ฟันน้ำนมผุ อย่าวางใจ! ภัยเงียบที่ไม่ได้จบแค่ ฟันหลุดแล้วขึ้นใหม่

undefined

ฟันน้ำนม มีความสำคัญมากกว่าที่เราคิดนะคะ ถ้าลูกน้อยมีปัญหา ฟันน้ำนมผุ คุณพ่อคุณแม่จึงห้ามนิ่งนอนใจเด็ดขาด!

ฟันน้ำนมถือเป็นฟันชุดแรกที่มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการเคี้ยวอาหาร การพูด หรือแม้แต่การสร้างความมั่นใจในตัวเองในช่วงวัยเด็ก แต่อาจมีคุณพ่อคุณแม่หลายคนยังคงเข้าใจผิดและละเลยความสำคัญนี้ คิดเพียงว่าหากมีกรณี ฟันน้ำนมผุ พอฟันหลุดไปเดี๋ยวก็มีฟันแท้ขึ้นมาแทน แต่ความจริงแล้ว การปล่อยให้ฟันน้ำนมของลูกน้อยผุ อาจเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบอันคาดไม่ถึงในระยะยาวได้ค่ะ

ความสำคัญของฟันน้ำนม

ความสำคัญของฟันน้ำนม

ฟันน้ำนม (Primary Teeth) คือ ฟันชุดแรกที่ขึ้นในช่องปากของลูกน้อยค่ะ ซึ่งมักเริ่มขึ้นเมื่อลูกอายุได้ประมาณ 6 เดือน และจะครบจำนวน 20 ซี่เมื่ออายุประมาณ 2-3 ปี โดยหน้าที่สำคัญของฟันน้ำนม เช่น ช่วยในการเคี้ยวอาหาร รักษาพื้นที่สำหรับฟันแท้ และส่งเสริมการพัฒนาการพูด

ทั้งนี้ ฟันน้ำนมจะแบ่งออกเป็น 2 ชุดคือ ฟันหน้าที่มีหน้าที่ตัดอาหาร และฟันกรามมีหน้าที่ใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร เมื่อถึงวัยประมาณ 6-12 ปีฟันน้ำนมจะค่อยๆ หลุดออก และมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ ดังนั้น การดูแลฟันน้ำนมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสุขภาพของฟันน้ำนมอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากและการขึ้นของฟันแท้ในอนาคตได้ค่ะ

ประโยชน์ของฟันน้ำนม

1. ช่วยในการเคี้ยวอาหาร ฟันน้ำนมช่วยให้ลูกเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
2. ส่งเสริมพัฒนาการการพูด การที่ฟันขึ้นเต็มปากส่งผลต่อการออกเสียง ช่วยให้ลูกพูดและออกเสียงได้อย่างถูกต้อง
3. รักษาพื้นที่สำหรับฟันแท้ ทำหน้าที่เป็นตัวนำทางสำหรับฟันแท้ที่กำลังจะขึ้น เมื่อฟันน้ำนมหลุดออกตามธรรมชาติ ฟันแท้จะขึ้นมาทดแทนในตำแหน่งที่ถูกต้อง
4. พัฒนาการเจริญเติบโตของกรามและใบหน้า การมีอยู่ของฟันน้ำนมช่วยให้กรามและใบหน้าของลูกพัฒนาอย่างสมดุลและเหมาะสม
5. สร้างนิสัยการดูแลฟันที่ดี ช่วยสร้างนิสัยที่ดีในการดูแลฟันและสุขภาพช่องปากในอนาคต

ฟันน้ำนมผุ

อย่าวางใจ! ฟันน้ำนมผุ ไม่ใช่เรื่องเล็ก

ปัญหาสุขภาพฟันน้ำนม โดยเฉพาะ ฟันน้ำนมผุ นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะคะ ซึ่งฟันน้ำนมที่ผุไม่ได้หมายความว่าแค่ฟันหลุดออกแล้วฟันแท้จะขึ้นมาแทน เพราะการผุของฟันน้ำนมกระบวนการนี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก ยิ่งในกรณีฟันน้ำนมที่ผุอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงขึ้น เช่น การติดเชื้อที่กระดูกหรือรากฟัน รวมถึงความผิดปกติในการเรียงตัวของฟันแท้ที่ขึ้นใหม่ มาดูกันค่ะว่า ฟันน้ำนมผุ มีผลกระทบอย่างไรต่อลูกน้อยบ้าง

  • ฟันน้ำนมผุ มีผลกระทบต่อฟันแท้

  • เนื่องจากฟันน้ำนมทำหน้าที่เป็นแนวทางให้ฟันแท้ขึ้นตามตำแหน่งที่ถูกต้อง ดังนั้น หากฟันน้ำนมผุและต้องถอนก่อนกำหนด ฟันแท้อาจขึ้นผิดตำแหน่ง ซ้อน เก หรือไม่มีที่ขึ้นได้
  • การติดเชื้อในฟันน้ำนมที่ผุลึก อาจส่งผลต่อการสร้างตัวของฟันแท้ ทำให้ฟันแท้มีจุดด่าง หรือรูปร่างผิดปกติ
  • ผลกระทบต่อพัฒนาการ

  • ฟันน้ำนมมีบทบาทในการบดเคี้ยวอาหาร หากฟันผุจนเจ็บปวด ลูกอาจหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหาร ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการเจริญเติบโต
  • หากฟันน้ำนมถูกถอนออกไปจนกระทบต่อการบดเคี้ยวอาหาร อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่องปาก และขากรรไกรได้
  • หน้าที่อย่างหนึ่งของฟันคือ มีส่วนช่วยในการออกเสียง หากฟันน้ำนมผุ หลุด อาจทำให้ลูกออกเสียงไม่ชัดเจน ส่งผลต่อพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร
  • ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม

  • หากมีฟันน้ำนมผุ 1 ซี่ อาจลุกลามไปยังซี่อื่นๆ ใกล้เคียงได้ด้วย และหากฟันผุทะลุโพรงประสาท นอกจากลูกน้อยจะปวดฟันอย่างรุนแรงแล้ว อาจก่อให้เกิดการอักเสบของเหงือก และมีโอกาสติดเชื้อได้ด้วย
  • การติดเชื้อจากฟันผุ อาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา
  • อาจกระทบต่อจิตใจ

เด็กที่มีฟันผุ ฟันหลอ มักถูกล้อเลียน ทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม

สาเหตุฟันน้ำนมผุ

 

ระยะของโรคฟันผุ

ระยะแรก
  • การผุในชั้นเคลือบฟัน เป็นระยะที่ยังไม่เห็นรูผุบนฟัน
  • เห็นเพียงแค่บริเวณเคลือบฟันมีลักษณะเป็นรอยขาวขุ่น หรือเป็นจุดสีน้ำตาลโดยไม่มีอาการใดๆ
  • เกิดจากการสูญเสียแร่ธาตุจากตัวฟันมากกว่าการคืนกลับแร่ธาตุ แต่ยังไม่มากจนเกิดเป็นรูผุ
ระยะที่ 2
  • ผุถึงชั้นเนื้อฟันแต่ไม่ถึงโพรงประสาทฟัน
  • เป็นระยะที่เห็นรูผุบนฟันชัดเจน เพราะเกิดหลุมหรือโพรงบนผิวฟันและเนื้อฟัน ซึ่งมีการสูญเสียแร่ธาตุอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีการทำลายโครงสร้างของฟัน
  • อาจไม่มีอาการ หรือมีอาการเสียวฟัน ปวดฟัน
  • หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา อาจลุกลามจนทะลุโพรงประสาทฟันได้
ระยะที่ 3
  • การผุลุกลามถึงโพรงประสาทฟัน ทำให้มีอาการปวดฟันมาก
  • เชื้อโรคอาจลุกลามจนเกิดฝีที่ปลายรากฟัน
  • อาจลุกลามไปยังเนื้อเยื่อและอวัยวะข้างเคียง ทำให้ใบหน้า ลำคอ บวม เจ็บปวดมาก บางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ลูกติดขวด

สาเหตุที่ทำให้ ฟันน้ำนมผุ

ฟันน้ำนมผุ เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ลูกน้อยมีอายุราว 6 เดือน ซึ่งฟันเริ่มทยอยขึ้นในช่องปาก โดยชั้นเคลือบฟันน้ำนมจะมีความหนาประมาณครึ่งหนึ่งของฟันแท้ และมีองค์ประกอบของแคลเซียมและฟอสฟอรัสน้อยกว่า ฟันน้ำนมจึงผุง่ายกว่าฟันแท้ และสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ลูกน้อยต้องเผชิญกับปัญหาฟันน้ำนมผุล้วนมีจุดเริ่มจากวิธีการเลี้ยงดู ดังนี้ค่ะ

  1. ลูกติดขวด หรือปล่อยลูกหลับคาขวดนมบ่อยๆ

หากลูกน้อยกินนมจากขวด น้ำตาลในนมคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาฟันน้ำนมผุขึ้นได้ค่ะ การปล่อยให้ลูกหลับคาขวดนมจึงไม่ใช่เรื่องดี แบคทีเรียที่อยู่ในช่องปากจะย่อยน้ำตาลจากนมที่ตกค้างบนผิวฟัน จนเกิดเป็นกรดที่ทำลายเคลือบฟันไปเรื่อยๆ จนฟันผุเป็นรูในที่สุดค่ะ

  1. เด็กติดหวาน

นอกจากน้ำตาลในนมแล้ว การให้ลูกกินอาหารหรือขนมหวานเป็นประจำ โดยไม่ใส่ใจดูแลเรื่องความสะอาดในช่องปาก เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้ลูกน้อยฟันน้ำนมผุได้เช่นกัน

  1. โครงสร้างฟันของลูกไม่สมบูรณ์

ฟันน้ำนมของลูกอาจผุได้ง่ายจากสาเหตุโครงสร้างฟันไม่สมบูรณ์ อันเนื่องมากจากหลายสาเหตุ เช่น มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ หรือการคลอดก่อนกำหนดทำให้ฟันมีการสะสมแร่ธาตุไม่สมบูรณ์ รวมถึงอาจเกิดจากกรณีแม่ติดเชื้อขณะตั้งครรภ์ด้วย

รักษาความสะอาดช่องปาก

วิธีดูแลให้ลูกน้อยห่างไกลปัญหา ฟันน้ำนมผุ

การดูแลฟันน้ำนมที่ผุอย่างเหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลกระทบต่างๆ ตามมาได้ คุณพ่อคุณแม่จึงป้องกันได้โดยการพาลูกน้อยไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจเช็กสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งทันตแพทย์จะสามารถให้คำแนะนำในการดูแลฟันและรักษาฟันน้ำนมที่ผุได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุดค่ะ

นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมและสอนให้ลูกมีพฤติกรรมการดูแลช่องปากที่ดี ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดฟันผุได้อย่างมาก ดังนี้

  1. ดูแลความสะอาดฟัน

  • แปรงฟันให้ลูกอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน ด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสมกับช่วงวัยเพื่อป้องกันฟันผุ
  • หากลูกมีฟันที่ชิดกัน อาจใช้ไหมขัดฟันเพื่อช่วยทำความสะอาดซอกฟันด้วย
  • ควรให้ลูกบ้วนปากหลังดื่มนม หรือกินอาหารและขนมทุกครั้ง
  • เมื่อลูกอายุ 4 ปี ต้องฝึกให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกวิธี และปลูกฝังความสำคัญของการแปรงฟัน เพื่อให้ลูกไม่ลืมและไม่กลัวการแปรงฟัน
  1. ควบคุมอาหาร

  • ฝึกนิสัยไม่ให้เด็กทานขนมจุบจิบทั้งวัน จนติดหวาน เลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ และมีส่วนประกอบของน้ำตาลไม่มากจนเกินไป เช่น ผลไม้
  • หลีกเลี่ยงการให้ลูกดูดนมจากขวดเป็นเวลานาน โดยเฉพาะก่อนนอน และฝึกให้ลูกดื่มนมจากแก้วแทน หากทำได้ควรให้เลิกดูดขวดเมื่ออายุได้ 1-1 ขวบครึ่ง
  1. รักษาอย่างทันท่วงที

เมื่อลูกฟันน้ำนมผุ ควรรีบพาไปพบทันตแพทย์ โดยอาจมีการแนะนำให้รักษารากฟันน้ำนมไว้ก่อน ยังไม่ถอนออก จนกว่าฟันแท้จะขึ้น เพื่อให้ลูกได้ใช้ฟันในการเคี้ยวอาหารตามปกติ และไม่ให้สูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนวัยอันควร อย่างไรก็ตาม หากฟันน้ำนมผุทะลุโพรงประสาทฟัน ลูกจะมีอาการปวดฟัน หากถ่ายประเมินภาพรังสีดูแล้วยังสามารถจะเก็บรักษาฟันน้ำนมซี่นั้นได้ ทันตแพทย์จะแนะนำให้รักษารากฟันน้ำนมไว้ก่อนเช่นกันค่ะ

พบทันตแพทย์เสมอ

ฟันน้ำนมผุไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการช่องปากของเด็กได้อย่างยาวนาน การดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกจึงเป็นสิ่งคุ้มค่าที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ เพื่อสุขภาพฟันที่ดีและพัฒนาการที่สมบูรณ์แข็งแรงของลูกน้อยค่ะ

 

ที่มา : www.childrenhospital.go.th , blog.bfcdental.com , www.curaprox.co.th , dentalcouncil.or.th

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ลูกติดผ้าห่ม ผิดปกติไหม? ติดแค่ไหนควรกังวล ควรปรับพฤติกรรมยังไง

ลูกขาลาย เพราะน้ำเหลืองไม่ดี จริงไหม? สาเหตุจริงๆ คืออะไร แก้ไขยังไงดี?

ทำไม ลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย สัญญาณเตือนอะไร? วิธีดูแลและป้องกัน

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!