สำหรับลูก ๆ ทุกคนก็คงอยากให้คุณพ่อ คุณแม่มีสุขภาพที่ดีแข็งแรงตลอดไป แต่ในเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ ไม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้า และเมื่อพบกับปัญหาก็มักจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เพราะโรคภัยที่มักพบเจอในคุณพ่อ คุณแม่ ซึ่งเป็นผู้สูงวัยมักจะมีความเฉพาะตัวที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการรักษา ดังนั้นลูก ๆ ที่กำลังมองหาประกันชีวิต ประกันสุขภาพ รวมถึงประกันอื่น ๆ ให้กับพ่อแม่จึงควรรู้สิ่งเหล่านี้ก่อนที่จะ อยากทำประกันชีวิตให้พ่อแม่ นั่นเอง ! ซึ่งข้อควรรู้จะมีเรื่องอะไรบ้างตามไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย !
5 ข้อควรรู้และควรระวัง ! ก่อน.. อยากทำประกันชีวิตให้พ่อแม่
1. ต้องรู้ให้จริงว่า.. ประกันสำหรับพ่อแม่ซึ่งเป็นผู้สูงอายุคืออะไร
เชื่อว่าลูก ๆ หลายคนอาจจะมีความสับสนและไม่เข้าใจกับคำว่า ‘ประกันผู้สูงอายุ’ ซึ่งพอได้ยินคำนี้ก็มักจะคิดว่าถ้าหากคุณพ่อ คุณแม่มีอาการเจ็บป่วยก็จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากประกันประเภทนี้ได้ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ ! เพราะว่าจริง ๆ แล้วประกันผู้สูงอายุ คือประกันชีวิตประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อกลุ่มคนที่มีอายุมาก ไม่ใช่ประกันสุขภาพ หรือ ประกันอุบัติเหตุ ที่เมื่อได้รับความเจ็บป่วยแล้วจะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ข้อเท็จจริงของประกันผู้สูงอายุ คือจะจ่ายเงินเอาประกันตามจำนวนเงินที่ระบุในกรมธรรม์ให้ก็ต่อเมื่อผู้สูงอายุเสียชีวิตแล้วเท่านั้น แต่ถ้ามีอาการ..
- เจ็บป่วย
- อุบัติเหตุ
- เป็นโรคแต่ยังไม่เสียชีวิต
จะไม่สามารถเอาเงินประกัน หรือ ค่ารักษาพยาบาลใด ๆ ได้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นลูก ๆ ทุกท่านที่กำลังอยากทำประกันให้กับคุณพ่อ คุณแม่ ผู้สูงวัย ต้องแยกจุดประสงค์ในการทำประกันประเภทต่าง ๆ ให้ได้นั่นเอง
2. ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่มีโรคประจำตัวจะทำประกันผู้สูงวัยได้ไหม
คำถามข้อนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ลูก ๆ หลายคนสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะประกันสุขภาพ หรือ ประกันชีวิตบางแผนก็จะไม่รองรับในกรณีนี้ แต่ถ้าเป็น ‘ประกันผู้สูงอายุ หรือ ผู้สูงวัย’ จะเหมาะมาก ๆ สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ผู้สูงวัยที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงสมบูรณ์ หรือ มีโรคประจำตัว ซึ่งทำให้ไม่สามารถทำประกันทั่วไปได้ ดังนั้น ประกันผู้สูงวัย จึงเป็นตัวเลือกที่สามารถทดแทนได้ เพราะประกันผู้สูงวัยไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ หรือ ตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ผู้สูงวัยที่มีโรคประจำตัวยังสามารถทำประกันชีวิตได้ แต่สำหรับบางแผนประกันต่อให้ผู้สูงวัยจะมีโรคประจำตัวก็ยังสามารถทำประกันชีวิตได้ ดังนั้นเพื่อความแน่ใจและถูกต้องแนะนำให้สอบถามกับตัวแทนประกันโดยตรงจะดีที่สุด
คำแนะนำ : ถ้าหากผู้สูงวัยมีปัญหาโรคหัวใจ บริษัทประกันมักไม่รับทำประกันสุขภาพ เพราะฉะนั้นก็สามารถทำประกันผู้สูงวัยเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้นั่นเอง
3. ประกันผู้สูงวัยไม่จำเป็นต้องตรวจหรือตอบคำถามสุขภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ! เพราะโดยปกติประกันชีวิตทั่วไปจะต้องตรวจสุขภาพ และ ตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อประเมินว่าบุคคลนั้น ๆ จะสามารถทำประกันได้หรือไม่ !? แต่ถ้าเป็นประกันผู้สูงวัยจะเหมาะกับคุณพ่อ คุณแม่ หรือ ผู้สูงวัย เพราะประกันชีวิตผู้สูงวัยถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีอายุค่อนข้างมาก ที่มีโอกาสเป็นโรค หรือ อาจมีสุขภาพไม่แข็งแรงมากนัก บริษัทประกันจึงต้องออกแบบประกันอีกรูปแบบหนึ่งแยกออกมาจากประกันประเภทอื่น ๆ เพื่อให้พ่อ แม่ ผู้สูงอายุยังสามารถทำประกันชีวิตได้อยู่
ข้อควรรู้ : ประกันชีวิตผู้สูงวัยจะมีเงื่อนไขที่ว่าถ้าหากเสียชีวิตภายใน 2 ปีแรกจากการเป็นโรคไม่ว่าจะโรคใดก็ตาม บริษัทจะไม่จ่ายเงินเอาประกันให้ **แต่จะจ่ายคืนเบี้ยที่จ่ายมา + เงินอีก 2 – 5 % ของเบี้ยแทน**
บทความที่เกี่ยวข้อง : ประกันชีวิตอะไรดีที่สุด ทำไมถึงจำเป็น และเลือกอย่างไรจะเหมาะสม
4. โฆษณาว่าดูแลครอบคลุมแต่พอถึงเวลาเบิกเงินประกันกลับไม่ได้
ต้องบอกว่าหลาย ๆ คนที่ทำประกันมักเจอกับปัญหานี้ เพราะเกิดจากความเข้าใจผิด หรือ เข้าใจไม่ชัดเจนว่าประกันที่ซื้อคือประกันประเภทไหน และดูแลครอบคลุมในเรื่องใดบ้าง มีข้อยกเว้นในกรณีใดบ้าง ซึ่งแต่ละแผนประกันจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นถ้าหากจะทำประกันต้องอ่านเงื่อนไข และ สอบถามกับบริษัท หรือ ตัวแทนประกันให้ชัดเจนทุกคำถามเพื่อให้ข้อสงสัยได้รับคำตอบอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในอนาคตทั้งในเรื่องของการเบิกค่ารักษา ค่าดูแล รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งข้อควรรู้ และ ข้อควรระวังเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญในการทำประกันมากที่สุด เพราะไม่ว่าประกันประเภทใดก็มักจะมีคำโฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้เกิดแรงจูงใจกับผู้สนใจซื้อประกันแต่ก็มักมีเงื่อนไขหลาย ๆ อย่างที่ต้องถามให้กระจ่างด้วยเช่นกัน
5. ประกันหากซื้อแล้วสามารถเปลี่ยนหรือยกเลิกได้ไหม
ซึ่งข้อนี้จะต่อเนื่องจากข้อที่แล้วที่ว่าถ้าหากทราบว่าประกันที่ซื้อมาไม่ใช่ประกันอย่างที่ต้องการ หรือ ประกันประเภทนั้น ๆ ไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณพ่อ คุณแม่ หรือ ผู้สูงวัย การยกเลิกประกันสามารถทำได้แต่มีเงื่อนไขว่าต้องทำภายใน 15 วัน โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้เอาประกันได้รับกรมธรรม์ ในที่นี้รวมทั้งประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และ ประกันผู้สูงวัย
ข้อควรรู้ : ถ้าหากยกเลิกประกันภายใน 15 วันหลังจากได้รับกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเบี้ยประกันภัยคืนหักด้วยค่าใช้จ่ายฉบับละ 500 บาท และหักค่าตรวจสุขภาพ **ถ้ามี**
TAP แนะนำสำหรับผู้สูงวัยที่อยากมีเงินก้อนใช้ยามเกษียณ
ถ้าหากคุณพ่อ คุณแม่ ผู้สูงวัยที่ใกล้เกษียณอายุ หรืออยากมีเงินก้อนสำหรับใช้จ่ายยามเกษียณ การทำ ‘ประกันบำนาญ’ เป็นทางเลือกที่เหมาะสม และ ตอบโจทย์สำหรับผู้สูงอายุที่อยากมีเงินก้อน เพราะประกันบำนาญก็เหมือนการออมเงินอีกวิธีหนึ่ง เพื่อเก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลในอนาคตรวมถึงยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ คือข้อควรรู้ และ ข้อควรระวัง ! สำหรับลูก ๆ ที่ อยากทำประกันชีวิตให้พ่อแม่ เพราะถ้าหากทำประกันให้คุณพ่อ คุณแม่ ผู้สูงวัยไปโดยที่ไม่ได้ศึกษา หรือ รู้ไม่หมด ก็อาจจะส่งผลกระทบตามมาในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นรู้ไว้ไม่เสียหาย ศึกษาไว้เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการทำประกันให้กับคนที่คุณรัก ^^
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เปิดคัมภีร์ ! อยากทำประกันสุขภาพ ต้องรู้อะไรบ้าง สำหรับมือใหม่อยากทำประกัน
มัดรวม ! 5 ประกันสุขภาพเหมาจ่าย รักษาครอบคลุม คุ้มครองครบวงจร
สะดวก ง่าย สบาย ! ประกันโควิด 2565 เซเว่น ซื้อที่ 7-Eleven ได้เลย !
ที่มา : checkraka