ยาขับเลือดประจำเดือนไม่มา หรือมาไม่ปกติ ใช้ได้ผลจริงไหม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ยาขับเลือด หรือยาสตรี ที่หลาย ๆ คนรู้จัก เป็นยาที่ถูกสกัดจากสมุนไพรไทยหลากหลายชนิด เชื่อกันว่า จะช่วยกระตุ้น และขับเลือดลมภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี แล้วยาสตรีตัวนี้เป็น ยาขับเลือดประจำเดือนไม่มา หรือมาไม่ปกติ ได้จริงหรือไม่ เรามาไขคำตอบกันค่ะ

 

ยาขับเลือดประจำเดือนไม่มา หรือมาไม่ปกติ หรือยาสตรี คืออะไร ?

 

 

ยาสตรี หรือ ยาขับประจำเดือนมาไม่ปกติ เรามักจะหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือตามร้านขายของชำทั่วไป จนดูเหมือนกับยานี้ เป็นยาพื้นฐาน ที่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย นั่นเป็นเพราะยาชนิดนี้ เป็นยาที่ถูกสกัดจากพืชสมุนไพรไทยชนิดต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ตังกุย ขิง ไพล พริกไทย อบเชย ว่านชักมดลูก เทียนดำ เทียนแดง โกฏหัวบัว โกฏสอ เป็นต้น ซึ่งบางสูตร อาจจะมีการผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดเข้าไปอีกด้วย

ในส่วนของสมุนไพรต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาขับเลือด หรือยาสตรี จะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ของฮอร์โมนไฟโตเอสโทรเจน (Phytoestrogen) ซึ่งใกล้เคียงกับฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกจะหนาตัวขึ้น ซึ่งเยื่อบุโพรงนี้จะหลุดลอกออก และขับออกมาเป็นประจำเดือน เมื่อถึงรอบเดือนนั้น ๆ

 

ข้อห้ามในการใช้ยาสตรี

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ยาสตรี หรือยาขับเลือด เนื่องจากประจำเดือนมาไม่ปกติ นอกจากจะมีประโยชน์แล้ว หากรับประทานยาไม่ถูกต้อง ก็อาจจะส่งผลร้ายได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากการทานยาสตรีนั้น เท่ากับการรับประทานฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มเข้าสู่ร่างกายมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าตัวผู้ที่รับประทานยาตัวนี้ ร่างกายมีฮอร์โมนเพศหญิงมากเพียงพออยู่แล้ว การรับประทานยาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลร้ายต่ออวัยวะสืบพันธุ์ได้เช่นกัน

การดื่ม หรือทานยาสตรี หรือยาขับเลือดนั้น หากทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ แม้ว่าตนเองไม่มีปัญหาของประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือปัญหาการมาของประจำเดือนที่ขาด ๆ หายแล้ว โอกาสที่ตัวยานั้น จะกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งเต้านม มะเร็งโพรงมดลูก หรือมะเร็งรังไข่ ก็มีสูงด้วยเช่นกัน อีกทั้งตัวสมุนไพร ก็ยังทำให้ตับจะต้องทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม การดื่มยาสมุนไพร หรือกลุ่มยาสตรีอย่างต่อเนื่อง จึงมีผลกับตับโดยตรง

ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหา หรือผู้ที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคตับ โรคไต รวมถึงผู้ที่เป็นผู้ป่วยโรคมะเร็ง ควรหลีกเลี่ยงการทานยาขับเลือดดังกล่าว หรือหากต้องการทานเพื่อการปรับฮอร์โมนในร่างกาย ก็จำเป็นจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด รวมถึงผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนในร่างกายด้วยเช่นกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่เกี่ยวข้อง : เรื่องจริงในวันแดงเดือด ผู้ชายไม่มีวันเข้าใจ ทำไมผู้หญิงมีเมนส์ต้องหงุดหงิด

 

ข้อควรรู้การทานยาขับเลือด ให้ปลอดภัย

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แม้ว่าการทานยาสตรี หรือยาขับเลือด สำหรับผู้ที่ประจำเดือนไม่มา หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ จะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่ก่อนที่จะเริ่มทาน ตัวผู้ที่รับประทานจำเป็นจะต้องรู้สิ่งเหล่านี้ เพื่อให้การทานยานั้นส่งผลดีกับตัวผู้รับประทานอย่างแท้จริง และเพื่อความปลอดภัยของร่างกาย

  • ควรตรวจการตั้งครรภ์ ก่อนตัดสินใจรับประทานยา เนื่องจาก การที่ประจำเดือนไม่มานั้น อาจจะมาจากสาเหตุของการตั้งครรภ์ก็เป็นได้ หากตรวจแล้วพบว่าตนยังไม่ตั้งครรภ์ ให้รอตรวจซ้ำในสัปดาห์ถัดไปอีกครั้ง หากพบว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็สามารถทานยาสตรีได้โดยทันที ซึ่งระหว่างนี้ อาจงด หรือคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยก่อนค่ะ
  • ไม่ควรทานยาสตรีต่อเนื่องเป็นประจำ และเป็นเวลานาน เพราะตัวยาสมุนไพร ยังคงส่งผลเสียต่อการทำงานของไต และตับ รวมถึงยังกระตุ้นเชื้อมะเร็งบางชนิด ที่มักจะเติบโตได้ดีจากฮอร์โมนเพศหญิง
  • ตัวยาสตรี มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่ ซึ่งส่งผลเสียต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมถึงเด็กเล็ก ดังนั้นคุณแม่ที่ยังคงให้นมลูก และคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ไม่ควรทานยาสตรีเป็นอย่างยิ่ง
  • ยาสตรี เป็นเพียงยาขับเลือด แต่ไม่ใช่ยาทำแท้ง ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวอ่อนขับออกมาไม่ได้แล้ว ยังสามารถกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดี และสามารถตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

 

ตั้งครรภ์อยู่ กินยาสตรีได้หรือไม่ ?

 

 

ในส่วนผสมของยาสตรีหลายยี่ห้อ มักจะนิยมใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้น หรือเป็นกระสายยา (เป็นตัวละลายยา) เชื่อกันว่า สามารถเพิ่มสรรพคุณให้ตัวยาแรงขึ้น ช่วยบำรุงให้เลือดลมไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น สามารถกระตุ้นให้ประจำเดือนมาเป็นปกติได้ จึงมักจะเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่มีฮอร์โมนเพศหญิงไม่สมดุล

แต่แอลกอฮอล์นั้น มีผลทำลายระบบประสาท และพัฒนาของทารกในครรภ์ได้ ไม่เว้นว่าแอลกอฮอล์ดังกล่าว จะเป็นส่วนประกอบหนึ่งของตัวยาก็ตาม ดังนั้นไม่ว่าตัวคุณแม่จะตั้งครรภ์กี่เดือนก็ตาม ไม่ควรรับประทานยาสตรี หรือยาขับเลือดโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนแรก เพราะเป็นช่วงที่ทารกกำลังสร้างอวัยวะสำคัญต่าง ๆ ทำให้อาจส่งผลให้ตัวเด็กอาจเกิดปัญหาของความพิการ รวมถึงพัฒนาการทางระบบประสาทได้ในอนาคต

สำหรับผู้ที่เพิ่งทราบในภายหลังว่าตนกำลังตั้งครรภ์อยู่ แต่ก็ยังคงรับประทานยาสตรีมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านั้น ให้หยุดการทานยาสตรีโดยทันที และให้รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อติดตามพัฒนาของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 วิธีทำให้ประจำเดือนมา ง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน ปลอดภัยหายห่วง

 

ยาขับเลือด ไม่ใช่ยาทำแท้ง อย่าเข้าใจผิด

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

สำหรับบุคคลบางกลุ่ม อาจจะเข้าใจว่า การรับประทานยาสตรี หรือยาขับเลือดนั้น เป็นยาที่จะสามารถช่วยขับตัวอ่อน รวมถึงการขับเลือดให้ออกมาในลักษณะของการแท้งเด็ก ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด และเป็นอันตรายอย่างมาก

เนื่องจากตัวยาขับเลือด หรือยาสตรีดังกล่าว เป็นเพียงยาที่กระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายของสตรีสูบฉีดได้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ซึ่งตัวยาจะไปกระตุ้นฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้ประจำเดือนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีผลทำให้เกิดการแท้งเด็กแต่อย่างใด ในทางตรงข้าม การทานยาสตรีนี้ กลับกลายเป็นการกระตุ้นส่งผลให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

 

เพจ นานายาเด็ก โดย ณัฎฐา โมลีเศรษฐ์ (เภสัชกรกวาง)

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ยาสามัญประจำบ้านที่คนท้องควรมี ยาที่ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

10 เหตุผลทำไมประจำเดือนไม่มา มีเหตุผลอะไรบ้างที่แม่ขาดประจำเดือน

ประจำเดือนหลังคลอดลูก จะกลับมาเมื่อไร หลังคลอดเมนส์ไม่มา มีโอกาสท้องไหม

 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ : ยาขับเลือด คนท้อง