เรียนออนไลน์ข้อเสีย ข้อดี แตกต่างกับเรียนในห้องอย่างไร มาดูกันเลย
ช่วงเดือนที่ผ่านมา ในช่วงวิกฤตโรคระบาด ที่ประเทศไทยต้องพบเจอ ทำให้เราได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงมากมาย เกือบจะแทยทุกด้านทุกมุม และ สิ่งที่กระทบ คุณพ่อ คุณแม่ มากอย่างหนึ่งก็คือ การเรียนของลูก ซึ่งพ่อแม่ ต้องคอยมากังวล คอยดูแลลูกตลอดเวลา จนคนก็ตั้งคำถามว่า การ เรียนออนไลน์ข้อเสีย มากกว่าข้อดี หรือ ไม่ และ มันแตกต่างไปจาก การเรียนในห้องอย่างไร วันนี้เราจะมาดูกัน
ข้อดีของการ เรียนออนไลน์
เวลาที่ยืดหยุ่น
สำหรับเด็กบางคน และ ในบางโรงเรียนอาจจะให้ อิสระกับทางบ้าน ได้ทบทวนบทเรียน หรือ เรียนรู้ ในเวลาที่ตนว่าง ซึ่งข้อได้เปรียบนี้ ก็จะดีกับเด็ก ที่อาจจะไม่สามารถ จดจ่อได้นาน ๆ หรือ พ่อ แม่ ที่อาจจะ ไม่ได้ มีเวลาว่าง ในแต่ละวันมากนัก เพราะฉะนั้น การให้ตัวเลือกนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี
ผู้ปกครองจะได้ไปจัดสรรเวลาได้ด้วยตนเอง ว่าจะให้ลูกเรียนตอนไหน
ไม่ต้องเดินทาง
ยิ่งเป็นเมืองที่รถติดมาก เหมือนกรุงเทพแล้ว การเดินทางไปไหนต่อไหน หรือ จากบ้านไปโรงเรียนนั้น เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ สำหรับใครหลายๆคน เด็กจะต้องตื่นแต่เช้า อาจจะนอนไม่เต็มอิ่ม เพื่อไปโรงเรียน แถมพอเลิกเรียน พวกเขาก็ต้องมาเสียเวลานั่งในรถอีก
แทนที่เขาจะได้ใช้เวลานี้ ทบทวนหนังสือ หรือ พักผ่อน การเรียนออนไลน์ จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ได้เช่นกัน เพราะ เด็กไม่ต้องเดินทางออกไปไหน สามารถเรียนรู้จากที่บ้านได้เลย
ข้อเสียของการ เรียนออนไลน์
ความไม่ทั่วถึง
ความไม่ทั่วถึงหรือความเหลื่อมล้ำนั้น เกิดขึ้นได้กับ วงการการศึกษาเช่นกัน และ การเรียนออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่ง ตัวอย่างที่ดี เพราะไม่ใช่ว่า ทุกคน จะสามารถเข้าหาอินเตอร์เน็ตได้ ทุกคนไม่ได้มี โน๊ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน หรือ ทีวี เพราะฐานะของแต่ละคนนั้น มีความหลากหลายและแตกต่าง
การเรียนออนไลน์ อาจจะเข้าถึงได้แค่คนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ทั้งที่จริง ๆ แล้ว การศึกษา ควรที่จะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่ไม่ว่าใครก็ตาม ก็สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้เดียวกันได้
ไม่สามารถถามคำถามได้
สำหรับการเรียนการสอน ที่มาในรูปแบบวีดีโอที่อัดไว้นั้น ถ้าเด็กคนไหนไม่เข้าใจ ก็อาจจะลำบาก เพราะไม่สามารถถามคำถาม และ ให้อาจารย์ ผู้สอน อธิบายให้ฟังได้ในตอนนั้นเลย หรือ บางคน อาจจะเกิดการกระตึก หรือ การติดขัดของสัญญาณ ทำให้ฟังไม่เข้าใจ และ อาจจะทำให้เสียเวลาเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ไม่ได้มีสังคม
การไปโรงเรียนนั้น ไม่ได้มีกิจกรรม เช่นการเรียนเท่านั้น ที่ลูกจะได้เรียนรู้ แต่เด็กต้องการ การเรียนรู้ที่จะเข้าสังคม กับเด็กคนอื่น ๆ ด้วย การที่เด็กในวัยนี้นั้น นั่งอยู่หน้าจอคอม อย่างเดียว อาจจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่
ในอนาคต ถ้าเขาไม่รู้จักการอยู่ในสังคม ร่วมกับผู้อื่น เมื่อโตขึ้น อาจจะทำให้ทุกอย่าง ยากขึ้นไปอีก เวลาจะเข้าหา หรือ พูดคุยกับใคร
ค่าเล่าเรียน
เรื่องนี้ยัง เป็นเรื่องที่ได้รับการถกเถียงกันอยู่ เพราะในบางโรงเรียน ก็อาจจะเก็บเงินค่าการเรียนออนไลน์เพิ่ม บางทีก็ลดราคาลง ความแตกต่างนี้ เป็นเรื่องที่ทางโณงเรียน และ ผู้ปกครอง น่าจะต้องพูดคุยกันให้มากขึ้น
ในความเป็นจริงแล้ว การเรียนออนไลน์าอาจจะเหมาะสม ที่จะมีราคาน้อยกว่าการเรียนในห้องเรียนก็เป็นได้ เนื่องจากไม่ต้องมีการใช้อาคาร ไม่มีมีค่าจิปาถะ เพราะฉะนั้น นี่เป็นอีก หัวข้อสำคัญที่น่าคิด สำหรับทั้งตัว สถานศึกษา และ ผู้ปกครอง
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
Source : thefiscaltimes
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรงเรียนสาธิตพัฒนา พัฒนาการเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรม (School Hit)
เคล็ดลับบำรุงสมอง และเตรียมร่างกายลูกรักให้แข็งแรง พร้อมสำหรับการเรียนรู้อยู่เสมอ
Studycat มอบแอพการเรียนรู้ภาษาสำหรับเด็กให้ใช้ฟรีทั่วโลก