แกงเขียวหวาน (Green Curry) แกงที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม ทำให้สามารถทานได้ทุกคน ไม่เผ็ดจนเกินไป ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่การทำพริกแกงให้มีความเข้มข้น รวมไปถึงสูตรของการปรุงแกงเขียวหวาน ที่เราคัดมาให้แล้ว แค่ทำตาม อร่อยแน่นอน
ทำความรู้จักแกงเขียวหวาน
แกงเขียวหวานเป็นอาหารที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีต้นแบบมาจากแกงเลียง และแกงป่าที่ไม่ได้ใส่กะทิ ต่อมามีการปรับแต่งรสชาติด้วยการเติมกะทิ จามด้วยพริกแห้ง จนกลายมาเป็นแกงเผ็ด และปรับเปลี่ยนสูตรเพิ่มขึ้นจนกลายมาเป็น “แกงเขียวหวาน” อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน สามารถทานพร้อมกับข้าวสวย หรือขนมจีนก็ได้ และถือเป็นแกงที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย ที่ต่างชาติให้ความสนใจเหมือนกับต้มยำกุ้ง และส้มตำ
ชื่อแกงเขียวหวาน ไม่ได้มีความหมายตรงตัวว่า สีเขียว และมีรสหวานแต่อย่างใด โดยชื่อนี้มีที่มาจากสีของแกง ในความหมายของ แกงที่มีสีเขียวนวลดูนุ่มนวล สะอาดตา ให้ความรู้สึกหวานจากการมองดู ไม่ใช่สีเขียวแก่ที่ดูเข้มจนน่ากลัวนั่นเอง ส่วนสีเขียวที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของแกงชนิดนี้นั้นมาจากสีของ พริกชี้ฟ้าสดสีเขียว และพริกขี้หนูสดสีเขียว ปรุงร่วมกับน้ำกะทิจนได้สีเขียวอย่างที่เราเห็นกัน
หลายคนอาจยังไม่รู้ความโด่งดังของแกงเขียวหวานนั้นถูกจัดอันดับโดยเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นโกให้เป็น เมนูอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกอันดับที่ 19 จากการจัดอันดับ 50 อันดับ ด้วยรสชาติที่ครบทั้งเค็ม, หวาน และเผ็ด จนถูกเพิ่มเข้าเป็นเมนูยอดฮิตในร้านอาหารต่างประเทศหลายร้าน
บทความที่เกี่ยวข้อง : มันฝรั่งทอด สูตรสุขภาพ อร่อย น้อยน้ำมัน ทานได้ทุกวัย
ประโยชน์จากการทานแกงเขียวหวาน
การทำแกงเขียวหวานมักมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ผักสมุนไพรต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะสูตรไหนก็หนีไม่พ้นอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เองทำให้แกงเขียวหวานมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างหลากหลายตามวัตถุดิบที่ถูกนำมาปรุง ตัวอย่างเช่น
- ใบมะกรูด : มีส่วนช่วยในการป้องกันมะเร็ง
- ตะไคร้ : บรรเทาอาการท้องแน่น ท้องเฟ้อ
- รากผักชี : ช่วยให้การทำงานของระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดโอกาสเกิดโรคกระเพาะ
- หัวหอม : แก้อาการไข้หวัด หายใจคัดจมูก เป็นต้น
โดยวัตถุดิบเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาปรุงแกงเขียวหวานเท่านั้น หากเป็นสมุนไพรแน่นอนว่าต้องขึ้นชื่อเรื่องแก้อาการเจ็บไข้ บรรเทาอาการป่วยได้อยู่แล้ว ดังนั้นทุกครั้งที่ทำแกงเขียวหวาน จะต้องคำนึงถึงวัตถุดิบด้วยว่า สิ่งที่เราใส่ลงไปนั้นมีประโยชน์ต่อตัวของเรา และคนที่ทานหรือไม่
สูตรแกงเขียวหวานหลากสไตล์ที่เราอยากแนะนำ
การจะทำ แกงเขียวหวาน ให้อร่อยต้องเริ่มจากการทำพริกแกงให้ถูกวิธี เพื่อนำไปใช้ปรุงต่อได้ตามความต้องการ หรือจะปรุงพริกแกงในขั้นตอนการทำเลยก็ได้เช่นกัน โดยเรามีทั้งสูตรทำพริกแกง และสูตรแกงเขียวหวานมาแนะนำกัน
สูตรพริกแกงเขียวหวานสุดคลาสสิก
วัตถุดิบ : หอมแดง, กระเทียมไทย, เกลือ, กะปิ, รากผักชี, พริกไทยเม็ด, พริกชี้ฟ้าสดสีเขียว, พริกขี้หนูสด, ตะไคร้, ข่า, ผิวมะกรูด, ลูกผักชี, ยี่หร่า และลูกจันทน์
วิธีการทำ
- เริ่มจากการนำยี่หร่า, ลูกจันทน์ และลูกผักชี มาคั่วในกระทะให้หอมตั้งเตรียมไว้
- ผ่าครึ่งพริกชี้ฟ้าสีเขียวมา นำเม็ดออกให้หมด จากนั้นนำมาตำพร้อมกับพริกขี้หนูสด, ผิวมะกรูด, ตะไคร้, ข่า, หอมแดง, กระเทียม และรากผักชี พร้อมกับใส่เกลือ ตำส่วนผสมให้เข้ากันจนละเอียดเป็นพริกแกง
- นำพริกไทย, ยี่หร่า, ลูกจันทน์ และลูกผักชี ที่ตั้งเตรียมไว้มาตำรวมกับเครื่องแกงให้เข้ากัน และใส่กะปิลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย ตำให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นสามารถนำเครื่องแกงเขียวหวานนี้ไปปรุงอาหารต่อได้ตามใจชอบ
วิดีโอจาก : MrFoodandTravel
แกงเขียวหวานไก่ใส่ฟัก กรอบนุ่มในคำเดียว
วัตถุดิบ : สะโพกไก่, เครื่องในไก่, ฟักเขียว, เลือดไก่, ใบโหระพา, น้ำปลา, พริกแกงเขียวหวาน, พริกแกงเผ็ด, พริกชี้ฟ้าแดง, ใบมะกรูดฉีก, น้ำตาลปี๊บ และกะทิ
วิธีการทำ
- ทำการตั้งหม้อใส่หัวกะทิรอจนเริ่มเดือด จากนั้นใส่พริกแกงเขียวหวาน และพริกแกงเผ็ดตามลงไป คนจนกว่าจะละลายเข้ากัน และเคี่ยวต่อจนกะทิแตกมันเพียงเล็กน้อย
- เมื่อเคี่ยวได้ที่ให้ใส่สะโพกไก่ลงไป เกลี่ยเล็กน้อยไม่ให้เนื้อติดกัน เร่งไฟสูงขึ้นให้ไก่สุก เมื่อไก่สุกแล้ว คนไก่ให้กลับด้านรอจนกว่าจะสุก ระหว่างรอให้ใส่ใบมะกรูดฉีก, น้ำตาลปี๊บ, และน้ำปลาตามลำดับคนให้เข้ากัน
- เมื่อไก่สุกแล้ว ใส่เครื่องในไก่, เลือดไก่ และฟักเขียวลงไป จากนั้นเติมหางกะทิจนกว่าจะท่วมวัตถุดิบที่เตรียมไว้ ตั้งทิ้งไว้รอจนกว่าฟักจะสุก เมื่อฟักสุกแล้ว ให้ใส่พริกชี้ฟ้าแดง รอสักครู่ จากนั้นให้ใส่ใบโหระพาแล้วเกลี่ยให้โดนความร้อน เสร็จแล้วก็เสร็จพร้อมรับประทาน
วิดีโอจาก : Mai Yom Auon ไม่ยอมอ้วน
แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย นุ่มละลายในปาก
วัตถุดิบ : ลูกชิ้นปลากราย, มะเขือเปราะ, หัวกะทิ, หางกะทิ, น้ำพริกแกงเขียวหวาน, น้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา, พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง, โหระพา และใบมะกรูด
วิธีการทำ
- นำหัวกะทิลงผัดให้แตกมัน ตามด้วยใส่เครื่องแกงลงผัดพร้อม ๆ กับหัวกะทิให้มีกลิ่นหอม จากนั้นใส่ลูกชิ้นปลากรายลงผัดในน้ำแกง
- ใส่หางกะทิลงไปตั้งทิ้งไว้ให้เดือด เคี่ยวให้เนื้อลูกชิ้นสุกนุ่ม จากนั้นใส่มะเขือเปราะ ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ
- เพิ่มพริกชี้ฟ้า, ใบมะกรูดฉีก และใบโหระพาตามลำดับ เมื่อทุกอย่างสุกพอดีแล้วก็พร้อมรับประทาน
วิดีโอจาก : MAEBAN TV
แกงเขียวหวานมีรสชาติที่ไม่เผ็ดมากจนเกินไป ถือว่าเป็นแกงที่ครบรสทำให้สามารถทานได้ทุกวัย แม้แต่เด็ก ๆ ก็สามารถทานได้ หากลูก ๆ ได้เลยรับรองต้องติดใจอย่างแน่นอน
บทความที่น่าสนใจ
แนะสูตรเด็ด !! เมนูปลาหมึก ราชาแห่งอาหารทะเล ทำง่าย อร่อยไม่มีวันลืม
เมนูข้าวแกง อาหารที่มีความโดดเด่น เหมาะแก่การทำให้ลูกทาน
เมนูเส้นแก้ว แคลอรี่น้อย อร่อย ถูกใจเด็ก ๆ แถมดีต่อสุขภาพ !!
ที่มาข้อมูล : wongnai kookrua keowan