สีของอึลูกน้อย ไม่เพียงบอกว่าลูกกินอะไรเข้าไป แต่ยังบ่งบอกถึงสุขภาพภายในของลูกน้อยอีกด้วย การสังเกตสีของอึลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่! อย่าเพิ่งตกใจถ้าเห็นอึลูกมีสีแปลกๆ อย่าเพิ่งอี๋ ถ้า… ลูกน้อยอึสีเขียว ดำ เทา บทความนี้จะชวนคุณแม่มาสังเกตและทำความเข้าใจว่า สีอุจจาระของลูกน้อยที่แตกต่างกันนั้น เกิดจากอะไร และ บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพลูก
ลูกน้อยแต่ละวัย อึไม่เหมือนกันนะ
ลูกน้อยแต่ละช่วงวัยนั้นมีพัฒนาการแตกต่างกันไปค่ะ ในเรื่องของการขับถ่ายก็เช่นกัน โดยลูกจะมีการพัฒนาของระบบขับถ่ายตั้งแต่แรกเกิด ดังนี้
-
ทารกแรกเกิดถึง 1 เดือน
เป็นช่วงที่คุณแม่อาจพบว่าลูกน้อยขับถ่ายบ่อยมาก วันละประมาณ 10 ครั้งหรือมากกว่านั้นขึ้นไป เนื่องจากระบบขับถ่ายของลูกเป็นแบบอัตโนมัติ คือ เมื่อกินนมจนเต็มกระเพาะ จะมีการส่งสัญญาณผ่านระบบประสาทไปกระตุ้นที่ลำไส้ใหญ่เกิดการขับถ่ายออกมา หากลูกน้อยได้รับนมแม่อย่างสมดุลทั้งน้ำนมส่วนหน้าและส่วนหลังอึของลูกก็จะมีลักษณะสีเหลืองทอง เป็นเม็ดๆ เหมือนเม็ดมะเขือ
-
อายุ 1-4 เดือน
ลูกน้อยที่อายุประมาณ 1-2 เดือนขึ้นไป อาจลดปริมาณการขับถ่ายลงมาเหลือวันละ 1-8 ครั้ง หรืออาจไม่ได้ถ่ายทุกวัน โดยที่กินนมได้ หลับได้ ท้องนิ่มดี ผายลมเล็กน้อย เหล่านี้เป็นอาการปกติที่พบเจอได้ เนื่องจากลำไส้ลูกน้อยสามารถดูดซึมสารอาหารในนมแม่ไปใช้ได้หมดแทบไม่เหลือกากของเสียให้ขับถ่ายออกมา การที่ลูกไม่อึทุกวันแบบนี้คุณแม่ไม่ต้องกังวลค่ะ
-
ลูกน้อยวัย 4-6 เดือน
จำนวนครั้งของการขับถ่ายจะลดน้อยลงอีก ประมาณ 2-3 ครั้งต่อวัน หรือประมาณ 2-3 วันขับถ่าย หากอึของลูกมีลักษณะนิ่มดี และค่อยๆ เป็นก้อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ถือว่าปกติค่ะ
-
อายุ 6 เดือน-1 ปี
เป็นช่วงที่คุณแม่อาจเริ่มให้ลูกกินอาหารเสริมตามวัยแล้ว ซึ่งลำไส้จะมีการปรับตัวกับอาหารที่ลูกกิน ในช่วงแรกจึงอาจพบว่าลูกไม่ขับถ่าย อุจจาระแข็งหรือเหลว แต่เมื่อลำไส้มีการปรับตัวได้ประมาณ 5-7 วัน ลูกน้อยก็จะกลับมาขับถ่ายปกติ
-
ลูกอายุ 1-2 ปี
ลูกจะขับถ่ายเป็นก้อนมากขึ้น และลดจำนวนครั้งในการถ่ายเหลือวันละ 1-3 ครั้ง หรือไม่ได้ขับถ่ายทุกวันประมาณ 2-3 วัน โดยลักษณะของอึควรเป็นเนื้อนิ่มดี
-
ช่วงวัย 2-4 ปี
เป็นช่วงวัยที่ลูกน้อยจะขับถ่ายวันละ 1-2 ครั้ง เหมือนกับผู้ใหญ่ หรือ 2-3 วันถ่ายครั้ง แต่เป็นเนื้อ นิ่มดี ถือว่าเป็นปกติ
อย่าเพิ่งอี๋ ลูกน้อยอึสีเขียว
การที่ ลูกน้อยอึสีเขียว อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ตกใจ ซึ่งอึสีเขียวนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งอาหารที่กิน ปัญหาระบบทางเดินอาหาร หรือการได้รับธาตุเหล็ก ซึ่งอาจเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพของลูกน้อยได้
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าทารกแรกเกิดจะอึเป็นครั้งแรกภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังคลอด ซึ่งก็คือ “ขี้เทา” แต่สีของอึลูกจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง หรือเป็นสีเขียวอยู่บ้างตามปริมาณนมแม่ที่ได้รับ ต่อเมื่อลูกน้อยเริ่มเปลี่ยนมากินนมผงหรืออาหารเหลวและอาหารตามวัยได้แล้ว สีของอึจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม น้ำตาล หรือเขียวเข้ม ตามอาหารหรือนมที่ลูกน้อยกินเข้าไปค่ะ ซึ่งสาเหตุ ลูกน้อยอึสีเขียว มีความเป็นไปได้ดังนี้
1. กินอาหารสีเขียว
เนื่องจากคุณแม่กินอาหารที่มีสีเขียวในช่วงให้นมลูก เช่น ผักใบเขียว หรืออาหารแต่งสี นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากทารกเริ่มกินอาหารที่มีส่วนประกอบสีเขียวอย่างถั่วบางชนิด ซึ่งส่งผลต่อสีของอึลูกได้
2. ได้รับน้ำนมส่วนหน้าและส่วนหลังที่ไม่เท่ากัน
ในช่วงที่ลูกน้อยกินนมแม่ มีความเป็นไปได้ว่าลูกน้อยมักได้รับนมส่วนหน้า (Foremilk) มากกว่านมส่วนหลัง (Hindmilk) ทำให้ปริมาณน้ำตาลไม่สมดุลกับปริมาณไขมันที่ควรได้รับ เกิดการย่อยอาหารอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้อึของลูกน้อยเป็นสีเขียว มีลักษณะเหลว และเป็นฟองได้
การที่ ลูกน้อยอึสีเขียว จากสาเหตุนี้มักไม่เป็นอันตราย โดยอาจเกิดจากลูกน้อยดูดเต้าในระยะเวลาสั้น ๆ หรือคุณแม่ปั๊มนมไม่นานพอ ลูกจึงได้รับแต่นมแม่ส่วนหน้าซึ่งมีน้ำตาลแลคโตสมาก (ไขมันต่ำและน้ำตาลสูง) ทำให้ถ่ายบ่อย โดยอาจถ่ายเหลวเป็นน้ำและมีมูกเคลือบอึออกมาด้วย เกิดจากผนังลำไส้หลุดลอกออกมา คุณแม่จึงควรให้ลูกกินนมจากเต้าแม่นานขึ้น ข้างละ 15 นาที หรือปั๊มนมแม่ 30 นาที เพื่อให้ลูกได้รับนมแม่ส่วนหลังที่มีโปรตีนและไขมันเพิ่มขึ้นด้วย
ความสำคัญของน้ำนมส่วนหน้า และน้ำนมส่วนหลัง |
||
น้ำนมส่วนหน้า (foremilk) |
คือ น้ำนมที่ไหลออกมาจากเต้านมในช่วงแรกของการให้นม มีลักษณะเจือจาง สีขาวขุ่น คล้ายนมวัว มีแลคโตสสูง จึงมีรสหวาน
|
|
น้ำนมส่วนหลัง (hindmilk) |
นับเป็นอาหารหลักของลูกน้อย ไหลออกมาหลังจากลูกดูดนมไปสักพัก มีลักษณะข้น สีเหลือง มีไขมันสูง และมีสารอาหารครบถ้วนในการเจริญเติบโต
|
|
3. ลูกน้อยไม่สบาย
มีในบางกรณีเช่นกันที่ ลูกน้อยอึสีเขียว เนื่องจากอาการท้องเสียหรือการติดเชื้อไวรัส ทำให้ถ่ายบ่อย ก้นแดง อาจมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ ข้นเหนียว และอาจมีเมือกติดอยู่
4. เกิดจากการแพ้อาหาร
หากลูกน้อยมีอาการแพ้อาหารบางชนิดร่างกายอาจเกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารอาหารที่ได้รับ ส่งผลให้อุจจาระของลูกเป็นสีเขียว มีมูกปน หรืออาจมีความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ ท้องไส้ปั่นป่วน หายใจลำบากหรือผื่นลมพิษบริเวณผิวหนัง โดยสาเหตุของการแพ้อาหารอาจมาจากการกินนมผง หรือในช่วงเริ่มรับกินอาหารชนิดใหม่ รวมถึงอาหาร เครื่องดื่ม หรือยาที่คุณแม่ใช้ ก็อาจส่งผลให้ลูกน้อยเกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน
5. สาเหตุอื่น ๆ
นอกจากนี้อึสีเขียวของลูกอาจเกิดจากการได้รับวัคซีน หรือได้รับธาตุเหล็ก อุจจาระจึงเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มจนเกือบดำ แต่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย เพราะเมื่อหยุดรับกินธาตุเหล็ก สีอึจะกลับมาเป็นปกติ หรือในกรณีที่ลูกได้รับนมไม่เพียงพออาจส่งผลให้ขับถ่ายน้อยกว่าปกติ อึมีสีเขียว น้ำหนักน้อย แสดงอาการหงุดหงิดและง่วงซึม
ลูกน้อยอึสีเขียว แบบไหนที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม
การที่ลูกน้อยถ่ายอุจจาระออกมามีสีเขียวอาจเป็นเรื่องปกติที่พบได้ก็จริง แต่ใช่ว่าคุณแม่จะวางใจได้ทั้งหมดนะคะ แต่ควรหมั่นสังเกตการขับถ่ายของลูกเสมอ โดยเฉพาะหากอุจจาระของลูกมีลักษณะ หรือมีอาการอื่นใดต่อไปนี้ร่วมด้วย
- ท้องร่วง สังเกตได้จากการที่ลูกถ่ายเหลวมาก ๆ จนไหลหรือล้นผ้าอ้อม กรณีนี้สีของอุจจาระอาจเป็นสีเขียว เหลือง หรือน้ำตาล ซึ่งควรให้ลูกดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำ หากลูกท้องร่วงนานกว่า 3 วัน ถ่ายเหลวมาก ๆ บ่อยครั้ง หรือมีสัญญาณของอาการขาดน้ำ ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
- อึสีเขียวติดต่อกัน ร่วมกับอาการท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายอุจจาระมีเลือดปน มีไข้ หรือคลื่นไส้อาเจียน
- ท้องผูก จนทำให้ถ่ายยาก ลักษณะอุจจาระเป็นก้อนแข็ง เป็นก้อนเล็ก ๆ บางครั้งอาจมีเลือดปนออกมา หรือมีเมือกปนออกมาซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้
อึสีเขียว ดำ เทา บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพลูก
ตั้งแต่แรกเกิดคุณแม่จะสังเกตได้ว่าอุจจาระลูกมักจะมีสีเปลี่ยนไปเสมอค่ะ ซึ่งสีเหล่านี้แหละที่จะสามารถบอกได้ว่าสุขภาพของลูกน้อยเป็นยังไง แข็งแรงตามปกติ หรือมีภาวะผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายหรือไม่ แล้วคุณแม่จะต้องดูแลลูกน้อยอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรง
อึลูกน้อย มีสีอะไรได้บ้างนะ |
||
สี | ลักษณะ | ปกติ (√)
ผิดปกติ (ꓫ) |
เขียวเข้ม ดำ | หรือ “ขี้เทา” เหนียวเข้มเหมือนยางมะตอยหรือน้ำมันดิน เป็นอึในช่วง 1-3 วันแรกเกิด เกิดจากน้ำดี กรดไขมัน น้ำคร่ำ ที่ลูกกินเข้าไป ลูกที่ดื่มนมแม่จะถ่ายขี้เทาออกมาได้ไว ป้องกันอาการตัวเหลืองช่วงแรกคลอด | √ |
เขียวปนเหลือง | เป็นช่วงหลังขี้เทา อาจมีขี้เทาหลงเหลือปนอยู่บ้าง ทำให้ยังมีสีเขียวปนออกมา | √ |
เหลืองคล้ายฟักทอง/มัสตาร์ด | ลักษณะเหลว เนื้ออึนุ่ม เนียน แสดงถึงการที่ลูกกินนมแม่ล้วนอย่างเพียงพอ และสุขภาพดี | √ |
เขียว | อาจเกิดจากคุณแม่กินผักใบเขียวเยอะในช่วงให้นม หรือเริ่มให้ลูกกินนมชง สีอึของลูกอาจจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของนม | √ |
เหลืองปนเขียว | เกิดจากการให้นมลูกในท่าที่ไม่ถูกต้อง ทำให้มีลมในท้องมากไป มีกรดในท้องลูกเยอะ | √ |
เหลืองอมส้ม | เพราะลูกกินนมไม่หมดเต้า ไม่ต่อเนื่อง ทำให้ต้องดูดนมเต้านั้นบ่อยๆ | √ |
น้ำตาลเข้ม | หากลูกกินนมชง นมผสม อึอาจจะมีสีนี้และลักษณะเหมือนแป้งเปียก เป็นก้อน มีกลิ่นแรงมาก | √ |
ดำ(หลังหมดขี้เทา) | อาจเกิดจากแม่กินอาหารที่มีธาตุเหล็กมากเกินไป หรือมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร ระบบขับถ่ายของลูก | ꓫ |
มีสีแดงสดปน | เกิดจากแผลฉีกขาดบริเวณรูทวารหนักจากการเบ่งอึ มักเกิดในเด็กที่อึแข็ง ท้องผูกบ่อยๆ หรืออาจมีแผลในลำไส้ของลูกเล็กและควรได้รับการตรวจรักษาอย่างเร่งด่วน | ꓫ |
สีขาวซีด | โดเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก อาจเกิดจาดความผิดปกติของท่อน้ำดีในร่างกาย และควรได้รับการตรวจรักษา | ꓫ |
สีของอุจจาระจะบ่งบอกถึงระบบขับถ่ายของลูกน้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจและให้ความสำคัญ เนื่องจากระบบขับถ่ายนี้อาจเป็นสัญญาณสุขภาพของลูกในเบื้องต้นได้ การใส่ใจหมั่นสังเกตสีและลักษณะอุจจาระของลูกจึงช่วยให้คุณแม่สามารถรับมือได้ทันท่วงทีหากลูกมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายค่ะ
ที่มา : www.ekachaihospital.com , www.pobpad.com , www.vinceplanet.co.th , www.thaipbskids.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
5 เทคนิค สอนลูกให้พอใจในสิ่งที่ตนมี และไม่อิจฉาผู้อื่น ปลูกสุขที่แท้ในหัวใจ
ลูกไม่ยอมเลิกขวดนม ทำไงดี วิธีแก้ปัญหาลูกน้อยติดขวดนม
White noise เสียงไดร์เป่าผม ช่วยกล่อมทารก หลับสบายจริงไหม ?