คุณปู่ไปงานเลี้ยง จึงนำอาหารกลับมาฝาก จากนั้นเด็กทั้ง 2 กินบะหมี่ไข่ ซึ่งพวกเขาไม่รู้ว่าบะหมี่ผัดไข่นั้น เหม็นอับ กินไม่ได้ ถูกหามส่งโรงพยาบาล สุดท้ายเสียชีวิต
กินบะหมี่ไข่ เหม็นหืนแต่เด็กแยกไม่ออก สุดท้ายเสียชีวิต
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่งานแต่งในหมู่บ้านงามวัง ชุมชนฮุงดาว อำเภอบาวลัก จังหวัดกาวบ่าง เนื่องจากมีการจัดงานแต่งงานของลูก ๆ และได้เชิญแขกมารับประทานอาหาร ประมาณ 17 ถาด อาหารสำหรับงานเลี้ยงทั้งหมด ถูกปรุงโดยคนในหมู่บ้าน มีอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เต้าหู้ หมูผัด ถั่วงอก และบะหมี่ไข่ดาว
หลังจากงานเลี้ยงก็มีผู้คน ที่มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย 20 ราย ชาวบ้านที่ได้ไปร่วมงาน ได้ไปที่ศูนย์สุขภาพอำเภอเพื่อตรวจและทำการรักษา แต่น่าตกใจ ที่เด็ก 2 คนนี้ ไม่ได้มางานปาร์ตี้ แต่คุณปู่ได้ห่ออาหารกลับบ้านไปให้กิน ซึ่งเขาไม่คิดว่าอาหารจะเหม็นหืน จากนั้นเด็กทั้ง 2 อาหารเป็นพิษ ไม่สามารถช่วยได้ทันเวลา ทำให้ทั้ง 2 คนเสียชีวิต ซึ่งเป็นเด็กอายุ 5 ขวบ และอายุ 3 ขวบ
ของที่นำกลับมาจากงานเลี้ยง ลูก ๆ ต้องระวัง
พ่อแม่และปู่ย่าตายาย เป็นที่รักของลูก ๆ และหลาน ๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะจดจำว่าเด็ก ๆ ที่บ้านชอบกิน และมักจะนำอาหารกลับบ้านมาให้เด็ก ๆ เสมอ เป็นเรื่องที่อบอุ่นที่คิดถึงลูก ๆ และหลาน ๆ แต่อาหารส่วนใหญ่ในมื้ออาหารนั้น ผ่านมานานตั้งแต่การ แปรรูป เบื้องต้นการแปรรูปเสิร์ฟแบบถาด เวลากินแล้ว กลับบ้านจากงานเลี้ยง อาหารบางประเภท เช่น เค้ก หรือผลไม้อาจจะยังคงกินต่อได้ แต่อาหารที่ปรุงใหม่นั้น อาจจะเสียก่อน หรืออาจจะมีกลิ่นหืน และมีโอกาสเน่าเสียสูง
โดยเฉพาะในฤดูร้อน ความชื้นจะยิ่งทำให้อาหารไวต่อรสเปรี้ยว ขึ้นรา เมื่อกินไปแล้วจะส่งผลทำให้ อาหารเป็นพิษทันที มีอาการปวดท้องเล็กน้อย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ร่างกายอ่อนแอ หากรุนแรงอาจเสียชีวิตได้
เช่นเดียวกับ เด็ก 2 คน ข้างต้นที่กล่าวมา บางที บะหมี่อาจจะยังคงความอร่อยอยู่ ตอนที่เอากลับบ้าน แต่แล้วไม่นานอาหารก็บูด ซึ่งเด็กไม่สามารถแยกออกได้ ว่าเสียหรือไม่ เช่นเดียวกับคุณเอง ที่ไม่สามารถแยกแยะความแตกต่าง ระหว่างอาหารที่ค้าง หรืออาหารที่กินได้ ขณะที่คุณกำลังหิว คุณก็เพียงแค่ต้องการจะกิน และยิ่งหากให้เด็ก ๆ กิน ควรตรวจสอบอาหารให้ดีก่อน นำมาให้เด็ก ๆ กิน
วิธีสังเกต เมื่ออาหารเน่าเสีย
-
ดมกลิ่นอาหาร
เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมทำ โดยเฉพาะอาหารที่เปียก มีน้ำ กลิ่นจะเปลี่ยนไปจากเดิม อาจจะเหม็นเปรี้ยว หรือเหม็นหืน ถ้ากลิ่นเปลี่ยนไปไม่ควรนำมากินต่ออีก หากเป็นอาหารที่แช่ในตู้เย็น อาจจะดมกลิ่นไม่ค่อยชัดเจน ลองเอามาอุ่น หรือทิ้งไว้ให้หายเย็น แล้วดมอีกครั้ง
-
รูปร่างเปลี่ยนไป
จากเนื้อที่เด้ง กลายเป็นก้อน หรือเนื้อแข็ง ๆ ไม่เนียนละเอียดเหมือนเดิม ก็อาจจะเป็นตัวบ่งบอกว่าเสียแล้ว อาหารที่สังเกตได้ มักจะเป็นพวก แกะกะทิ เนื้อข้น ๆ ติดช้อน มีฟอง รวมไปถึงเนื้อร่วน ๆ เป็นเม็ด ดูไม่น่ากินเหมือนเดิม
-
เจอสิ่งแปลกปลอม
หากเจอสิ่งแปลกปลอม หรือเชื้อรา ที่มีรูปร่าง ขนาด สี ที่แตกต่างไปจากเดิม หากมีอะไรที่แปลกปลอม หรือแตกต่างไปจากอาหารเดิมที่เป็นอยู่ ให้คิดไว้ว่าอาจจะเป็นราได้
-
รสชาติ
หากดมแล้วยังแยกไม่ออก การชิมจะบ่งบอกได้ว่าอาหารเปลี่ยนไปหรือไม่ อย่าชิมเยอะ ให้สัมผัสแค่รสชาติเพียงเล็กน้อยว่าเปลี่ยนไปหรือไม่ หากมีรสเปรี้ยว เหม็น ลื่น ๆ ไม่ปกติ ก็สามารถทิ้งได้เลย
-
นับวันหมดอายุ
ควรนับ หรือดูวันหมดอายุก่อนกินอะไรก่อนเสมอ หากมีส่วนผสมของแป้งน้ำตาลมาก ๆ จะไม่สามารถเก็บได้นาน หากเกิน 7 วัน แนะนำให้ทิ้งไปเลย รวมถึงผลไม้ที่เหี่ยว ไม่สดใหม่
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ :
คนท้องท้องเสีย ปวดท้องบิด อาการแบบนี้ส่งผลต่อลูกในท้องหรือไม่
อาหารเป็นพิษ ทั้งครอบครัว หลังกินบะหมี่มรณะ พบแช่ค้างทิ้งในตู้แช่มาเกือบปี
เมื่อมีอาการอาหารเป็นพิษ แม่ท้องควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
ที่มา : webtretho