“แม่หลายคน ให้ลูกกิน อาหารแข็ง เร็วเกินไป” กรมป้องกัน และ ควบคุมโรคเผย
ผลการสำรวจพฤติกรรม ของคุณแม่ จำนวน 1,334 คน ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ของกรมป้องกัน และควบคุมโรค ได้พบว่า คุณแม่ร้อยละ 40 เปอร์เซ็นต์ ให้ลูกทานอาหารแข็ง หรืออาหารเสริม ก่อนลูกอายุ 4 เดือน โดยแม่ร้อยละ 9 นั้น เริ่มให้ลูกทานอาหารแข็งตั้งแต่อายุ 4 สัปดาห์ ในขณะที่แพทย์นั้น ได้แนะนำให้ลูกทานอาหารแข็ง เมื่อมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน
สถาบันกุมารแพทย์ศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริการ ได้ณรงค์มามากกว่า 20 ปี โดยให้คุณแม่นั้น ได้เริ่มลองให้ลูกกินอาหารแข็ง เมื่อลูกอายุ 4 เดือนขึ้นไป จนกระทั้งเมื่อปีที่แล้ว ทางสถาบันได้ปรับเปลี่ยนข้อมูล โดยเป็นการรณรงค์ให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงอย่างเดียว ในตลอดช่วงเวลา 6 เดือนแรก เนื่องจากมีข้อมูลสนับสนุนคุณค่าและประโยชน์ของนมแม่เพิ่มขึ้น ยกเว้นว่า คุณแม่อาจมีนมไม่เพียงพอ ก็สามารถใช้นมผงแทนได้
แต่ผลสำรวจพบว่า คุณแม่ไม่เห็นความสำคัญของการรณรงค์เรื่องการให้อาหารแข็งแก่เด็กที่มีอายุหลังจาก 6 เดือนขึ้นไป บ้างก็ว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เมื่อผู้สำรวจถามว่า ทำไมถึงให้อาหารแข็งแก่ลูกก่อนอายุครบ 4 เดือน แม่ส่วนใหญ่มักตอบว่า “ลูกของพวกเขาโตพอที่จะกินอาหารแข็งได้แล้ว” บ้างก็กล่าวว่า “ลูกดูหิว” หรือ “อยากให้ลูกหลับยาวตลอดคืน” แต่คำตอบที่ทำให้ทีมวิจัยเห็นว่าเป็นสัญญาณอันตราย คือ “หมอบอกว่าลูกควรเริ่มทานอาหารแข็งได้แล้ว”
เคลลี สแกนลอน นักระบาดวิทยา กรมควบคุมและป้องกันโรค และผู้เขียนผลการวิจัยเรื่องนี้ ได้เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจสิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ ควรมีการจัดทำข้อมูลเรื่องการให้อาหารแข็งเด็กเบื้องต้นให้ดีกว่านี้ ส่วนหมอเอง ก็ควรจะแนะแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและถูกต้อง จากนั้นก็ควรดูแลพ่อ และแม่เพื่อให้พวกเขาดูแลลูกตามคำแนะนำที่ถูกต้อง
ผลการวิจัยยังพบอีกว่า ภาวะเศรษฐกิจในครัวเรือน เป็นปัจจัยที่ทำให้ครอบครัวที่มีฐานะยากจนมองว่า นมผงมีราคาแพง จึงมีแนวโน้มที่จะให้ลูกเริ่มทานอาหารแข็งเร็วกว่าที่ควร ส่วนครอบครัวที่ให้ลูกกินนมผงเพียงอย่างเดียว หรือผสมกับนมแม่ ไม่เพียงแต่จะให้ลูกกินอาหารแข็งเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังบอกอีกว่า แพทย์อนุญาตให้ลูกเริ่มกินได้แล้ว
ในขณะเดียวกัน กุมารแพทย์หลายคน ต่างก็เห็นใจพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือนมผงเพียงอย่างเดียว แต่หากเด็กได้รับอาหารแข็งก่อนที่ร่างกายทารกจะย่อยได้ เด็กก็แทบจะไม่ได้รับสารอาหารอะไรเลย
นายแพทย์ ที เจ โกลด์ กุมารแพทย์จากคลีนิคไทรเบก้า เมืองบลูคลิน ได้เปิดเผยว่า เมื่อลูกพร้อมที่จะกินอาหารแข็ง ลูกมักจะเอามือเข้าปากและทำท่าเคี้ยวอาหาร ทารกอายุ 2-3 เดือน คอยังไม่แข็งเลย จึงไม่สามารถยกคอเองได้ ทั้งยังนั่งเองไม่ได้อีกด้วย หากเราป้อนอาหารแข็งแก่ลูก ก็อาจจะค่อนข้างลำบาก และอาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้
นอกจากนี้ นายแพทย์ โกลด์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ลำไส้เด็กยังไม่สามารถผลิตแบคทีเรียที่ทำหน้าที่ย่อยอาหารได้อย่างครบถ้วน อาจก่อให้เกิดโรคท้องร่วง ลำไส้อักเสบเนื่องจากอาหารเป็นพิษ การเริ่มให้เด็กทานอาหารแข็งก่อนถึงช่วงเวลาที่ร่างกายเด็กพร้อมนั้นยังเป็นสาเหตุของโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคผิวหนังแพ้ผื่นคัน และโรคแพ้ตังหรือแพ้โปรตีนที่อยู่ในแป้งสาลีด้วย
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนุบสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็งเพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
ที่มา: เดอะนิวยอร์คไทมส์
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ลูกมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารจากการ แพ้นมวัว ทำไงดี?
อู้หู๊..น่าหม่ำจัง!! เมนูอาหารเด็ก (1-3 ขวบ) จากนมแพะ รสชาติดี หอม อร่อย สบายท้อง