คนท้องกินลูกพลับได้ไหม ลูกพลับช่วยบำรุงคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร?

undefined

ลูกพลับนั้นมีประโยชน์ แต่ก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลมาก และไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน คนท้องกินลูกพลับได้ไหม มีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากัน

ลูกพลับเป็นผลไม้แสนอร่อยที่คุณแม่หลายๆ คนชื่นชอบ และถึงแม้ว่าเราจะรู้ดีว่าลูกพลับนั้นมีประโยชน์ แต่ก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลมาก และไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาคาใจว่าลูกพลับนั้นดีหรือไม่ คนท้องกินลูกพลับได้ไหม มีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากัน รวมถึงข้อควรระวังในการรับประทานลูกพลับมีอะไรบ้าง เราจะมาไขข้อสงสัยของคุณแม่กัน

 

คนท้องกินลูกพลับได้ไหม

หากถามว่า  คนท้องกินลูกพลับได้ไหม คุณแม่ท้องสามารถรับประทานลูกพลับได้ แต่ต้องจำกัดปริมาณในการรับประทาน เช่นเดียวกับผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงอื่นๆ เพื่อเลี่ยงการมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือกินแบบสดดีกว่าแบบแห้ง เนื่องจากในลูกพลับแห้งส่วนที่เป็นน้ำได้ระเหยออกไปมาก จึงทำให้มีน้ำหนักเบาลง ซึ่งอาจทำให้คุณแม่ทานเพลินเป็นปริมาณที่มากกว่าแบบลูกพลับสด เพราะอิ่มช้ากว่า ในขณะที่ปริมาณน้ำตาลมีเท่าๆ กัน

 

ประโยชน์ของลูกพลับกับคนท้อง

นอกจากลูกพลับจะเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย หอม หวานแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อคุณแม่ท้องมาก เพราะแคลอรีน้อยและไขมันต่ำ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ

สารอาหารสำคัญในลูกพลับ และประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์

  • วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง
  • เบต้าแคโรทีน ร่างกายจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอ ซึ่งช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์
  • โพแทสเซียม ช่วยควบคุมความดันโลหิต ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ช่วยให้กล้ามเนื้อและระบบประสาททำงานได้เป็นปกติ
  • ไฟเบอร์ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ลดอาการท้องผูก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์
  • แคลเซียม จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟันของทั้งแม่และลูก
  • ฟอสฟอรัส ทำงานร่วมกับแคลเซียมในการสร้างกระดูกและฟัน
  • โฟเลต มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของทารกในระยะเริ่มแรก ช่วยป้องกันภาวะทารกสมองพิการ

 

คนท้องกินลูกพลับได้ไหม

 

ลูกพลับ 1 ผล (หรือประมาณ 168 กรัม) คุณแม่จะได้รับคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ* ดังนี้

  • พลังงาน 70 กิโลแคลอรี (293 กิโลจูล)
  • คาร์โบไฮเดรต 18.59 กรัม
  • น้ำตาล 12.53 กรัม
  • เส้นใย 3.6 กรัม
  • ไขมัน 0.19 กรัม
  • โปรตีน 0.58 กรัม
  • วิตามินเอ 81 ไมโครกรัม, 1627 IU
  • เบตาแคโรทีน 253 ไมโครกรัม
  • ลูทีนและซีแซนทีน 834 ไมโครกรัม
  • วิตามินบี 1 0.03 มิลลิกรัม, วิตามินบี 2 0.02 มิลลิกรัม, วิตามินบี 3 0.1 มิลลิกรัม, วิตามินบี 6 0.1 มิลลิกรัม,วิตามินบี 9 8 ไมโครกรัม
  • โคลีน 7.6 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 7.5 มิลลิกรัม
  • วิตามินอี 7.5 มิลลิกรัม
  • วิตามินเค 2.6 ไมโครกรัม
  • แคลเซียม 8 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 0.15 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 9 มิลลิกรัม
  • แมงกานีส 0.355 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 17 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 161 มิลลิกรัม
  • โซเดียม 1 มิลลิกรัม
  • สังกะสี 0.11 มิลลิกรัม

* เทียบจาก % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

ประโยชน์โดยรวมของลูกพลับต่อคุณแม่ท้อง

  • ป้องกันภาวะโลหิตจาง ด้วยปริมาณธาตุเหล็กที่สูง ทำให้ลูกพลับช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดง ซึ่งจำเป็นสำหรับการขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย
  • ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน สารต้านอนุมูลอิสระในลูกพลับช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
  • บำรุงผิวพรรณ วิตามินซีและเบต้าแคโรทีนช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ช่วยลดรอยด่างดำ และชะลอการเกิดริ้วรอย
  • เพิ่มพลังงาน คาร์โบไฮเดรตในลูกพลับให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยให้คุณแม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
  • ดีต่อระบบย่อยอาหาร ไฟเบอร์ในลูกพลับช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ลดอาการท้องผูก และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี

 

ลูกพลับ มีน้ำตาลมากไหม

ในลูกพลับ 1 ผล (น้ำหนักประมาณ น้ำหนัก 168 กรัม) นั้นจะมีน้ำตาลประมาณ 12.53 กรัม จึงจัดเป็นผลไม้น้ำตาลสูงพอสมควร และยิ่งผลสุกงอมเท่าไรก็จะยิ่งมีปริมาณน้ำตาลสูงขึ้นด้วย ดังนั้นคุณแม่ที่มีภาวะเบาหวานในระหว่างตั้งครรภ์ หรือมีภาวะเบาหวานก่อนตั้งครรภ์นั้นไม่ควรรับประทานลูกพลับสุกปริมาณมาก เพราะอาจส่งผลต่อน้ำตาลในเลือดด้วยเช่นกัน

 

คนท้องกินลูกพลับได้ไหม

 

ลูกพลับไม่ควรกินตอนไหน

ในลูกพลับมีไฟเบอร์สูง จึงไม่ควรทานลูกพลับตอนท้องว่าง โดยเฉพาะในคุณแม่ที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหารหรือท้องเสียง่ายอยู่แล้ว ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการทานลูกพลับมากขึ้นกว่าเดิม และไม่ควรรับประทานลูกพลับพร้อมกับอาหารที่มีน้ำตาลสูงชนิดอื่นๆ เพื่อไม่ให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไป

 

ข้อควรระวังเมื่อคนท้องกินลูกพลับ

นอกจากความหวานของลูกพลับที่จัดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงแล้ว คุณแม่ที่มีปัญหาสุขภาพ มีอาการไข้ หรือเป็นหวัด ถ่ายบ่อย หรือม้ามและกระเพาะไม่ค่อยแข็งแรง ก็ควรระวังการรับประทานลูกพลับแห้งเป็นจำนวนมาก เนื่องจากในลูกพลับแห้งอาจจะเจือปนสารสารโซเดียมไซคลาเมต (Sodium Cyclamate) และสารซัคคาริน (Saccharin) ที่เป็นสารให้ความหวานอาจจะส่งผลเสียต่อคุณแม่ได้

และในคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องไตอยู่ก่อนตั้งครรภ์ก็ควรระมัดระวังการรับประทานลูกพลับ เพราะเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมค่อนข้างสูง กินเข้าไปอาจเพิ่มภาระให้ไตได้

 

เคล็ดลับในการรับประทานผลไม้คนท้อง

การกินผลไม้ในระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องดี เพราะในผลไม้เป้นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่ แต่สำหรับคุณแม่ที่รับประทานผลไม้ยาก เรามีเคล็ดลับในการกินผลไม้มาฝากกันด้วย

  1. รับประทานผลไม้ให้หลากหลาย เพื่อคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน  ไม่ควรรับประทานผลไม้ชนิดเดิมซ้ำๆ แต่ควรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้รู้สึกจำเจ
  2. ทำเป็นเครื่องดื่ม เพื่อให้สะดวกในการรับประทาน อาจทำเป็นเมนูสมูทตี้หรือน้ำผลไม้แทนก็ได้
  3. นำมาปรุงเป็นเมนูใหม่ๆ ใส่สลัด หรือยำผลไม้ก็ช่วยให้รับประทานผลไม้ได้ง่ายและมากขึ้น

วางผลไม้ไว้ใกล้ตัว คุณแม่สามารถล้างผลไม้และวางในชามใกล้ตัวเพื่อรับประทานเป็นของว่างได้ง่ายขึ้น

หาเครื่องจิ้มเพื่อเพิ่มรสชาติ เราแนะนำเป็น โยเกิร์ตหรือน้ำสลัด เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณประโยชน์ที่หลากหลายขึ้น การนำผลไม้ที่ชอบไปจิ้มกับโยเกิร์ตก่อนรับประทานก็จะช่วยให้ได้โปรตีนจากโยเกิร์ตเพิ่มขึ้น หรืออาจนำผลไม้ไปจิ้มกับน้ำสลัดเพื่อให้ได้รสชาติแปลกใหม่

จะเห็นได้ว่า ลูกพลับเป็นผลไม้ที่มีทั้งประโยชน์และโทษ เช่นเดียวกับผลไม้ทุกชนิด คุณแม่จึงควรเลือกกินอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อสุขภาพทั้งของคุณแม่เองและลูกน้อย

ที่มา: POPPAD , Kapook , สสส , TrueID

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คนท้องกินพาราได้ไหม กินอย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกในท้อง

คนท้องกินอะไรลูกฉลาด อาหารเสริมสมองลูก ที่แม่ตั้งครรภ์ห้ามพลาด !

อยากกินแต่สงสัย! คนท้องกินน้ำมะพร้าว ดีหรือไม่? ท้องอ่อนกินน้ำมะพร้าวได้ไหม

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!