กาแฟดริป ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ซึ่งอันที่จริงแล้ว กาแฟดริปเป็นวิธีการชงกาแฟอย่างหนึ่ง ที่เมื่อชงออกมาแล้ว ตัวกาแฟจะมีกลิ่นหอม และรสชาติที่ลุ่มลึก ซึ่งด้วยวิธีการชงแบบนี้เป็นวิธีการชงที่เป็นที่ถูกใจของคอกาแฟสายฮิปสเตอร์เป็นอย่างมาก วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับ ร้านกาแฟดริปที่คอกาแฟสายฮิปสเตอร์ไม่ควรพลาด
1. Brew Lab
คอฟฟี่บาร์ในย่านพระราม 9 ที่จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟดริป ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของบ้านไม้กลางซอย ร้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยเก้าอี้และโต๊ะไม้ ที่นี่เป็นเหมือนคอมมูนิตี้เล็ก ๆของเหล่าคอกาแฟ สำหรับเมนูหลักของทางร้านคือ กาแฟดริป ที่ใช้ประสบการณ์ทั้งการชงกาแฟและการคัดสรรเมล็ดกาแฟเพื่อให้ได้มาซึ่งรสชาติที่ดีที่สุด และถูกใจคอกาแฟที่สุด
พิกัด : พระราม 9 ซอย 41 เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด : 10.00 – 18.00 น. ร้านปิดทุกวันอังคาร
2. Halo Koffee
คาเฟ่เล็ก ๆ สไตล์มินิมอล ที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยการใช้โทนสีขาว น้ำตาล เน้นการตกแต่งด้วยไม้ ที่ให้บรรยากาศสบาย ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ที่นี่เป็นเหมือน Cafe Education ที่มีการสรรหาเมล็ดกาแฟใหม่ ๆ ที่ให้รสชาติต่างกันผลัดเปลี่ยนมาใช้ที่ร้าน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบรสชาติแปลกใหม่ สำหรับเมนูแนะนำของที่นี่คือ Caffe Latte ที่มีให้เลือกระหว่าง House Blend หรือ Single Origin ที่รับรองว่าจะต้องถูกใจคอกาแฟอย่างแน่นอน
พิกัด : 32/1 ซ.อุดมสุข แยก 4 ถ.สุทธิสาร-วินิจฉัย เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด : 09.00 – 19.00 น.
บทความที่น่าสนใจ : คาเฟ่โซนรังสิต ร้านไหน ? เก๋ มีสไตล์ น่าไปนั่งชิล ในวันหยุด
3. Doctor Roaster
คาเฟ่เล็ก ๆ ย่านอารีย์ ที่เปิดเฉพาะวันหยุด บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งโดยเน้นดีเทลและลวดลายที่เกี่ยวกับดนตรี และกีฬา โดยเน้นโทนสีขาวตัดดำ ที่ให้ความรู้สึกเท่ ในส่วนของเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านได้แก่ Panama Geisha ที่เป็นเมล็ดพันธุ์กาแฟอันดับต้น ๆ ของโลก นำมาคั่วอ่อน ทำให้ได้กลิ่นของบลูเบอร์รี่ และกลิ่นมะลิอ่อน ๆ หากคุณเป็นคอกาแฟนี่ก็เป็นอีกร้านที่ไม่ควรพลาด
พิกัด : 53 ถ.พหลโยธิน11 เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด : เปิดเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ 09.00 – 18.00 น.
4. Blend Café
คาเฟ่บรรยากาศเท่ ๆ ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยตัวร้านตกแต่งแบบอินดัสเทรียล ลอฟท์ ที่โดดเด่นด้วยผนังปูนเปลือย ตัดกับเคาน์เตอร์หินอ่อนสีขาว สำหรับเมนูกาแฟซิกเนเจอร์ของทางร้านคือ Magic Blend กาแฟเอสเพรสโซ่คั่วอ่อน จากบราซิล เสิร์ฟมาคู่กับ Half an Orange ไซรัปคาราเมลและกลิ่นส้ม ที่เมื่อผสมลงไปจะให้รสชาติที่หวานและกลิ่นอ่อน ๆ ของส้ม ทำให้เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายแม้คนที่ไม่ใช่คอกาแฟ
พิกัด : อาคาร 6 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด : 08.30 – 17.00 น.
5. La Mesa Coffee
คอฟฟี่บาร์สีชมพูย่านอุดมสุข ร้านถูกตกแต่งด้วยกระจกใสเพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาอย่างทั่วถึง อีกทั้งยังมีบาร์กาแฟที่มีเครื่องชงกาแฟ และเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลาย ส่วนซิกเนเจอร์ของทางร้านคือ Mayan Mocha กาแฟสไตล์ชนเผ่ามายัน ที่มีเบสเป็นกาแฟมอคค่า ส้ม นม และโรยพริกลงไป เพื่อให้รสเผ็ดนิด ๆ เข้ากับรสเข้มข้นของกาแฟ
พิกัด : 7/2 ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 68 เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด : 07.30 – 18.00 น. ร้านปิดทุกวันอาทิตย์
บทความที่น่าสนใจ : กาแฟดำ ช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดทั้งวันจริงหรือ?
6. Noxx Cafe
คอฟฟี่บาร์ที่ตกแต่งในสไตล์อินดัสเทรียลผสมผสานความมินิมอล โดยด้านในแบ่งออกเป็น 2 ชั้นตกแต่งโดยใช้สีขาวเป็นหลัก เพื่อความสบายตา และเพิ่มสีสันเล็กน้อยด้วยสีดำและสีเหลือง ทีเด็ดของที่นี่อยู่ที่ Sparkling Black Ginger กาแฟดำผสมขิงและใส่มะนาวฝาน ที่นอกจากรสชาติจะดี ยังช่วยในเรื่องสุขภาพอีกด้วย
พิกัด : 129 ถนนพระราม 9 (หลัง Glory House Building) เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด : 09.30 – 19.00 น. ร้านปิดทุกวันจันทร์
7. One Ounce for Onion
คาเฟ่สุดเก๋ในโครงการช่างชุ่ย ตัวร้านตกแต่งด้วยวัสดุไม้เก่า กระจก และเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นการจับคู่ผสมผสานระหว่างร้านเครื่องเขียน และร้านหนังสือเข้าไปด้วย ทำให้ระหว่างที่รออาหารและเครื่องดื่ม ก็สามารถไปเลือกซื้อหรืออ่านหนังสือได้ และเมนูของทางร้านที่แนะนำคือ Coffee Filter กาแฟดริป ที่นำเมล็ดกาแฟที่คนดื่มชอบมาคั่ว แล้วดริปจนได้กาแฟรสชาติดี
พิกัด : โครงการช่างชุ่ย (โซนหย่อนญาณ) ถนนสิรินธร เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด : 09.00 – 18.00 น.
บทความที่เกี่ยวข้อง :
แคปชั่นร้านกาแฟ ภาษาอังกฤษ 2021 รวม 50 แคปชั่น คำคมร้านกาแฟ ฉบับอินเตอร์ !
สายพันธุ์กาแฟ 4 สายพันธุ์ยอดนิยม และข้อควรรู้ ดื่มอย่างไรให้สุขภาพดี !
ประโยชน์กาแฟ ดื่มแล้วดียังไง ดื่มมาก ๆ ก่อให้เกิดโทษหรือไม่ ?
ที่มา :