสำหรับตัวคุณเองอีกด้วย กุศลนี้ เกิดจากการคิดดี ทำดี ปรารถนาดีต่ออีกฝ่าย หากแต่ อีกฝ่ายก็ต้องมีบุญพร้อมที่จะได้รับกุศลผลบุญนี้ด้วย จึงจะสัมฤทธิ์ผลโดยไว จากการกระทำนี้ นับว่าเป็นพรหมวิหารธรรม คือ เมตตาปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข พ้นทุกข์จากสิ่งที่เป็นอยู่ นอกจากเขาจะได้พรแล้ว แน่นอนว่า คุณก็ได้บุญเพิ่มเช่นกัน
เคล็ดลับไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
1. การบนบานศาลกล่าว
โบราณกาล เรามักจะเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ คนเฒ่าคนแก่ มักจะบนสิ่งนั้นสิ่งนี้ เพื่อให้สมหวัง สมปรารถนา ตามสิ่งที่ตนได้ขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตามหลักแล้ว การบนนั้น เปรียบเสมือนการติดสินบนเจ้าพนักงาน ซึ่งดูไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
สิ่งที่ควรทำคือ การอธิษฐาน อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล สวดมนต์ แผ่เมตตา ให้กับวิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราไปร้องขออธิษฐาน แล้วจึงค่อยกล่าวคำอธิษฐาน ที่เราตั้งใจเอาไว้ และเมื่อคำอธิษฐานนั้นเป็นจริง จึงค่อยนำของที่เราอยากจะให้ อยากจะถวายมาให้ เพื่อเป็นการขอบคุณ และประกาศความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่นั้น ๆ รวมถึงการทำบุญ และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล เพิ่มไปอีก เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละที่นั้น ปรารถนาบุญกุศล เป็นแรงกำลัง มากกว่าสิ่งอื่นใด
การใช้จำนวนธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างกัน เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง
2. การจุดธูปไหว้ที่ถูกต้อง
นับว่าเป็นอีกหนึ่งความเชื่อสำหรับคนไทย ที่จะต้องกำหนดเรื่องของจำนวนธูปที่จุดอย่างชัดเจน เพื่อการแยกแยะ หรือแบ่งจำพวกเทพ จำพวกผี เพราะต้องยอมรับว่า คนไทยเรา นับถือทุกอย่าง จนแทบจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ดังนั้น การแยกใช้ปริมาณธูป ก็เป็นการช่วยให้เราได้ตระหนักถึงเวลาไหว้ ว่าสิ่งที่เรากราบไหว้อยู่นั้น เป็นพระ เป็นเทพ เป็นผี กันแน่
- ไหว้เจ้าที่ หรือผีบ้านผีเรือน ให้ใช้ธูป 1 ดอก
- ไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ใช้ธูป 3 ดอก
- ไหว้ศาลตายาย ใช้ธูป 5 ดอก
- ไหว้บูชาเทพ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา รุกขเทวี ศาลพระภูมิ ใช้ธูป 9 ดอก
- ไหว้บูชาพระราหู สวดมนต์เสริมดวง ใช้ธูป 12 ดอก
- ไหว้บูชารูปปั้นพระสงฆ์ ใช้ธูป 14 ดอก
- ไหว้บูชาเทพชั้นสูง จะกลางแจ้ง ไว้เทพเทวดา สิบหกชั้นฟ้า ใช้ธูป 16 ดอก
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : คาถาขอโชคลาภประจำวัน และคาถามหาเศรษฐี สวดคาถาเรียกทรัพย์รัว ๆ
3. วิธีการอธิษฐาน
การอธิษฐานนั้น ท่านสามารถจุดธูป แล้วปักลงกระถางก่อน แล้วจึงมาสวดมนต์อธิษฐานตามหลัง หรือจะอธิษฐานพร้อมกับธูปที่จุดอยู่ ก็สามารถทำได้ทั้งคู่ จากนั้นให้ตั้งจิตอธิษฐานสิ่งที่ต้องการอย่างแน่วแน่ และเป็นสมาธิ โดยเริ่มจากการสวด นะโมฯ 3 จบ แล้วตามด้วยบทสวดอื่น ที่คุณสวดอยู่ประจำ เพื่อเป็นการเสริมเพิ่มบารมี แล้วจึงค่อยอธิษฐานขอพร
การกล่าวคำขอพร ให้เริ่มจากการบอก ชื่อ – นามสกุล ตัวเอง วันเดือนปีเกิด (เพื่อระบุตัวตนให้ชัดเจน) แล้วจึงกล่าวคำอธิษฐาน แล้วจึงลงท้ายด้วยคำว่า ด้วยบุญกุศลของข้าพเจ้าที่ได้เคยทำมาทั้งในอดีต และ ปัจจุบัน อดีตชาติก็ดี ขอให้ผลบุญ ช่วยส่งผลให้สิ่งที่ข้าพเจ้าได้ขอไป สัมฤทธิ์ผลโดยพลัน ขอบุญบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยดลบันดาล ให้เกิดสัมฤทธิ์ผลในเร็ววันด้วยเทอญ สาธุ (คำว่าสาธุ สามารถแปลว่าหมายว่า ขอให้เป็นไปตามนั้น)
4. วิธีอธิษฐานเมื่อพรสัมฤทธิ์ผล
เมื่อสิ่งที่คุณได้อธิษฐานขอพรไปเกิดสัมฤทธิ์ผลไปตามที่คุณได้เคยอธิษฐานเอาไว้ ให้กลับมาบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อธิษฐานขอบคุณ เสมือนเป็นการประกาศความศักดิ์สิทธิ์ว่าคุณได้รับการอวยพรจากที่นั่น และเป็นไปดังหวัง
บางคนอาจจะนำสิ่งของมาสักการะบูชา ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ สถานที่นั้น ๆ ผู้คนมักจะถวายสิ่งไหน และมีคำบอกกล่าวว่า ท่านชอบอะไร ก็นำสิ่งนั้นไปถวาย หากเป็นของสด หลังจากธูปหมดก้าน ก็ให้ลาของแล้วนำกลับไปทาน เพื่อความเป็นสิริมงคล หรือนำไปแจกจ่ายให้กับผู้อื่น คุณก็จะได้บุญได้กุศลเพิ่มด้วยเช่นกัน อย่าปล่อยให้ของที่ถวายไป เน่าเสีย มดขึ้น หนอนขึ้น ให้เก็บกวาดให้เรียบร้อย แล้วจึงค่อยลากลับ
เวลาอธิษฐานต่อองค์พระ ก็ให้กล่าวชื่อ – สกุล วันเดือนปีเกิดของตนเองอีกครั้ง แล้วบอกว่า ขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านได้ประทานพรให้กับข้าพเจ้า ขณะนี้ พรนั้น ได้สัมฤทธิ์ผลดังที่ข้าพเจ้าได้ปรารถนาเอาไว้ วันนี้ ข้าพเจ้าจึงได้นำของ….. มาถวาย ขอโปรดรับเอาไว้ และโปรดอวยพรให้ข้าพเจ้า ชีวิตของข้าพเจ้า และครอบครัวของข้าพเจ้า ได้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ คนดี ๆ และผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวงได้ด้วยเทอญ สาธุ (คำอธิษฐาน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะทุกอย่างไม่มีบทตายตัว และไม่มีถูก ไม่มีผิด ขอเพียงให้อธิษฐานออกมาจากไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมรับฟัง)
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลืมแก้บนจะต้องทำอย่างไร ไขข้อสงสัย และวิธีแก้บนที่จําไม่ได้
ไหว้เจ้าที่ ไหว้อย่างไรให้เจ้าที่รัก ตามบ้านเลขที่ พร้อมวิธีบูชา
บทกรวดน้ำ ให้ผู้ล่วงลับ เจ้ากรรมนายเวร ที่ถูกต้อง รวบรวมเอาไว้ ที่นี่ที่เดียว
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!