จิมิดํา เกิดจาก มีเซ็กส์บ่อย เรื่องจริงหรืออำกันเล่นๆ

จิมิดำ เกิดจาก อะไรกันแน่ ทำไมน้องสาวถึงมีสีคล้ำกว่าส่วนอื่นของร่างกาย หรือเป็นเพราะมีเซ็กส์บ่อยอย่างที่ใครๆ เขาว่ากัน

อาจจะดูแปลกไปเสียหน่อย ที่ผู้หญิงบางคนมีผิวขาว แต่บริเวณอวัยวะเพศกลับมีสีคล้ำ ผู้หญิงบางคนไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยด้วยซ้ำ ก็มีอวัยวะเพศที่สีคล้ำเช่นกัน แล้วอย่างนี้ที่ว่า จิมิดํา หรือ จิ๋มดำ เกิดจาก มีเซ็กส์บ่อย วิธีทําให้อวัยเพศหญิงหอม กินอะไรช่องคลอดหวาน เป็นเรื่องจริงแน่หรือ

 

 

อวัยวะเพศดำ จิมิดำ ทำไมอวัยวะเพศถึงดำ เป็นเพราะอะไร

สีของอวัยวะเพศเป็นเรื่องของพันธุกรรม เช่นเดียวกับรูปร่างของอวัยวะเพศที่แตกต่างกัน แต่ผู้หญิงมักไม่มีความมั่นใจ บางคนมีแคมเล็กที่ใหญ่ ยาว จากกรรมพันธุ์ อยากไปผ่าตัดศัลยกรรมให้ดูเล็กลง ซึ่งทางการแพทย์ไม่ค่อยแนะนำ เพราะผู้หญิงทุกคนมีความงดงามในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องศัลยกรรม

 

สีของอวัยวะเพศเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล

จิมิดำ ปกติแล้วสีของอวัยวะเพศแต่ละคน มักจะเป็นสีเดียวกับริมฝีปาก หรือแม้แต่หัวนมของเจ้าตัว แต่มีบางราย ที่สีของอวัยวะเพศ ดำคล้ำกว่าสีตรงอื่น ๆ นั่นไม่ได้หมายความว่า เกิดจากการมีเซ็กส์บ่อย ๆ แต่มีสาเหตุมาจากเรื่องอื่น เช่น คนที่น้ำหนักตัวมาก หรือใส่เสื้อผ้ารัดรูป ชอบนุ่งคับ ๆ ทำให้เกิดการอับชื้น

 

สิ่งที่สำคัญกว่าสีอวัยวะเพศ

นอกจากเรื่อง จิมิดํา แล้ว ผู้หญิงควรจะใส่ใจการดูแลสุขอนามัยช่วงล่างมากกว่า

 

ทำความสะอาด จุดซ่อนเร้น หลังปัสสาวะและหลังอุจจาระ

วิธีที่ดีที่สุดในการทำความสะอาด จิมิ ทุกครั้งหลังฉี่หรืออึ คือการใช้น้ำล้างให้สะอาด แล้วใช้กระดาษชำระหรือทิชชู่ซับให้แห้ง วิธีเช็ดต้องเช็ดจากอวัยวะเพศไปทางทวารหนัก ไม่ควรเช็ดย้อนศร เพราะจะทำให้เชื้อโรคจากทวารหนักติดต่อมายังช่องคลอดได้

 

ทำไมกลิ่นน้องสาวแรง

1. การแต่งกายที่คับและรัดรูปจนเกินไป

นอกจากจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ จิมิดำ แล้ว ยังทำให้เกิดการอับชื้น โดยเฉพาะกางเกงยีนส์รัดติ้วนี่ตัวดีเลย

2. การทำความสะอาดช่องคลอดผิดวิธี

ผู้หญิงมักเคยชินกับการเช็ดจากหลังมาหน้า ตั้งต้นจากตรงก้น ซึ่งกลายเป็นว่า เอาเชื้อโรคจากรูทวารหนักเข้ามาในช่องคลอด เกิดความสกปรก และ อาจส่งผลต่อร่างกายได้อย่างคาดไม่ถึง

3. ใช้น้ำเปล่าดีที่สุด

ในการทำความสะอาดอวัยวะเพศ สามารถใช้เพียงน้ำเปล่า เพื่อรักษาสมดุลของจุดซ่อนเร้น หรือใช้สบู่เด็กล้างก็ได้เช่นกัน

4. เลิกสวนล้างช่องคลอด

เพราะจะไปทำให้ช่องคลอดมีภาวะเป็นด่างจนทำให้มีกลิ่น อีกอย่างคือไม่ควรโกนขนบริเวณอวัยวะเพศ เพราะขนอวัยวะเพศช่วยป้องกันเชื่อโรคเข้าสู่ช่องคลอด ลดแรงเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ และ ป้องกันไม่ให้กลิ่นจากช่องคลอดเล็ดลอดออกมาง่าย ๆ

5. ชุดชั้นในอับชื้นเป็นเชื้อรา เนื่องจากซักชุดชั้นใน และ ตากในร่ม

จริง ๆ แล้ว ควรนำไปวางในที่ที่อากาศถ่ายเท และ แสงแดดส่องถึง แต่ไม่จ้ามากเพื่อถนอมชุดชั้นใน

6. เลี่ยงการใช้หัวฉีดตามห้องน้ำสาธารณะ

การใช้หัวฉีดในห้องน้ำสาธารณะ อาจมาพร้อมเชื้อโรค เชื้อรา แอบแฝง ไม่สะอาดเท่าที่ควร

7. หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง รสจัด

อาหารถูกปาก กลิ่นฉุน ทั้งปลาร้า หอยดอง หรืออาหารทะเล ควรหลีกเลี่ยง เพราะเครื่องเทศ และ อาหารที่กลิ่นแรง ๆ จะมีสารเคมีกระตุ้นตกขาว นำพากลิ่นปลาเค็มมาทักทาย

8. เมื่อมีประจำเดือนควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 2 ชั่วโมง

การเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ จะลดความอับชื้น ที่ทำให้แบคทีเรียในผ้าเติบโต ทำให้จิมิของคุณผู้หญิงมีสุขอนามัยที่ดี และ ควรหลีกเลี่ยงการใช้แผ่นอนามัยบ่อย ๆ ปล่อยให้น้องสาวได้เจออากาศที่ถ่ายเทบ้าง

9. อย่ากินยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ

ยาปฏิชีวนะมีผลต่อร่างกาย ทั้งยังไปทำลายเชื้อแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสที่มีหน้าที่ฆ่าเชื้อราในช่องคลอด ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตในช่องคลอด

 

 

วิธีช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ อวัยะเพศผู้หญิงดํา วิธีแก้

การดื่มนมเปรี้ยว และ โยเกิร์ต จะช่วยลดกลิ่นได้ แต่ต้องทานติดต่อกัน หรือไม่ก็ดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ ก็ช่วยได้แล้ว

เลิกสงสัยว่า จิมิดำ เกิดจากอะไร แล้วไปใส่ใจเรื่องอื่น เพราะสิ่งที่สำคัญกว่า จิมิดำ คือการดูแลสุขภาพน้องสาวให้ดี เพื่อลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และ ออกห่างจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

 

ดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาดอยางไร?

ความสะอาดเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพดี  การดูแลความสะอาดร่างกาย เสื้อผ้า และ ของใช้  เป็นการดูแลสุขภาพเบื้องต้นที่สำคัญ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากในชีวิตประจำวัน ทั้งอยู่ที่บ้าน และ ที่โรงเรียนหรือสถานที่ต่าง ๆ ร่างกาย เสื้อผ้า ของใช้จะสัมผัสกับสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง หรือเชื้อโรคต่าง ๆ หากไม่ชำระล้างหรือทำความสะอาด ร่างกาย เสื้อผ้า และ ของใช้ เชื้อโรคที่ติดอยู่จะเข้าไปสู่ภายในร่างกายทำให้เราเจ็บป่วยได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหมั่นทำความสะอาดร่างกาย สิ่งของเครื่องใช้และ อนามัยส่วนบุคคล เพื่อป้องกันโรค และ มีสุขภาพที่ดี  นอกจากนั้นการเป็นคนแต่งตัวสะอาดเรียบร้อย และ รู้จักจัดสิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย จะเป็นที่น่าคบหาของเพื่อน ๆ คนรอบข้าง และ คนอื่น ๆ

 

การดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด สามารถทำได้เป็นประจำ และทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้

  1. ทำความสะอาดร่างกายอาบน้ำให้สะอาดทุกวัน โดยฟอกสบู่ และ ถูให้ทั่วทุกซอกทุกมุมของร่างกาย และ เช็ดให้แห้ง ล้างด้วยน้ำสะอาด และ เช็ดตัวให้แห้งทุกครั้งให้ทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะตามซอกและ ข้อพับ เพื่อไม่ให้อับชื้นนำไปสู่โรคผิวหนัง
  1. หมั่นสระผมเป็นประจำ เช็ดผมให้แห้งด้วยผ้าสะอาด และ ไม่ควรนอนทั้ง ๆ ที่ผมยังเปียกอยู่เพราะความอับชื้นบนหนังศีรษะอาจทำให้เกิดเชื้อรา
  1. ตัดเล็บมือ เล็บเท้าให้สั้น เพราะเล็บมือ เล็บเท้า เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และ สิ่งสกปรกต่าง ๆ และ นำเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย การตัดเล็บให้สั้นจะเป็นการป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และทำให้ดูเป็นคนที่น่ามองมากกว่าคนที่ปล่อยให้เล็บยาว และดำด้วยสิ่งสกปรกเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
  1. ทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้
    •  สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ไม่อับชื้น และ เหมาะกับสภาพอากาศ เช่น ใส่เสื้อผ้าบาง ๆ เพื่อระบายอากาศในฤดูร้อน หรือใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ที่ทำให้ร่างกาย อบอุ่นในฤดูหนาว
    •  เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ชุดชั้นในที่ใช้แล้ว นำไปซักให้สะอาด และ ตากแดดให้แห้งเพื่อกำจัดเชื้อโรค และ กลิ่น
    • ซักถุงเท้า รองเท้าผ้าใบให้สะอาด ตากแดดให้แห้ง ไม่ใส่ขณะเปียกชื้น
    • ในห้องนอน ทำความสะอาดทุกวัน จัดเก็บของใช้ให้เป็นระเบียบเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนเป็นประจำ ผ้าห่ม ที่นอน หมอน มุ้งหมั่นตากแดด เพื่อ กำจัดฝุ่นละอองและเชื้อโรคต้นเหตุโรคภูมิแพ้และหอบหืด
    • ทำความสะอาดและจัดเก็บของใช้ภายในบ้านให้เป็นระเบียบ ไม่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษ หรือพาหะของโรค
    • ทำความสะอาดตู้เย็น ตู้กับข้าวทุกเดือน ป้องกันการเกิดแบคทีเรียที่ทำให้อาหารบูดเน่า ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย อุจจาระร่วง
    • สิ่งของใช้มือจับสัมผัส เช่น โทรศัพท์ เม้าส์/คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ ลูกบิดประตู ราวบันได หมั่นใช้น้ำผสมผงซักฟอก เช็ด ทำความสะอาดอยู่เสมอ

นอกจากดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด จะต้องดูแลสุขภาพอนามัยประจำวันด้วยการกินผัก ผลไม้เพื่อให้มีกากอาหาร ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก ท้องไม่ผูก และออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายได้เคลื่อนไหวมีผลให้ระบบขับถ่ายของร่างกายทำงานอย่างสม่ำเสมอ

 

 

แหล่งอ้างอิงจาก : healthydee.moph.go.th

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ: 

หัวนมดำ ซอกคอคำ รักแร้ดำ ขาหนีบดำ ดำดำดำ โอ๊ยทำไงดี! แม่ท้องเป็นงี้ทุกคนมั๊ย

ตั้งแต่ท้องทำไมกลิ่นตัวแร๊งแรง! ไม่อยากให้เต่าเรียกแม่ต้องอ่าน!

ปัญหาผิวหนัง 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 90

บทความโดย

Tulya