เรื่องของความรักเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ วันนี้รักพรุ่งนี้อาจจะไม่รักแล้วก็ได้ใครจะรู้ แล้วจิตใจของมนุษย์ก็ไม่ได้ถูกจำกัดว่า ต้องมีความรู้สึกรักกับคนเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็ไม่แปลกที่ใจคนเราจะเปลี่ยนไปได้เสมอ เป็นที่มาของคำว่า คบซ้อน ซึ่งถ้าเขากำลังโกหกอยู่ทั้งที่มีคนอื่นไปด้วย คงจบกันได้ไม่ดีแน่ ๆ
แต่เมื่อพูดถึงความรัก เรื่องของความซื่อสัตย์ การยับยั้งชั่งใจ และการควบคุมความไม่รู้จักพอ เป็นสิ่งที่ห้ามตัวเองได้ เพราะการที่จะรักและคบใครหลายคนในเวลาเดียวกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเหมือนกัน ถ้าไม่รักกันแล้วสู่เลิกรากันไปยังจะดีซะกว่า จริงอยู่ที่บางคู่รักอาจจะยอมรับในแง่ความสัมพันธ์นี้ได้ แต่ต้องเป็นการพูดคุยกันตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่เป็นการแอบมีโดยการหักหลังแต่อย่างใด
หากต้องพูดถึงการแอบมีใครเพิ่มลับหลัง ย่อมเป็นธรรมดาที่ต้องเสียความรู้สึกแน่ ๆ ในขณะเดียวกันบางคู่รัก ที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองรู้อยู่เต็มอกว่าเขานอกใจ แต่ก็ยังทนฝืนคบต่อไป หลอกตัวเองไปวัน ๆ ว่ายังโอเค เพียงแค่กลัวเหงาแล้วกลัวจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเขาไป วันนี้ theAsianparent จะพาทุกคนไปตรวจเช็กความสัมพันธ์ที่มีค่ะ หากมีครบ 3 ข้อ จากทั้งหมด 5 ข้อ ขอให้ฟันธงในใจไปก่อนเลยค่ะ ว่าอีกฝ่ายต้องมีโลกใบที่สองอยู่อย่างแน่แท้
คบซ้อน ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในสังคมไทย
รู้หรือไม่ว่าผลสำรวจการนอกใจที่เคยสำรวจเมื่อปี 2016 พบว่า ประเทศไทยครองแชมป์ เรื่องการนอกใจมากที่สุดในโลกด้วยคะแนน 51% นับว่าเป็นสถิติที่สูงมาก หากเทียบตามโพลล์สำรวจดังกล่าว แต่แท้จริงแล้วเรื่องของการคบซ้อนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องที่มีมาตั้งแต่โบราณ และเป็นการกระทำที่ขาดความรู้ความเข้าใจ โดยมีเพียงความคิดที่ว่าต้องผลิตคนให้มาก เพื่อเป็นการสร้างสังคมให้คงอยู่ได้
ในอดีตสังคมกำหนดกรอบไว้ให้เพศชายเหนือกว่าเพศหญิง และการมีบ้านเล็กบ้านน้อยกลายเป็นค่านิยมที่บ่งบอกว่าตัวเองอยู่ในชนชั้นสูง และดูมีฐานะ แต่ถึงแม้วัฒนธรรมหลายเมียจะเป็นเรื่องแข็งแกร่งในสมัยก่อน แต่คนที่จะสามารถทำแบบนั้นได้ ต้องมีอำนาจ มีฐานะการเงิน และสังคมที่ดี จึงจะเป็นเรื่องที่ทำแล้วไม่ถูกนินทา
เมื่อโลกมีการพัฒนาทำให้เกิดความเท่าเทียมเพิ่มขึ้น จากวัฒนธรรมหลายเมียก็กลายมาเป็นการคบซ้อน เมื่อความรักที่ดีถูกกำหนดว่าต้องมีเพียงกันและกันเท่านั้น ไม่ควรมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าการสร้างโลกสองใบในความรักจึงเป็นได้ทุกเพศ ไม่ได้กำหนดว่าเป็นเรื่องที่ผิดแปลก เพียงแต่ว่าในความรักที่จะมีหลายคนได้ ต้องมีการพูดคุยกันอย่างเรียบร้อย โดยที่ไม่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียใจ
องค์ประกอบของความรัก
ก่อนที่จะเกิดสภาวะคบซ้อนขึ้นมาในความคิด แน่นอนว่าต้องผ่านสิ่งที่เรียกว่าความรักมาก่อน โดย ศ.ดร. Robert Sternberg นักจิตวิทยาแห่งภาคจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเยลล์ ได้พัฒนาทฤษฎี Triangle of Love หรือ สามเหลี่ยมแห่งความรัก ขึ้นมา เพื่อใช้อธิบายว่าความรักเกิดขึ้นจากองค์ประกอบ 3 ข้อด้วยกัน
- ความสนิทสนม (Intimacy) : คือความรู้สึกใกล้ชิด ผูกพัน และมีพันธนาการใจ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นในคู่รักเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความสนิทสนมในระดับเพื่อน ครอบครัว และคนรอบข้าง
- ความรู้สึกหลงใหล (Passion) : คือความรู้สึกเชิงชู้สาว ถูกใจรูปร่างภายนอกจนอยากสานสัมพันธ์ ทำให้เกิดความสัมพันธ์แบบ การหลงเสน่ห์ (Infatuation) และ รักแรกพบ (Love at first sight)
- ความผูกพัน (Commitment) : คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเราอยู่กับอะไรมาระยะหนึ่ง อาจไม่ได้เป็นจุดที่สร้างความหวานชวนจั๊กจี้ใจ แต่ก็เป็นตัวที่สร้างให้คนสองคนอยู่ด้วยกันได้นานขึ้น
แต่เมื่อวันที่ความรักเกิดรอยรั่ว ความสัมพันธ์ที่มีก็จะสั่นคลอน พาให้ใจอยากเลิกรัก หรือมีใครเพิ่มเข้ามา จนเกิดสิ่งที่เรียกว่า ความรักบัดซบ (Fatuous Love) ตอนนั้นเองที่จุดเริ่มต้นของการเดินทางเข้าสู่โลกใบที่สองเกิดขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ความเครียดกับผู้หญิง เพราะผู้หญิงอย่างเราเป็นทุกอย่างก็เครียดนะ
สัญญาณเตือนการคบซ้อน
1. เริ่มเข้าถึงยาก โวยวาย ถ้าเจอโดยไม่ได้นัด
การจะเข้าให้ถึงแฟนของตัวเอง ช่างยากเย็นเหลือเกิน โทรไม่รับ แชตไม่อ่าน ไม่ชอบให้โทรตาม และมักอ้างไม่ว่างอยู่เสมอ ซึ่งถ้าโผล่ไปเซอร์ไพรส์ถึงที่โดยไม่ได้นัดหมายยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะโป๊ะแตก แต่ถ้าอีกฝ่ายเขาเก่งเรื่องสับราง คงไม่ใช่แค่ไม่ให้เราจับได้ แต่เพื่อไม่ให้ฝ่ายนั้นจับได้ด้วยว่าเขาน่ะมีแฟนอยู่แล้ว การโผล่ไปแบบที่เขาไม่รู้ล่วงหน้า มันอยู่เหนือการควบคุมของเขา แผนที่วางไว้ก็จะพัง แล้วการเห็นจะจะกับตาแบบนั้นจะแถก็ยากด้วย
2. แอบคุยโทรศัพท์หลบ ๆ ซ่อน ๆ
การคุยโทรศัพท์ไม่ว่าจะกับใครถือเป็นเรื่องส่วนตัวเข้าใจได้ แต่พฤติกรรมหลบ ๆ ซ่อน ๆ ลุกลี้ลุกลนนี่ไม่เห็นจำเป็นถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด เช่น ถือโทรศัพท์ติดตัวตลอด หรือแค่บังเอิญเฉียดโทรศัพท์ จะต้องรีบโผล่มา ท่าทีหวงโทรศัพท์เกินความจำเป็น ทั้งที่ปกติก็ไม่เช็กมือถือ นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมปิดเสียงแจ้งเตือน เฉพาะเวลาที่อยู่ด้วยกัน ทั้งที่ปกติเปิดตลอด แต่ข้อนี้ต้องดูดี ๆ เพราะบางคนอาจจะปิดเสียงโดยเป็นนิสัย หรืออาจจะแค่กลัวรำคาญก็ได้ค่ะ
3. พฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
อาการที่บ่งชี้ของคนนอกใจ หรือคนแอบคบซ้อนที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือ พฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน หลัก ๆ คืออาจจะเริ่มรู้สึกได้ว่าระยะห่างเพิ่มขึ้น อีกฝ่ายดูหงุดหงิดอารมณ์เสียบ่อย ๆ เวลาที่อะไรไม่ได้ดั่งใจ ชวนไปไม่ว่าง แต่พร้อมเดินทางถ้าเป็นคนอื่น อีกทั้งการที่อีกฝ่ายเริ่มตำหนิในความเป็นเรา แสดงอาการเบื่อหน่าย ลดการเอาใจใส่จนกลายเป็นความน้อยใจ ต้นเหตุของการทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา นั่นอาจจะเป็นอีกหนึ่งในสัญญาณเตือนก็ได้ค่ะ ว่าอีกฝ่ายกำลังมีคนอื่น
4. เรียกร้องพื้นที่ส่วนตัวหรือเวลามากขึ้น
ในบางคู่รักที่คบกัน อาจจะมีการกำหนดเวลาเดตกันไว้เป็นประจำ หรือมีการติดต่อกันตลอดเวลา แต่จู่ ๆ อีกฝ่ายก็มีการเปลี่ยนไป โดยเรียกร้องขอพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้น หรือพฤติกรรมการอยากอยู่คนเดียวที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นถ้ามีการถามถึงเงิน หรือโทรศัพท์ก็อาจจะเป็นชนวนทะเลาะ ข้อนี้คิดได้เลยค่ะว่าอีกฝ่ายมีคนอื่นแน่นอน แต่ทั้งนี้เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่เป็นคนนิสัยแบบนั้นก็ได้ เพราะในบางคู่รักช่วงแรกอาจจะมีโปรโมชันเทกแคร์เต็มที่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจจะเฉยชาลง ทั้งที่ไม่ได้มีคนอื่น ซึ่งข้อนี้ต้องดูดี ๆ
5. อารมณ์เสียใส่ตลอดเวลา ร้อนตัวเสมอ
เมื่อคนเรามีความผิดติดตัว อาการที่จะแสดงออกมาก็คือความหวาดระแวง และเมื่อถูกจี้ในเรื่องที่เกือบจะโป๊ะแตก ก็อาจจะแสดงอาการร้อนตัวออกมาได้ ข้อนี้ต้องอยู่ที่ทักษะตัวเองเป็นอย่างมากค่ะ ว่าจะจับสังเกตได้แค่ไหน เพราะบางคู่รักเพียงแค่ถามว่าเธอมีอะไรปิดบังอยู่ไหม ก็อาจจะคายความลับทั้งหมดได้ แต่ในขณะเดียวกันการถามถึงเพื่อนต้องสงสัย ก็อาจจะโดนอีกฝ่ายหงายการ์ดไม่เชื่อใจกันหรอก็เป็นได้ ดังนั้นการจะจับโกหกคุณแฟน อาจจะควรทำก็ต่อเมื่อเรามีหลักฐานครบถ้วนก็ได้ค่ะ
อย่างที่บอกค่ะว่าความรักเป็นเรื่องของความเข้าใจในกันและกันดังองค์ประกอบ แต่ถ้าเมื่อไรแล้วที่แฟนของเราเปลี่ยนไปจนรู้สึกได้ การตามหาว่าโดนคบซ้อนอยู่หรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่ควรทำแต่พอดีค่ะ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ควรจะรู้ แต่เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ Toxic ไปกว่าเดิม การแอบสืบเงียบ ๆ เพื่อมาพิจารณาก่อนลงมือ เป็นเรื่องที่ทำให้เราไม่เหนื่อยค่ะ แต่ทั้งนี้เมื่อสืบแล้วได้ความว่า อีกฝ่ายนอกใจจริง ๆ และตัวเราเองรู้สึกไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์นี้แล้ว ก็เลือกออกมาเสียดีกว่าค่ะ ความสัมพันธ์แบบที่ต้องทุกข์ใจอยู่ฝ่ายเดียวอย่างไม่สิ้นสุด อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีในเรื่องของความรักหรอกค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รักสามเส้า มีวิธีเช็กยังไงให้ปัง! ก่อนตกหลุมรักซ้อน เป็นได้แค่กิ๊ก!
วิธีจีบผู้ชายในแชท คุยอย่างไรให้โซเชียลสื่อรัก แถมได้แฟนยุค Covid-19
ลิสต์เพลงคลั่งรัก ที่เหมาะจะส่งไปจีบคนที่แอบชอบ เพราะทฤษฎี 21 วัน!
ที่มา : urbancreature, tonkit360