สารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ของครรภ์มารดา
อาหารที่มีประโยชน์กับการตั้งครรภ์คุณภาพ
การตั้งครรภ์เป็นก้าวสำคัญสำหรับคุณคงไม่มีใครดูแลลูกในท้องได้ดีเท่าคุณ สารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ของครรภ์มารดา
สารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ของครรภ์มารดา
แกงกลิโอไซด์ (GA: Ganglioside): เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมองบริเวณเส้นใยประสาทและจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ช่วยให้การรับส่งข้อมูลระหว่างเซลล์สมองมีประสิทธิภาพ ทำให้เรียนรู้จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว² และมีผลต่อระดับสติปัญญาของลูกน้อย นอกจากนี้ยังช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายและช่วยลดปัญหาท้องเสีย ผลการวิจัยพบว่าทารกที่ดื่มนมแม่จะมีแกงกลิโอโซด์ที่สมองมากกว่าทารกที่ไม่ได้ดื่มนมแม่³
แน่นอนว่าใน 1 มื้อ เราเลือกกินอาหารดีๆ มีคุณค่าสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ก็เพียงพอต่อร่างกายแล้ว แต่สำหรับแม่ท้องที่มีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ด้วยนั้น แม่กินอะไร ลูกในท้องก็กินอย่างนั้น
ถ้าอยากเน้นเรื่องของพัฒนาการทางสมองของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์ ก็ต้องเสริมด้วย GA (แกงกลิโอไซด์) ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมองบริเวณเส้นใยประสาท และจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลระหว่างเซลล์สมอง ทำให้ลูกเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ระดับสติปัญญา ความเฉลียวฉลาดสูง เรียกว่าเป็น สุดยอดอาหารสมอง เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งทารกในครรภ์สามารถรับคุณค่าของ GA (แกงกลิโอไซด์) ไปเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองได้เมื่ออายุครรภ์ 28 วันเลยนะ ดังนั้น เมื่อแม่รู้ตัวว่ามีเจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องแล้วก็บำรุงอย่างเต็มที่ไปเลย
ผลเสียจากการขาด GA (แกงกลิโอไซด์)
มีการค้นพบว่า อุจจาระของทารกที่ทานนมแม่จะมีแบคทีเรีย เช่น แลคโตบาซิลลัส ไบฟิดัส ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร โดยอาหารของแบคทีเรียกลุ่มนี้ก็คือ GA (แกงกลิโอไซด์) หากพวกมันเจริญเติบโตจนมีจำนวนมากๆ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับไวรัส สารพิษ ตลอดจนยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ ภายในลำไส้ได้ดี โดยเฉพาะเชื้อ E.coli ที่พบได้มากในกลุ่มเด็กเล็ก
โรคที่เกิดจากเชื้อ E. coli ก็คือ อุจจาระร่วง เชื้อโรคจะปนเปื้อนมากับอาหารและน้ำ ส่งผลให้ทารกถ่ายอุจจาระเหลว มีไข้ต่ำๆ คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาการรุนแรงและเกิดความผิดปกติที่ไตจนถึงแก่ชีวิตค่ะ เชื้อ E. coli นี้ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบในทารกแรกเกิด อาการปอดบวม แผลติดเชื้อ โลหิตเป็นพิษอันเนื่องมาจากการผ่าตัด การใช้เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงการใช้สายสวนท่อปัสสาวะด้วย
ความสำคัญ ของการ นับลูกดิ้น การนับลูกดิ้นป็น สิ่ง สำคัญ และสิ่งที่พ่อควรทำ
โฟเลท (Folate):
คือ กรดโฟลิก (Folic acid) เป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่พบในอาหารตามธรรมชาติ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้หญิงก่อนที่จะมีการตั้งครรภ์ ควรเตรียมร่างกายด้วยการทานอาหารที่อุดมไปด้วยโฟลิกหรือโฟเลตเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือนก่อนตั้งครรภ์ สำหรับการทาน โฟลิกควรทานอย่างต่อเนื่องไปจนกระทั่งตั้งครรภ์ได้ 12 สัปดาห์ ผลการวิจัยพบว่าการทานโฟลิกจะช่วยป้องกันและลดปัญหาความผิดปกติของระบบประสาทของทารกในครรภ์ นั่นคือ ภาวะไม่มีเนื้อสมอง ภาวะไขสันหลังไม่ปิด ที่มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายของแม่ขาดหรือไม่ได้รับโฟลิก อย่างเพียงพอ กรดโฟลิกมีความจำเป็นต่อการช่วยสร้างเซลล์สมองและช่วยพัฒนาการของเซลล์สมองของทารกในครรภ์
มีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง หญิงตั้งครรภ์ในเดือนแรกจำเป็นต้องได้รับโฟเลทเพื่อช่วยในการสร้างหลอดประสาทและสมองที่สมบูรณ์ของทารก
จากการวิจับพบว่า สตรีที่ดื่มนมเสริมโฟเลทเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดการเกิดภาวะหลอดประสาทเปิดและภาวะไม่มีเนื้อสมองของทารกได้¹ สตรีตั้งครรภ์ควรบริโภคโฟเลทวันละ 600 ไมโครกรัม ซึ่งมากกว่าสตรีทั่วไป
ดีเอชเอ (DHA):
ดีเอชเอ (DHA) คือกรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมองและจอประสาทตา ในสมองและเซลล์ประสาทตาของคนเราประกอบด้วยกรดไขมันหลายชนิด แต่ชนิดที่มีมากที่สุดคือ ดีเอชเอ โดยพบในสมอง 40% และพบในจอประสาทตา 60% เท่ากับเป็นองค์ประกอบหลักของเซลล์สมอง ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาท ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน จึงได้ชื่อว่าเป็นสารอาหารบำรุงสมองที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสมองของเด็ก โดยเฉพาะในช่วง 3 ขวบปีแรกที่สมองพัฒนาสูงสุดถึง 85% ทีเดียว
กรดไขมันไม่อิ่มตัวลายโซ่ยาว ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์สมองและจอประสาทตา ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสมองและสายตา
ผลการวิจัยพบว่าทารกที่เกิดจากแม่ที่ได้รับการเสริมดีเอชเอ มีระดับสติปัญญาสูงกว่าทารกจากแม่ที่ไม่ได้รับสารเสริมดีเอชเออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ4 และทารกที่ได้รับนมแม่ที่เสริมดีเอชเอจะมีพัฒนาการที่ดีกว่าทารกจากแม่ที่ไม่ได้รับสารเสริมดีเอชเอระหว่างให้นมบุตร5 นอกจากนี้ดีเอชเอยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมคุ้มกันทางระบบทางเดินหายใจของทารก6
ใยอาหาร (Fiber):
ปัญหาหนึ่งที่พบว่ามักเกิดขึ้นกับแม่ท้องหลายๆ ท่านในระหว่างตั้งครรภ์ก็คือ การขับถ่ายไม่ค่อยจะราบรื่นเพราะมีอาการท้องูกเขข้ามารบกวน ทำให้แม่ท้องรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว ทำให้ไม่อยากทานอาหารอื่นๆ เข้าไปเพิ่ม ซึ่งความจริงแล้วคุณแม่ท้องควรจะต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรทานอาหารประเภทใยอาหาร (Fiber) เพิ่มมากขึ้น เพื่อที่ร่างกายจะได้ย่อยอาหารได้มากขึ้น ซึ่งใยอาหารมีส่วนช่วยให้แม่ท้องขับถ่ายได้ง่ายขึ้น และยังลดปัญหาสุขภาพอย่างอาหารริดสีดวงทวารลงได้ด้วย
ใยอาหาร แม่ท้องหากอยากมีสุขภาพดีต้องได้รับโภชนาการในระหว่างตั้งครรภ์ที่ถูกต้องอย่างเหมาะสม เพราะการทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างหลากหลายและสมดุลจะช่วยให้ร่างกายของแม่ท้องมีความแข็งแรง และลูกน้อยในครรภ์ก็พลอยมีสุขภาพดีตามไปด้วย รวมทั้งอาหารที่แม่ท้องทานเข้าไปนั้นส่วนหนึ่งทารกจะนำไปพัฒนาสร้างร่างกายให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และพร้อมที่คลอดออกมาด้วยสุขภาพที่แข็งแรง
ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร ลดการเกิดท้องเสียและช่วยในการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก
เพียงคุณแม่รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะทำให้การตั้งครรภ์ตลอด 40 สัปดาห์ของคุณเป็นการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ
ขอขอบคุณสารประโยชน์ดี ๆ จากแอนมัม
ที่มา : Anmum Club Thailand
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
10 อาหารคนท้องไตรมาสแรก คนท้องไตรมาสแรกควรกินอะไรมาดูกัน!
รวม 10 Dry Shampoo ใช้ดี สำหรับคนขี้เกียจสระผม หรือในวันเร่งรีบ แม่ท้องก็ใช้ได้
รวม 9 วิธีทำให้เล็บสวย สุขภาพดี แม่ท้องทำเล็บ ดูแลเล็บยังไง มาดูเคล็ดลับกัน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!