ไวรัสตับอักเสบบีมีอาการเป็นอย่างไร รวมความรู้เกี่ยวกับไวรัสตับอักเสบบี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ไวรัสตับอักเสบบี มีอาการอย่างไร โรคไวรัสตับอักเสบบีมีวิธีรักษาหรือไม่ ไวรัสตับอักเสบบีมีสาเหตุเกิดจากอะไร แล้วมีวิธีป้องกันหรือไม่ มาดูกัน

 

ไวรัสตับอักเสบบีเป็นการติดเชื้อที่ตับอย่างรุนแรง ที่เกิดจากไวรัสตับอักเสบบี สำหรับบางคนการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะกลายเป็นเรื้อรัง ซึ่งก็หมายความว่าจะเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน การเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะตับวาย มะเร็งตับ หรือโรคตับแข็ง ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้เกิดแผลในตับอย่างถาวร ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ที่เป็นโรคตับอักเสบบีจะฟื้นตัวเต็มที่ แม้ว่าอาการที่แสดงจะรุนแรงก็ตาม ทารกและเด็กมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรังมากกว่าผู้ใหญ่

 

ไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร

โรคไวรัสตับอักเสบ บี (Hepatitis B) คือ โรคที่มีการติดเชื้อของตับ ซึ่งสาเหตุของการติดเชื้อมาจากการติดเชื้อของไวรัสตับอักเสบบี (HBV) การติดเชื้ออาจจะนำไปสู่การเป็นโรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อตับ และชีวิตได้ เช่น ตับวาย ตับแข็ง และมะเร็งตับ โดยการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี สามารถที่จะติดต่อกันได้ผ่านทางสารคัดหลั่งที่มาจากร่างกาย เช่น ติดต่อผ่านเข็มฉีดยา ติดต่อได้ทางเลือด ( การรับเลือด ) การฝังเข็ม หรืออุปกรณ์ที่มีเชื้อปนเปื้อน หรือจะติดต่อได้จากการที่มีเพศสัมพันธ์ทางสารคัดหลั่ง

อาการของโรคไวรัสตับอักเสบ บี

อาการของโรคไวรัสตับอักเสบบีมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงอาการที่มีความรุนแรง โดยปกติมักจะปรากฏขึ้นหลังจากที่มีการติดเชื้อแล้วประมาณ 1 – 4 เดือน ซึ่งสัญญาณและอาการของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ที่อาจเกิดขึ้น มีดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • มีอาการปวดช่องท้อง
  • ปัสสาวะมีสีเข้มผิดปกติ
  • มีไข้
  • ปวดตามข้อต่อ
  • เบื่ออาหาร ไม่อยากอาหาร
  • มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
  • ร่างกายมีความอ่อนแรงและอ่อนล้า
  • ตาเหลืองและผิวเหลือง

 

สาเหตุของไวรัสตับอักเสบ บี

สาเหตุของไวรัสตับอักเสบ บี (HBV) มีดังต่อไปนี้

  • ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ อาจจะได้รับเชื้อได้หากว่ามีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่มีการป้องกัน ( รวมไปถึงการรวมเพศทางปาก หรือทางทวารหนัก ) หรือได้รับการติดเชื้อเมื่อเลือดสัมผัสกับเชื้อ ( กรณีที่ผู้รับเชื้อมีบาดแผล ) เช่น น้ำอสุจิ น้ำลาย และสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศหญิง อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีนั้นไม่สามารถที่จะติดต่อกันทางการจูบ การจับมือ กอด ไอ จาม และการใช้ถ้วยชาม หรือของใช่ต่าง ๆ ในบ้านร่วมกันได้
  • การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) สามารถที่จะติดต่อได้ง่ายผ่านทางเข็มฉีดยา หรือกระบอกฉีดยา ซึ่งมีโอกาสปนเปื้อนเลือดที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ โดยเฉพาะการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำโดยตรง ยิ่งมีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้ติดเชื้อได้
  • ติดจากแม่สู่ลูก คุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ แล้วมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี สามารถที่จะแพร่ไวรัสสู่ลูกขณะที่คลอดได้ อย่างไรก็ตาม เด็กแรกเกิดสามารถที่จะฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาไวรัสตับอักเสบ บี หากกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนที่จะมีบุตร

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ตับอักเสบบีเฉียบพลันกับเรื้อรัง

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอาจเกิดขึ้นในระยะสั้น (เฉียบพลัน) หรือยาวนาน (เรื้อรัง)

  • การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเฉียบพลัน ใช้เวลาน้อยกว่าหกเดือน ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจจะกำจัดไวรัสตับอักเสบบีเฉียบพลันออกจากร่างกายได้ และคุณควรฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ภายในเวลาไม่กี่เดือน คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคตับอักเสบบีเมื่อเป็นผู้ใหญ่มีการติดเชื้อเฉียบพลัน แต่อาจนำไปสู่การติดเชื้อเรื้อรังได้
  • การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง เป็นเวลาหกเดือน หรือนานกว่านั้น เชื้อไวรัสตับอักเสบบียังคงอยู่เพราะระบบภูมิคุ้มกันของคุณไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังอาจจะอยู่ตลอดชีวิต และอาจนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น โรคตับแข็ง และมะเร็งตับ

ยิ่งคุณอายุน้อยยิ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โดยเฉพาะทารกแรกเกิด หรือเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเรื้อรังก็จะสูงขึ้น การติดเชื้อเรื้อรังอาจตรวจไม่พบเป็นเวลาหลายสิบปี จนกว่าบุคคลนั้นจะป่วยหนักจากโรคตับ

 

ปัจจัยเสี่ยง

ไวรัสตับอักเสบบีแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับเลือด น้ำอสุจิ หรือของเหลวในร่างกายจากผู้ติดเชื้อ ความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะเพิ่มขึ้นหากคุณ ทำดังต่อไปนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันกับคู่นอนหลายคน หรือกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ( HBV )
  • แบ่งปันเข็มระหว่างการใช้ยา IV
  • อยู่กับคนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง
  • มีงานที่ทำให้คุณต้องสัมผัสกับเลือด
  • เดินทางไปยังภูมิภาคที่มีอัตราการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี สูง เช่น เอเชีย หมู่เกาะแปซิฟิก แอฟริกา และยุโรปตะวันออก

 

ภาวะแทรกซ้อน

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีรื้อรังอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงได้ เช่น

  • แผลเป็นจากตับ (ตับแข็ง) การอักเสบที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีสามารถทำให้เกิดแผลเป็นในตับได้ (โรคตับแข็ง) ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการทำงานของตับได้
  • มะเร็งตับ ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งตับมากขึ้น
  • ตับวาย ภาวะตับวายเฉียบพลันเป็นภาวะที่การทำงานที่สำคัญของตับปิดตัวลง เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น การปลูกถ่ายตับมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
  • เงื่อนไขอื่น ๆ ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรังอาจเกิดโรคไต หรือการอักเสบของหลอดเลือดได้

 

การป้องกัน

วัคซีนตับอักเสบบีมักจะได้รับเป็นสามหรือสี่ฉีดในหกเดือน คุณไม่สามารถติดไวรัสตับอักเสบบีจากวัคซีนได้

วัคซีนตับอักเสบบีแนะนำสำหรับ :

  • ทารกแรกเกิด
  • เด็กและวัยรุ่นที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเมื่อแรกเกิด
  • ผู้ที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในศูนย์พัฒนาคนพิการทางการพัฒนา
  • คนที่อาศัยอยู่กับคนที่เป็นโรคตับอักเสบบี
  • เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน และบุคคลอื่นที่สัมผัสกับเลือด
  • ใครก็ตามที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้ง HIV
  • ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย
  • ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน
  • คู่นอนของคนที่เป็นโรคตับอักเสบบี
  • ผู้ที่ฉีดยาผิดกฎหมายหรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
  • ผู้ที่เป็นโรคตับเรื้อรัง
  • ผู้ที่เป็นโรคไตระยะสุดท้าย
  • นักเดินทางที่วางแผนจะไปพื้นที่ของโลกที่มีอัตราการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีสูง

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

โรคคอพอก เป็นอย่างไร ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับโรคคอพอก 

โรคท้าวแสนปม คืออะไร สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับโรคท้าวแสนปม ?

ไข้หวัดนกมีอาการเป็นอย่างไร โรคไข้หวัดนกเกิดมาจากสาเหตุอะไร มีวิธีรักษาไหม

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : myoclinic.org , pobpad.com

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Kittipong Phakklang