ความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ รู้ตัวอีกทีก็ท้องโตซะแล้ว ปัญหาการตั้งครรภ์แต่ไม่รู้ตัว เพราะว่าที่ตรวจครรภ์ขึ้นแค่เพียงขีดเดียว สิ่งที่คุณแม่มือใหม่มักพบกัน พอรู้ตัวอีกทีท้องก็ปล่องออกมาซะแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่าทำไมที่ตรวจครรภ์ถึงได้แจ้งผลผิดพลาด
ที่ตรวจครรภ์คืออะไร?
การทดสอบการตั้งครรภ์นั้นมีอยู่หลายวิธี โดยวิธีสุดฮิตและคุณสามารถทำได้เองง่าย ๆ ที่บ้านคือการไปซื้อที่ตรวจครรภ์จากร้านขายยามาตรวจเองง่าย ๆ ที่บ้าน โดยที่ตรวจครรภ์นั้นมีทั้งที่ตรวจครรภ์แบบหยด และที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม เป็นการตรวจหาฮอร์โมน HCG หรือที่ย่อมาจาก Human Chorionic Gonadotropin ซึ่งร่างกายของว่าที่คุณแม่จะเป็นคนผลิตฮอร์โมนชนิดนี้ออกมา หลังจากที่ไข่ได้มีการปฏิสนธิกับอสุจิ และเคลื่อนตัวไปฝังที่เยื่อบุมดลูกเรียบร้อยแล้ว โดยในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่รกเริ่มก่อตัวขึ้นนั่นเอง ซึ่งการตรวจหาฮอร์โมน HCG นั้นสามารถตรวจได้ตั้งแต่ประมาณ 11-14 วัน หลังจากที่ประจำเดือนขาด โดยปกติแล้วระดับของฮอร์โมน HCG จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าทุก ๆ 72 ชั่วโมง จนคุณแม่นั้นมีอายุครรภ์ถึงประมาณ 8-11 สัปดาห์ และหลังจากนั้นก็จะยังคงระดับฮอร์โมนไว้จนกว่าจะคลอดทารกนั่นเอง
บทความที่น่าสนใจ : hCG คืออะไร เกี่ยวอะไรกับคนท้อง แล้วเราจะรู้ค่า hCG ได้อย่างไร
การทำงานของที่ตรวจครรภ์
การตรวจครรภ์ด้วยตนเองที่บ้านนั้นเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่คุณเองก็สามารถทำได้ โดยเมื่อคุณไปซื้อที่ตรวจครรภ์จากร้านขายยา เภสัชกรจะคอยแนะนำวิธีใช้ให้กับคุณ หรือถ้าหากคุณรู้สึกเขินอายคุณสามารถอ่านวิธีการตรวจได้ที่คู่มือในกล่องเวลาที่คุณควรใช้ที่ตรวจครรภ์มากที่สุดคือหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า และส่วนใหญ่แล้วที่ตรวจครรภ์มักแสดงผลเป็นขีด หากผลที่แสดงมีเพียง 1 ขีดนั่นหมายความว่าคุณไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือไม่มีปริมาณฮอร์โมน HCG ในระดับที่มากเพียงพอสำหรับการตรวจ และถ้าหากขึ้น 2 ขีด นั่นแสดงว่าคุณมีปริมาณฮอร์โมน HCG มาก และคุณอาจกำลังจะตั้งครรภ์ (ในบางยี่ห้ออาจมีการสลับกันของการแสดงผล หรือใช้สัญลักษณ์บวกหรือลบ หรือแม้แต่ใช้คำอย่าง pregnant หรือ not pregnant เพื่อแจ้งผลแก่คุณ) โดยที่ตรวจครรภ์นั้นสามารถแจ้งผลให้คุณได้อย่างแม่นยำมากถึง 99 เปอร์เซ็นต์ และที่ที่ตรวจครรภ์เป็นที่นิยมนำมาใช้จำนวนมาก เพราะการอัลตร้าซาวด์นั้นไม่สามารถตรวจหาทารกในครรภ์ได้ในช่วงระยะแรก อาจต้องใช้ระยะเวลาสักพักถึงจะสามารถตรวจพบ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าที่ตรวจครรภ์จะสามารถตรวจได้ในระยะแรก แต่ก็มักเกิดความผิดพลาดได้เช่นกัน ทางที่ดีคุณควรตรวจซ้ำหลาย ๆ รอบ
บทความที่น่าสนใจ : รวม 10 ที่ตรวจครรภ์ ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจแม่น ผิดพลาดน้อย!
ความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์
ถึงแม้ว่าที่ตรวจครรภ์จะมีความแม่นยำสูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณอย่าลืมว่ายังเหลืออีก 1 เปอร์เซ็นต์สำหรับความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ โดยมีสาเหตุดังต่อไปนี้
1. หากคุณบ่อยที่ตรวจครรภ์ไว้เกินเวลา
ในการใช้ที่ตรวจครรภ์นั้น ไม่ว่าจะเป็นแบบจุ่ม หรือแบบหยด คู่มือในกล่องมักบอกเวลาในการรอผลของที่ตรวจครรภ์นั้น ๆ มาอยู่แล้ว โดยเฉลี่ยประมาณ 5-10 นาที ซึ่งหากคุณวางทิ้งไว้ หรือใช้เวลานานเกินกว่าที่จะดูผลของการตรวจนั้นก็สามารถเกิดความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ได้ เพราะปัสสาวะที่คุณได้ทำการนำไปตรวจนั้นอาจเกิดการระเหยออกไป และส่งผลทำให้ผลการตรวจสอบคลาดเคลื่อน จากที่มี 2 ขีด อาจจะเหลือเพียง 1 ขีดก็เป็นได้
2. ที่ตรวจตั้งครรภ์หมดอายุ
เมื่อคุณซื้อที่ตรวจครรภ์ที่ร้านขายยยา คุณควรตรวจสอบวันที่ผลิต และวันหมดอายุเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะชำระเงิน เพราะการที่ที่ตรวจครรภ์นั้นหมดอายุก็ส่งผลทำให้การวิเคราะห์ของที่ตรวจครรภ์คลาดเคลื่อนได้เช่นกัน
3. คุณกำลังอยู่ในระหว่างการใช้ยาเพิ่มระดับฮอร์โมน HCG
ผู้หญิงที่มีการใช้ยาเพื่อช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน HCG อยู่นั้น เป็นไปได้อย่างมาที่ทำให้เกิดความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ เพราะว่าที่ตรวจครรภ์นั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อฮอร์โมนตัวดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ผลการตรวจของคุณคลาดเคลื่อนได้
4. คุณมีฮอร์โมน HCG ตกค้างภายในร่างกาย
ส่วนใหญ่แล้วฮอร์โมน HCG นอกจากใช้การช่วยเพิ่มอัตราการตกไข่ของเพศหญิงแล้ว เราจะพบว่าการที่คุณแม่นั้นเกิดการตั้งครรภ์นั้นก็สามารถพบฮอร์โมนนี้ได้เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคุณแม่ที่เพิ่มคลอดทารก หรือเพิ่งมีอาการแท้งบุตรไป ก็อาจทำให้พบฮอร์โมนนี้เช่นกัน ซึ่งนี่ไม่ได้เป็นความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ แต่เป็นการที่ร่างกายของเรายังมีฮอร์โมน HCG มากถึงในระดับที่ที่ตรวจครรภ์ตรวจพบนั่นเอง
5. การตั้งครรภ์นอกมดลูก
บางครั้งคุณอาจจะตั้งครรภ์ แต่ที่ตรวจครรภ์กลับแจ้งผลไม่ตรงนั้นอาจมีสาเหตุมาจากการที่คุณกำลังตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือการที่ไข่ที่ทำการปฏิสนธิเป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่ได้ไปยังเยื่อบุมดลูกนั่นเอง จึงทำให้ตรวจไม่พบฮอร์โมน HCG แต่หากคุณตั้งครรภ์นอกมดลูกจริง ๆ นั้นอาจเป็นอันตายต่อคุณและลูกในครรภ์ได้ โดยมีกจะพบอาการดังต่อไปนี้
- ปวดบริเวณช่องท้อง หรือกระดูกเชิงกรานอย่างรุนแรง
- มีเลือดออกจากบริเวณช่องคลอด
- เวียนศีรษะอย่างรุนแรง ไม่สามารถลุกขึ้นยืน หรือเดินได้
หากคุณมีอาการดังกล่าว คุณควรรีบไปพบแพทย์ในทันที เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจอาการและวินิจฉัยว่าเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกจริงหรือไม่
6. คุณเกิดการแท้งอย่างรวดเร็ว
การแท้งเป็นเรื่องที่น่าเศร้า สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการจะมีบุตร โดยในบางครั้งคุณอาจตรวจพบฮอร์โมน HCG หรือพบสัญญาณการแจ้งผลว่าคุณตั้งครรภ์จากที่ตรวจครรภ์ แต่ในความเป็นจริง คุณอาจจะแท้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในกรณีนี้ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ แต่เป็นเพราะการแท้งที่เร็วจนเกินไป จึงทำให้มีฮอร์โมนตกค้างอยู่ภายในร่างกายของคุณนั่นเอง
บทความที่น่าสนใจ : ฮอร์โมนคนท้อง มีอะไรบ้าง ฮอร์โมนสำคัญของคนท้อง ถ้าฮอร์โมนต่ำ มีผลกับลูกในท้องอย่างไร
7. เกิดความผิดพลาดจากที่ตรวจครรภ์โดยตรง
ความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ที่ถูกส่งออกมาจากโรงงานนั้นส่วนใหญ่จะมักถูกการทดสอบมาเป็นอย่างดีแล้วว่าสามารถใช้ได้ แต่หากคุณเป็นผู้โชคดีขนาดนั้น คุณอาจได้รับที่ตรวจครรภ์ที่มีความผิดพลาดจากความผลิตก็เป็นได้
8. สาเหตุที่มาจากร่างกายของคุณ
ในบางครั้งการตรวจการตั้งครรภ์ก็ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์เสมอไป แต่หากคุณมีสุขภาพร่างกายที่ดีแล้วหละก็มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะตรวจพบการเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น ถึงแม้ว่าในระยะเวลาที่ผ่านมานั้นคุณจะไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับคนในวัยหมดประจำเดือนแล้ว (วัยชรา) หรือแม้แต่ผู้ป่วยมะเร็งบางชนิดที่มีระดับฮอร์โมน HCG จำนวนมาก ที่ทำให้ผลจากที่ตรวจครรภ์แจ้งว่าคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ ถึงแม้ว่าในบางเรื่องอาจไม่ได้เกิด หรือเกิดขึ้นกับตัวของคุณเองก็ตาม คุณก็ควรตรวจให้แน่ใจว่าผลนั้นมีความเท็จจริงอย่างไร โดยการตรวจซ้ำอีก 1 อัน หรือรอระยะเวลาให้ผ่านไปอีกสักพัก และเข้าพบแพทย์เพื่อยืนยันผลให้ชัดเจนนะคะ
บทความที่น่าสนใจ :
อาการคนท้องเดือนแรก มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง คุณอาจจะยังไม่รู้ตัว
อาการแพ้ท้องแทนเมีย แพ้ท้องแทนเมียมีจริงหรือ? แพ้ท้องแทนเมีย
ที่มา : ccrmivf, medicalnewstoday, endocrine , testing