X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

แม่ท้องต้องรู้!! GA และ DHA อาหารที่ทำให้ลูกฉลาดตั้งแต่ในครรภ์

บทความ 3 นาที
แม่ท้องต้องรู้!! GA และ DHA อาหารที่ทำให้ลูกฉลาดตั้งแต่ในครรภ์

คุณหมออดิศร อักษรภูษิตพงศ์ สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ จากโรงพญาบาลพญาไท3 จะมาช่วยคุณแม่ไขข้อข้องใจ ทำไม GA และ DHA ถึงเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับคนท้อง? และอาหารอะไรบ้างที่มี GA และ DHA เพียงพอสำหรับลูกน้อยในครรภ์

Anmum, แอนมัม 5

การสร้างและการพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์เป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน ทารกมีความต้องการสารอาหารที่จำเป็นหลายชนิดเพื่อใช้ในกระบวนการสร้างสมองและระบบประสาทตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ และใช้ในการเติบโตและพัฒนาการตลอดการตั้งครรภ์ที่ยังอยู่ในท้องคุณแม่ จนถึงหลังการคลอดทารกก็ยังคงมีการพัฒนาสมองและระบบประสาทอย่างต่อเนื่องจนถึงอายุ 5-10 ปี โดยเฉพาะในส่วนของเส้นใยประสาทที่เชื่อมต่อการทำงานของเซลล์สมองและระบบประสาททั่วร่างกาย ดังนั้นคุณแม่ที่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และได้สารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ ต่อเนื่องไปถึงตลอดระหว่างการตั้งครรภ์ และหลังการคลอดลูก จะส่งผลให้ลูกมีการสร้างและการพัฒนาสมองและระบบประสาทอย่างต่อเนื่องและดีที่สุด

GA และ DHA พบว่าเป็นสารอาหารที่ส่งเสริมการเติบโตและการทำงานของสมองและระบบประสาท สารอาหารทั้งสองชนิดสามารถพบเป็นส่วนประกอบในอวัยวะหลายส่วนทั่วร่างกาย แต่ที่พบมากที่สุดและเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ คือ สมองและเส้นใยประสาท

GA หรือ Gangliosides คือ ไขมันชนิด Sialic acid glycosphingolipids เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์และมีผลต่อโครงสร้างและการทำงานของอวัยวะทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่สมอง ซึ่งลูกในครรภ์จะใช้ GA ในการเติบโตของสมองและระบบประสาทในปริมาณที่มากในช่วง 3 เดือนก่อนคลอดและหลังคลอดในช่วงวัยเด็ก โดยประโยชน์ของ GA ได้แก่

  1. ส่งเสริมการสร้างและการเติบโตของเส้นใยประสาท
  2. ส่งเสริมการเชื่อมต่อและการทำงานระหว่างเซลล์ประสาท
  3. ทำหน้าที่หุ้มเส้นใยประสาท เพื่อประสิทธิภาพในการส่งข้อมูล
  4. ทำหน้าที่คงสภาพการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท เพื่อการเก็บข้อมูลหรือความจำ

DHA หรือ Docosahexaenoic acid คือ กรดไขมันชนิดโอเมก้า-3 เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอวัยวะหลายอย่าง โดยเฉพาะที่สมองและจอประสาทตา เช่นเดียวกัน ลูกในครรภ์จะใช้ DHA ในการเติบโตของสมองและระบบประสาทในระหว่างที่อยู่ในครรภ์คุณแม่และหลังคลอดในช่วงวัยเด็ก ISSFAL (the International Society for the Study of Fatty Acids and Lipids) ได้แนะนำให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์และคุณแม่ที่ให้นมบุตร รับประทานอาหารที่เหมาะสมให้ได้ปริมาณ DHA อย่างน้อย 300 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อประโยชน์กับลูกในครรภ์และลูกที่ได้รับนมแม่ โดยประโยชน์ของ DHA ได้แก่

  1. ส่งเสริมการสร้างและการเติบโตของสมองและพัฒนาการทั้งทางสติปัญญาและการเคลื่อนไหว
  2. ส่งเสริมพัฒนาการของการมองเห็น
  3. ทารกแรกเกิดพบกว่ามีน้ำหนักตัวทารกที่สูงขึ้น
  4. ทารกหลังคลอดพบภาวะภูมิแพ้ที่ลดลง

GA , DHA สามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด และสามารถพบได้ในน้ำนมแม่หลังคลอด โดยเฉพาะในส่วนน้ำนมเหลือง (Colostrum) โดยที่ GA จะพบได้ใน เนื้อสัตว์ นม และไข่เท่านั้น ไม่สามารถพบ GA จากผักหรือผลไม้ได้ ในขณะที่ DHA สามารถพบได้ทั้งในเนื้อสัตว์และพืช เช่น สาหร่ายและถั่ว แต่จะพบมากในอาหารทะเลโดยเฉพาะปลาทะเล

GA , DHA ที่คุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานเข้าไป สามารถถูกดูดซึมผ่านรกไปยังลูกในครรภ์ได้เพื่อการสร้างและการพัฒนาสมองและระบบประสาทของลูกในครรภ์ หรือในคุณแม่หลังคลอดที่ให้นมลูก GA และ DHA ก็สามารถผ่านทางน้ำนมแม่ไปสู่ลูกได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงแนะนำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์และคุณแม่ที่ให้นมลูก รับประทานอาหารที่มี GA , DHA เพื่อประโยชน์กับลูกของคุณแม่ ให้เติบโตแข็งแรงและมีพัฒนาการทั้งทางร่างกายและสติปัญญาอย่างดีที่สุด

 

นพ.อดิศร อักษรภูษิตพงศ์

สูตินรีแพทย์ เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์

โรงพยาบาลพญาไท3

GA และ DHA

สรุปได้ว่า เจ้าตัวเล็กในท้องของคุณแม่นั้นต้องการ GA , DHA  ผ่านอาหารที่มีประโยชน์และนมที่มีสารอาหารเต็มเปี่ยมที่คุณแม่ทานเข้าไปทุกมื้อนั่นเองค่ะ

GA คือ ส่วนประกอบสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ส่วน DHA ทำหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาการและการทำงานของสมอง ซึ่งทั้ง 2 สารอาหารนี้มีผลโดยตรงกับการพัฒนาสติปัญญาของลูก  รู้อย่างนี้แล้ว คุณแม่ห้ามหยุดเติม GA และ DHA  ทุกวันนะคะ

ส่วน DHA กับ GA  นั้นทำงานกับสมองของลูกน้อยอย่างไร  ไปชมวีดีโอพร้อมๆ กันเลยค่ะ

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

theAsianparent Editorial Team

  • หน้าแรก
  • /
  • Anmum
  • /
  • แม่ท้องต้องรู้!! GA และ DHA อาหารที่ทำให้ลูกฉลาดตั้งแต่ในครรภ์
แชร์ :
  • วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

    วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

  • วิจัยชี้! คนท้องเครียด นอนไม่หลับ ส่งผลต่อพัฒนาการลูกน้อยหลังคลอด

    วิจัยชี้! คนท้องเครียด นอนไม่หลับ ส่งผลต่อพัฒนาการลูกน้อยหลังคลอด

  • เรื่องจริง! ทารกในครรภ์กลายเป็นหิน ทารกหิน คืออะไร อันตรายแค่ไหน?

    เรื่องจริง! ทารกในครรภ์กลายเป็นหิน ทารกหิน คืออะไร อันตรายแค่ไหน?

  • วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

    วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

  • วิจัยชี้! คนท้องเครียด นอนไม่หลับ ส่งผลต่อพัฒนาการลูกน้อยหลังคลอด

    วิจัยชี้! คนท้องเครียด นอนไม่หลับ ส่งผลต่อพัฒนาการลูกน้อยหลังคลอด

  • เรื่องจริง! ทารกในครรภ์กลายเป็นหิน ทารกหิน คืออะไร อันตรายแค่ไหน?

    เรื่องจริง! ทารกในครรภ์กลายเป็นหิน ทารกหิน คืออะไร อันตรายแค่ไหน?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว