3 ทักษะ EF ที่พ่อแม่ควรสอนลูก วัย 3-6 ปี เป็นช่วงที่ได้ผลดีที่สุด

ทักษะ EF เป็นทักษะสำคัญที่ควรสอนลูกตั้งแต่เด็ก เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ควบคุมตัวเองได้ แก้ปัญหาเก่ง และปรับตัวเข้ากับสิ่งต่างๆ ได้ดี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในช่วงวัยเด็กที่สมองกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทักษะ EF หรือ “Executive Functions” นั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้ลูกน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถในการเรียนรู้ แก้ปัญหา และปรับตัวเข้ากับสิ่งต่างๆ รอบตัวได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกน้อยตั้งแต่ยังเล็ก โดยเน้นไปที่ 3 ทักษะหลัก ดังนี้

 

  1. ความจำเพื่อใช้งาน (Working Memory): จำเก่ง คิดเชื่อมโยงได้

หมายถึง ความสามารถในการจดจำสิ่งต่างๆ ชั่วคราวเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ เช่น จำกฎของเกม จำขั้นตอนการทำอาหาร จำสูตรคูณ หรือความรู้ต่างๆ ที่คุณครูสอน เมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้งานสามารถคิดเชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิม และประมวลผลเพื่อนำไปใช้งานต่อได้ 

ความจำเพื่อใช้งานสำคัญยังไง?

  • เชื่อมโยงกับความรู้เดิม เมื่อเราได้รับข้อมูลใหม่ สมองจะนำข้อมูลนั้นไปเปรียบเทียบและเชื่อมโยงกับความรู้ที่เราเคยเรียนรู้มาแล้ว เช่น เมื่อเด็กเรียนรู้คำว่า “แมว” เด็กจะนึกถึงภาพแมวที่เคยเห็น หรือเสียงร้องของแมวที่เคยได้ยิน ทำให้เด็กเข้าใจความหมายของคำนั้นได้ดียิ่งขึ้น
  • ประมวลผลข้อมูล ความจำเพื่อใช้งานช่วยให้เราสามารถประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมาได้อย่างรวดเร็ว เช่น เมื่อเราอ่านโจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เราจะใช้ความจำเพื่อใช้งานในการเก็บข้อมูลตัวเลข สัญลักษณ์ และคำสั่งต่างๆ แล้วนำมาวิเคราะห์และหาคำตอบ
  • แก้ปัญหา เมื่อเราเจอปัญหา เราจะใช้ความจำเพื่อใช้งานในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปัญหา วิเคราะห์สาเหตุ และหาทางแก้ไข เช่น เมื่อของเล่นของเด็กเสีย เด็กจะใช้ความจำเพื่อนึกถึงวิธีการซ่อมแซมที่เคยเห็นพ่อแม่ทำ

ตัวอย่างการใช้ความจำเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน

  • เด็กวัยเรียน เมื่อคุณครูสอนการบวกเลข เด็กจะต้องใช้ความจำเพื่อใช้งานในการจำตัวเลข และนำมาบวกกัน
  • นักกีฬา นักกีฬาจะต้องใช้ความจำเพื่อใช้งานในการจำรูปแบบการเล่นของคู่แข่ง และวางแผนการเล่นของตัวเอง
  • คนขับรถ คนขับรถจะต้องใช้ความจำเพื่อใช้งานในการจำกฎจราจร สัญญาณไฟจราจร และระยะห่างระหว่างรถ

  1. ความยืดหยุ่นทางความคิด (Cognitive Flexibility): คิดเก่ง แก้ไขปัญหาเก่ง

คือความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดและวิธีการแก้ปัญหาให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป คนที่มีความยืดหยุ่นทางความคิดสูง จะสามารถมองเห็นปัญหาจากหลายมุม มีความคิดสร้างสรรค์ และสามารถหาทางออกจากปัญหาได้หลากหลายวิธี เช่น เมื่อเจอปัญหาในการต่อเลโก้ ลูกน้อยอาจจะลองเปลี่ยนวิธีการต่อ หรือหาชิ้นส่วนอื่นมาใช้แทนได้ เป็นการฝึกให้ลูกน้อยคิดนอกกรอบและมีทางเลือกในการแก้ปัญหาที่หลากหลาย

การยืดหยุ่นความคิดสำคัญยังไง?

  • ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีทักษะในการปรับตัวเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การยืดหยุ่นความคิดจะช่วยให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • แก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น เมื่อเจอปัญหา เราจะสามารถมองหาทางออกที่หลากหลาย ไม่ยึดติดกับวิธีเดิมๆ และสามารถหาแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหาได้
  • มีความคิดสร้างสรรค์ คนที่มีความยืดหยุ่นทางความคิดมักจะมีความคิดสร้างสรรค์สูง สามารถเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันเข้าด้วยกัน และคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ได้
  • ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี การยืดหยุ่นความคิดช่วยให้เราสามารถเข้าใจมุมมองของผู้อื่น และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น

ตัวอย่างการใช้การยืดหยุ่นความคิดในชีวิตประจำวัน

  • เด็กวัยเรียน เมื่อเล่นเกมต่อบล็อกแล้วต่อไม่ได้ เด็กจะลองเปลี่ยนวิธีการต่อ หรือหาชิ้นส่วนอื่นมาใช้แทน
  • วัยทำงาน เมื่อเจอปัญหาในการทำงาน พนักงานจะลองหาแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหา หรือขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน
  • ผู้ประกอบการ เมื่อธุรกิจประสบปัญหา ผู้ประกอบการจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. ความสามารถในการควบคุมและยับยั้งตนเอง (Inhibitory Control): ควบคุมตัวเองเก่ง

หมายถึง ความสามารถในการควบคุมความต้องการของตัวเอง รอคอย และยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น รอคิวเล่นของเล่น หรืออดทนรออาหารที่กำลังทำอยู่ ทักษะนี้ช่วยให้ลูกน้อยมีระเบียบวินัย สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ไม่ทำตามอารมณ์หรือแรงกระตุ้นในทันทีทันใด แต่จะหยุดคิด พิจารณาข้อมูลต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง

การยั้งคิดไตร่ตรองสำคัญยังไง?

  • ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น การคิดก่อนทำจะช่วยให้เราเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดได้ เพราะเราจะได้พิจารณาผลดีผลเสียของแต่ละทางเลือกอย่างรอบคอบ
  • ป้องกันความผิดพลาด การยับยั้งตนเองไม่ให้ทำตามอารมณ์จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดหรือทำร้ายผู้อื่น
  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดี การรู้จักรอและฟังความคิดเห็นของผู้อื่นจะช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การมีสมาธิจดจ่อกับงานที่ทำ และไม่วอกแวกไปกับสิ่งเร้าอื่นๆ จะช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างการใช้การยั้งคิดไตร่ตรองในชีวิตประจำวัน

  • เด็กวัยเรียน เมื่ออยากจะเล่นของเล่นของเพื่อน ต้องรอคิว ไม่แย่งของเล่นของเพื่อน
  • วัยรุ่น เมื่อรู้สึกโกรธเพื่อน ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่พูดจาทำร้ายเพื่อน
  • ผู้ใหญ่ เมื่อเจอปัญหาที่ต้องตัดสินใจ ต้องคิดวิเคราะห์หาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ตัดสินใจโดยใช้อารมณ์เพียงอย่างเดียว

5 เหตุผลที่เราควรฝึก ทักษะ EF ให้ลูกตั้งแต่เด็ก

ทักษะ EF (Executive Functions) หรือ ทักษะสมอง EF ช่วยให้เราสามารถวางแผน จัดการกับข้อมูล ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน และควบคุมพฤติกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะเหล่านี้สำคัญมากต่อการเรียนรู้ การเติบโต และการพัฒนาในทุกด้านของชีวิต โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กที่สมองกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว

  1. พื้นฐานสู่ความสำเร็จ ทักษะ EF เป็นรากฐานที่แข็งแรงของการเรียนรู้และพัฒนาการในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการเข้าสังคม เด็กที่มีทักษะ EF ดี จะสามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้น จดจ่อกับสิ่งที่ทำได้นานขึ้น และสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ปรับตัวเข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลง ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เด็กที่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้ดี จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่า
  3. พัฒนาความเป็นผู้นำ เด็กที่มีทักษะ EF ดี มักจะมีความเป็นผู้นำสูง สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี และสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ
  4. ลดปัญหาพฤติกรรม เด็กที่มีทักษะ EF ดี มักจะมีพฤติกรรมที่เหมาะสม สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี และมีสมาธิในการเรียน
  5. เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต การฝึกทักษะ EF ตั้งแต่เด็ก จะช่วยให้เด็กมีความพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อในระดับสูง หรือการทำงาน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ช่วงวัยที่เหมาะสมที่สุดในการฝึก ทักษะ EF

ช่วงวัยเด็กปฐมวัย (3-6 ปี) ถือเป็นช่วงเวลาทองในการพัฒนาทักษะ EF เพราะเป็นช่วงที่สมองส่วนหน้า (Prefrontal Cortex) ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมทักษะ EF กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว การกระตุ้นและฝึกฝนในช่วงวัยนี้จะส่งผลให้เด็กมีรากฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนาทักษะต่างๆ ต่อไป

  • สมองพร้อมรับการพัฒนา ในช่วงวัยนี้ สมองของเด็กมีความยืดหยุ่นสูงและพร้อมที่จะสร้างเส้นใยประสาทใหม่ๆ การกระตุ้นต่างๆ จะช่วยให้สมองสร้างเครือข่ายของเซลล์ประสาทที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพ
  • พื้นฐานสำหรับการเรียนรู้ ทักษะ EF ที่พัฒนาในช่วงวัยเด็กจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น เช่น การอ่าน การเขียน การคิดคำนวณ และการแก้ปัญหา
  • พัฒนาการด้านอื่นๆ การฝึกทักษะ EF ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาสมอง แต่ยังส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ ของเด็ก เช่น ด้านอารมณ์ ด้านสังคม และด้านร่างกาย

อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนทักษะ EF ไม่ได้จำกัดเฉพาะช่วงวัยเด็กปฐมวัยเท่านั้น เราสามารถฝึกฝนทักษะ EF ได้ตลอดชีวิต เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ดีเท่ากับการฝึกฝนในช่วงวัยเด็ก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิธีพัฒนาทักษะสมอง EF ให้กับลูกน้อย

วิธีพัฒนาทักษะ EF ด้านความจำใช้งาน
  • เล่นเกมที่ต้องใช้ความจำ เช่น เกมจับคู่ภาพ เกมหาความแตกต่าง
  • อ่านหนังสือ การอ่านหนังสือช่วยให้เราได้ฝึกฝนการจดจำคำศัพท์ และความสัมพันธ์ระหว่างคำต่างๆ
  • ทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ เช่น การต่อจิ๊กซอว์ การเล่นดนตรี
  • เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วิธีพัฒนาทักษะ EF ด้านความยืดหยุ่นทางความคิด
  • เล่นเกมที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น เกมต่อภาพ เกมปริศนา
  • เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับเรา
  • อ่านหนังสือ การอ่านหนังสือหลากหลายประเภทจะช่วยให้เราได้พบเจอกับแนวคิดใหม่ๆ
  • ฝึกคิดนอกกรอบ ลองหาคำตอบที่แตกต่างออกไปสำหรับคำถามเดิมๆ
  • ทำงานร่วมกับผู้อื่น การทำงานร่วมกับผู้อื่นจะช่วยให้เราได้เรียนรู้มุมมองที่แตกต่างและเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
วิธีพัฒนาทักษะ EF ด้านความสามารถในการควบคุมและยับยั้งตนเอง
  • เล่นเกมที่ต้องใช้สมาธิ เช่น เกมต่อจิ๊กซอว์ เกมกระดาน
  • ฝึกการหายใจลึกๆ การหายใจลึกๆ ช่วยให้เราสงบอารมณ์และคิดได้ชัดเจนขึ้น
  • ตั้งเป้าหมายเล็กๆ การตั้งเป้าหมายเล็กๆ และพยายามทำตามเป้าหมายนั้นจะช่วยฝึกความอดทนและความมุ่งมั่น
  • เรียนรู้ที่จะรอ การรอคอยเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะการยั้งคิดไตร่ตรอง
  • ฝึกการฟัง การฟังความคิดเห็นของผู้อื่นจะช่วยให้เราเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและพัฒนาการตัดสินใจของเรา

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการเรียนรู้ ให้ลูกได้มีโอกาสสำรวจและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างอิสระ และให้กำลังใจเมื่อลูกเผชิญกับความล้มเหลว การฝึกฝนทักษะ EF อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นเด็กที่มีความมั่นใจในตนเอง สามารถแก้ปัญหา และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างดี

 

ที่มา : ปฐมวัยไทยแลนด์ , สสส  

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

15 ช่องยูทูป การ์ตูนฝึกลูกเก่งภาษาอังกฤษ สนุก+ได้ความรู้ ไปพร้อมกัน

เด็กพลังเยอะ อยู่ไม่นิ่ง เลี้ยงยังไง ผิดปกติไหม หรือเป็นพฤติกรรมตามวัย

ข้อเสียของการ ตามใจลูก พ่อแม่สายสปอยล์ ระวัง! ลูกเสี่ยง “ฮ่องเต้ซินโดรม”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา