ลูกไม่ได้เกิดมาเพื่อเติมเต็มชีวิตพ่อแม่ อย่าใช้ลูกเติมเต็มชีวิตคุณ!

lead image

พ่อแม่มักเข้าใจผิดว่าลูกจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในชีวิต แต่จริงๆ แล้ว ลูกไม่ได้เกิดมาเพื่อเติมเต็มชีวิตพ่อแม่ มาทบทวนบทบาทแท้จริงของพ่อแม่กัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การมีลูกคือความสุขยิ่งใหญ่ ที่มาพร้อมกับความหวัง และความคาดหวังมากมาย แต่บ่อยครั้งที่ความคาดหวังอาจแฝงด้วยความเข้าใจผิดว่าลูกจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในชีวิต หรือเป็นคำตอบของทุกปัญหาที่เรามี แต่ความจริงแล้ว ลูกไม่ได้เกิดมาเพื่อเติมเต็มชีวิตพ่อแม่ บทความนี้จึงอยากชวนพ่อแม่ทุกท่านมาทบทวนและทำความเข้าใจบทบาทที่แท้จริงของความเป็นพ่อแม่กันค่ะ

 

ความเข้าใจผิดของพ่อแม่เมื่อมีลูก

การมองว่าลูกคือศูนย์กลางชีวิตและคาดหวังให้พวกเขามาเติมเต็มสิ่งที่เราขาดหายไป เป็นกับดักทางจิตวิทยาที่ส่งผลกระทบต่อลูกและความสัมพันธ์ในครอบครัว

  1. ลูกคือความสำเร็จของพ่อแม่

การมองว่าลูกคือ “ผลงานชิ้นโบว์แดง” ที่สะท้อนความสามารถและความสำเร็จของพ่อแม่ ทำให้ลูกรู้สึกกดดันและสูญเสียตัวตน

ตัวอย่าง: พ่อแม่มักโพสต์รูปผลการเรียนดีเด่นหรือรางวัลที่ลูกได้รับลงโซเชียลมีเดียเป็นประจำ พร้อมข้อความภาคภูมิใจราวกับเป็นความสำเร็จของตนเอง หรือมักเล่าเรื่องความสามารถของลูกให้คนอื่นฟังอย่างละเอียด เพื่อให้คนอื่นชื่นชมตนเองในฐานะพ่อแม่ที่ดี

บทความที่เกี่ยวข้อง โพสต์อวดเกรดลูก ความภูมิใจของแม่ อาจทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  1. ลูกคือความสุขเดียวในชีวิต

การยึดติดว่าความสุขของตนขึ้นอยู่กับลูกทั้งหมด และคาดหวังให้ลูกเป็นแหล่งความสุขที่ไม่สิ้นสุด ทำให้พ่อแม่พยายามควบคุมลูกมากเกินไป

ตัวอย่าง: แม่ที่ทุ่มเทชีวิตให้ลูกมาตลอด พอถึงวัยที่ลูกแยกออกไปอยู่เอง ก็รู้สึกหดหู่ ซึมเศร้าอย่างรุนแรง และมักโทรศัพท์เช็กความเคลื่อนไหวของลูกบ่อยครั้งจนลูกรู้สึกอึดอัด เพราะแม่ไม่มีความสุขหรือกิจกรรมอื่นใดที่ทำร่วมกับคนอื่นเลยนอกจากลูก

 

  1. ลูกคือผู้เติมเต็มช่องว่าง

การใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการเติมเต็มความต้องการทางอารมณ์ที่ตนเองขาด เช่น ความเหงา, ความรู้สึกไม่สมบูรณ์ ลูกไม่ได้ถูกมองว่าเป็นคนที่มีความต้องการ ความรู้สึก และความคิดเป็นของตัวเอง แต่เป็นแค่ “ส่วนหนึ่ง” ที่มาตอบสนองความต้องการของคุณ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ตัวอย่าง: พ่อที่รู้สึกเหงาหลังจากหย่าร้าง พยายามชวนลูกไปทำกิจกรรมด้วยกันตลอดเวลา คาดหวังให้ลูกเป็นเหมือนเพื่อนสนิท และไม่พอใจเมื่อลูกอยากไปใช้เวลากับเพื่อนในวัยเดียวกัน ทำให้ลูกรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบความสุขของพ่อ

 

  1. ลูกคือผู้สานฝันที่ไม่สำเร็จของพ่อแม่

การพยายามให้ลูกทำตามความฝันของตนเองที่ยังไม่สำเร็จ โดยไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของลูก ทำให้ลูกเกิดความเครียดและขาดแรงจูงใจที่แท้จริง

ตัวอย่าง: พ่อที่เคยเป็นนักฟุตบอลแต่มีอาการบาดเจ็บจนต้องเลิกเล่น หวังให้ลูกชายประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ จึงบังคับลูกชายให้ซ้อมฟุตบอลอย่างหนักตั้งแต่อายุยังน้อย แม้ลูกจะแสดงออกว่าไม่ชอบ และอยากเล่นดนตรีมากกว่าก็ตาม

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทบาทที่แท้จริงของความเป็นพ่อแม่

หลายคนอาจคิดว่าการเป็นพ่อแม่คือการ “ปั้น” ลูกให้เป็นไปตามแบบที่เราต้องการ ให้ลูกเป็นอย่างที่เราฝัน อยากให้ลูกเป็นหมอ ก็พยายามผลักดันทุกวิถีทาง แต่ในทางจิตวิทยาแล้ว ลูกไม่ได้เกิดมาเพื่อเติมเต็มชีวิตพ่อแม่ เราจึงอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มามองตัวเองเป็นเหมือน “คนสวน” ที่ดูแลต้นกล้าเล็กๆ ให้เติบโตอย่างงดงามตามธรรมชาติของมัน ไม่ใช่ “ช่างปั้น” ที่พยายามบีบให้ดินเหนียวเป็นรูปทรงที่กำหนดไว้

 

 

ตอนนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า แท้จริงแล้วบทบาทของเราในฐานะพ่อแม่คืออะไรกันแน่ และทำไมการปรับมุมมองนี้จึงสำคัญต่อความสุขของทั้งครอบครัว

  1. เป็น “ผู้ชี้นำ” ไม่ใช่ “ผู้บงการ”

บทบาทของพ่อแม่คือการเป็น ผู้ชี้นำ และ สนับสนุน ให้ลูกค้นพบศักยภาพตัวเอง ไม่ใช่การบังคับให้ลูกทำตามที่เราอยากได้ การให้ลูกได้ลองผิดลองถูก จะช่วยสร้างความมั่นใจในตนเองให้ลูก แต่หากถูกบงการหรือถูกคาดหวังให้ทำตามที่พ่อแม่ต้องการเสมอ เด็กอาจรู้สึกผิด ไม่กล้าตัดสินใจ หรือขาดความมั่นใจในความสามารถของตนเอง

ทำอย่างไร?: แทนที่จะบอกลูกว่า “ลูกต้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์นะ” ลองเปลี่ยนเป็น “ลูกชอบเรียนรู้อะไรเป็นพิเศษไหม? พ่อแม่เห็นว่าลูกมีความสามารถเรื่องนี้/สนใจเรื่องนี้ ลองมาคุยกันดูว่ามีกิจกรรมไหนที่ลูกอยากลองทำดูบ้าง” การเปิดโอกาสให้ลูกได้เลือกและลองผิดลองถูกภายใต้การดูแลของเรา จะช่วยให้พวกเขารู้จักตัวเองมากขึ้นค่ะ

 

  1. เป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ไม่ใช่ “กรงขัง”

บ้านควรเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และโอกาสในการเรียนรู้ เมื่อลูกรู้สึกปลอดภัย พวกเขาจะกล้าสำรวจโลกและพัฒนาการจัดการอารมณ์ที่ดี

ทำอย่างไร?: ลองสำรวจดูว่าบ้านของเราเป็นพื้นที่ที่ลูกรู้สึกสบายใจที่จะเป็นตัวของตัวเองหรือไม่? ลูกสามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงได้ไหม? เราให้โอกาสลูกได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ผิดพลาดบ้าง และเรียนรู้จากมันหรือไม่? การจัดหาหนังสือ ของเล่นเสริมพัฒนาการ หรือแม้แต่แค่การนั่งฟังลูกเล่าเรื่องราวในแต่ละวันด้วยความใส่ใจ ก็เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีแล้วค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง ลูกคือกระจกสะท้อนพ่อแม่ สร้างลูกให้ดี เริ่มที่ตัวเรา

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  1. เป็น “ผู้เรียนรู้” ไม่ใช่ “ผู้รู้ทุกอย่าง”

การเป็นพ่อแม่คือการเดินทางที่เราเองก็ต้องเรียนรู้และพัฒนาตนเองตลอดเวลา การเปิดใจเรียนรู้ ยอมรับความผิดพลาด และปรับตัว จะช่วยให้เราเป็นพ่อแม่ที่ยืดหยุ่น และเติบโตไปพร้อมกับลูก

ทำอย่างไร?: ลองเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของลูก แม้จะไม่ตรงกับเราทุกอย่าง เรียนรู้จากสิ่งใหม่ๆ ที่ลูกพามาให้รู้จัก เช่น เทคโนโลยี หรือวัฒนธรรมสมัยใหม่ การยอมรับว่าเราก็มีข้อผิดพลาดได้ และพร้อมที่จะขอโทษลูกเมื่อทำผิด ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะสอนให้ลูกเห็นคุณค่าของการเรียนรู้และพัฒนาตนเองเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง ลูกผิดได้ พ่อแม่ก็ผิดได้ พ่อแม่ที่ดีต้องกล้าขอโทษลูกเมื่อตัวเองทำผิด

 

  1. เป็น “ผู้ยอมรับ” ไม่ใช่ “ผู้ครอบครอง”

ลูกคือคนที่มีความคิด ความรู้สึก และความต้องการเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ส่วนขยายของเรา การยอมรับและสนับสนุนให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง จะช่วยให้ลูกเติบโตอย่างมีความสุขและเต็มศักยภาพ

ทำอย่างไร?: ลองถามตัวเองว่า “เรากำลังรักลูกในแบบที่เขาเป็น หรือในแบบที่เราอยากให้เขาเป็น?” ให้พื้นที่ลูกได้แสดงออกถึงความรู้สึก ความคิดเห็น และความชอบของตัวเอง แม้สิ่งเหล่านั้นจะไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังหรือเข้าใจ การยอมรับและชื่นชมในความแตกต่างของลูก จะเป็นรากฐานสำคัญให้ลูกมีความภาคภูมิใจในตนเอง และกล้าที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เขาเลือกค่ะ

การปรับมุมมองของพ่อแม่จะช่วยให้เรามองเห็นบทบาทที่แท้จริงของตนเอง นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรักและความสุขที่ยั่งยืนในครอบครัวค่ะ

ลูกไม่ได้เกิดมาเพื่อเติมเต็มชีวิตพ่อแม่ ความสุขและความสมบูรณ์ในชีวิตมาจากตัวเราเอง ไม่ใช่การพึ่งพิงผู้อื่น แม้กระทั่งลูกของเรา การปรับมุมมองของพ่อแม่จะช่วยให้เรามองเห็นบทบาทที่แท้จริงของตนเอง และการปลดปล่อยความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่และลูกมีความสุขและเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

7 วิธีทำให้ลูกโชคดีที่มีเราเป็นพ่อแม่

ครอบครัวแบบไหนไม่ทำร้ายเด็ก สร้างพื้นที่ปลอดภัย เป็นความสบายใจให้ลูก

เคล็ดลับสร้างวินัยเชิงบวกให้ลูก เลี้ยงลูกแบบ ใจดีแต่ไม่ใจอ่อน