เลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจและมีขอบเขต ประสบการณ์เลี้ยงลูกฉบับแม่ออม ปริณดา
สวัสดีค่ะทุกคน สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ และผู้อ่านทุกท่าน ตอนนี้ก็ได้เข้าสู่เดือนสิงหาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดือนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเดือนของแม่ เพราะวันที่ 12 สิงหาคมนี้ จะเป็นวันแม่แห่งชาติ วันนี้ TheAsianparent Thailand จะพาทุกคนไปเปิดมุมมองการเลี้ยงลูกของข้าราชการสาว เภสัชกรชำนาญการ ปริณดา เตชะศิรินุกูล หรือคุณออม กับการเลี้ยงลูกสาวสองคน และการสลับหน้าที่ ภรรยาทำงานนอกบ้าน สามีดูแลลูก ๆ คุณแม่ออมจะฝากข้อคิดและเทคนิคดี ๆ ในการเลี้ยงลูกอย่างไรกัน Celeb Mommy Project ขอนำวิธี เลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจและมีขอบเขต มาแบ่งปันให้เหล่าคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังกังวลใจเรื่องนี้อยู่นำไปปรับใช้กันค่ะ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น คุณแม่ออม ปริณดา เตชะศิรินุกูล ข้าราชการสาว เภสัชกรชำนาญการ กองควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เธอมีลูกสาว 2 คน ชื่อว่าน้องพลอยใสในวัย 7 ปี 10 เดือน และ น้องไพลินวัย 3 ปี 11 เดือน
แบ่งเวลาเลี้ยงลูกอย่างไร?
คุณแม่ออมกล่าวว่า ครอบครัวของเธอนั้น แตกต่างจากหลาย ๆ ครอบครัว ตรงที่ตัวเธอนั้นเป็นคนทำงานนอกบ้านและสามีหรือคุณพ่อของน้องพลอยใสและน้องไพลินจะทำงานอยู่ที่บ้าน ดังนั้นคุณพ่อจึงมีเวลาในการรับส่งลูกไปโรงเรียน ช่วยดูแลกิจวัตรประจำวันของลูก ๆ และมีเวลาเล่นกับลูกมากกว่าคุณแม่ ในส่วนของคุณแม่ก็จะเป็นการสอนการบ้าน เล่านิทาน และมีเวลาเล่นกันบ้างนิดหน่อย
เลี้ยงลูกสาว 2 คน เป็นอย่างไรบ้าง?
แม่ออมกล่าวว่า การเลี้ยงลูกสาวสองคน สิ่งที่ยากสำหรับเธอคือการทำอย่างไรให้พวกเขาเข้าใจว่าเราไม่ได้รักใครมากกว่ากัน ในบางครั้ง เราไม่สามารถทราบได้เลยว่า เพียงแค่คำสรรพนามที่เราใช้กับลูก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียก การขานรับ ก็ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความคิดของพวกเขาได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น น้องพลอยใส พี่สาวคนโตของบ้านเรียกคุณแม่ว่า “หม่าม๊าขา” และคุณแม่ออมตอบกลับไปว่า “ว่าไงคะ” กลับกันในส่วนของน้องไพลินน้องสาวคนเล็กก็เรียกคุณแม่บ้าง “หม่าม๊าขา” แต่คุณแม่ก็ได้ตอบกลับไปว่า “ว่าไงลูก”
คำสรรพนามเล็ก ๆ ที่ตัวคุณแม่ออมไม่ได้เห็นถึงความแตกต่าง แต่สิ่งเล็ก ๆ เพียงเท่านี้ก็ทำให้เด็ก ๆ เกิดความน้อยใจว่า ทำไมหม่าม๊าไม่เรียกหนูว่า “ลูก” บ้างล่ะ ซึ่งในความคิดของแม่ออมเองก็คิดว่ามันคือคำพูดที่เราคิดว่าไม่แตกต่างกันเลย หรือแม้กระทั่งถ้าเด็ก ๆ ขอนั่งตัก เราที่เป็นแม่ก็ต้องให้พวกเขาได้นั่งพร้อมกันทั้งสองคน และต้องแบ่งพื้นที่บนขาให้เท่ากันอีกด้วย คุณแม่ออมยังเสริมอีกว่า ตอนนอนกลางคืนก็ต้องให้คุณแม่นอนตรงกลางแล้วแบ่งแขนกันคนละข้างประมาณนั้นเลยทีเดียว สำหรับคุณแม่ออมนั้นคิดว่าลูกสาวมักมีความน้อยใจมากเลยทีเดียว
ทราบมาว่าลูกสาวคนโตชอบรีวิวสถานที่ต่าง ๆ ?
ทาง TheAsianparent ทราบมาว่าน้องพลอยใส ลูกสาวคนโตของแม่ออมนั้น ชอบทำการรีวิวสถานที่และสิ่งของต่าง ๆ คุณแม่ออมก็ได้บอกถึงจุดเริ่มต้นของการทำคลิป ว่าจริง ๆ แล้วคลิปต่าง ๆ ที่คุณแม่โพสต์ลงโซเชียล นั้นเริ่มต้นมาจากการถ่ายคลิปกิจกรรม การเล่นของน้องทั่วไป แรกเริ่มเดิมทีก็แค่นำเอามาอัพอวดเพื่อน ๆ และคนในครอบครัวเท่านั้น แต่ในช่วงหลัง ๆ ที่น้องเริ่มโตขึ้น น้องพลอยใสเองก็ชอบดูคลิปใน Youtube แล้วก็ติดตามพวกพี่ ๆ Youtuber หลาย ๆ คน น้องพลอยใสเลยเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ อยากลองรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว หรือ กิจกรรมสอนวาดรูปต่าง ๆ เหมือนพี่ ๆ Youtuber นั่นเอง
ซึ่งในส่วนนี้คุณแม่ออมเองทำหน้าที่เป็นเพียงตากล้องให้เท่านั้น ในเรื่องของเนื้อหา หรือการพูด การแสดงออก ตัวน้องพลอยใสจะเป็นคิดเองทั้งหมดไม่มีสคริปจากคุณแม่แต่อย่างใด
การทำวีดิโอรีวิวพัฒนาทักษะด้านใด?
คุณแม่ออมบอกกับเราว่า ในส่วนของการถ่ายคลิปที่น้องทำบ่อย ๆ คุณแม่ออมมองว่าเขาได้พัฒนาทักษะในการสื่อสาร สามารถเล่าเรื่องและคิดรวบยอดได้ ว่าต้องการนำเสนออะไร ในแต่ละคลิปที่ทำออกมา ในส่วนของความกล้าแสดงออก คุณแม่ออมมองว่าไม่แตกต่างจากก่อนทำคลิปเลย เพราะคลิปที่อัดส่วนใหญ่มาจากการเล่นของเขาเป็นหลักก็เลยไม่ค่อยแตกต่างกัน เขาได้ทำการเล่นได้อย่างสร้างสรรค์และทำมันด้วยความสุขเท่านั้นเอง
เห็นว่าน้องดู Youtube แม่ออมมีวิธีจัดการกับปัญหาติดโทรศัพท์อย่างไร?
คุณแม่ออมกล่าวว่า ตอนนี้มีสื่อออนไลน์หลายรูปแบบที่เด็ก ๆ สามารถเข้าถึงได้ง่ายมาก ขนาดลูกสาวคนเล็กของแม่ออมเอง อายุยังไม่ถึง 4 ขวบด้วยซ้ำ เขายังสามารถค้นหาวีดิโอต่าง ๆ จาก Youtube ที่ชอบ ด้วยตนเอง โดยทำการค้นหาวีดิโอต่าง ๆ ด้วยคำสั่งเสียง ซึ่งตัวแม่ออมเองก็ไม่เคยสอนเขาเลย แต่ลูกสาวคนเล็กอย่างน้องไพลินก็บอกว่าเรียนรู้วิธีนี้มาจากพี่สาวหรือน้องพลอยใสนั่นเอง
คุณแม่ออมยังเสริมอีกว่า เราต้องยอมรับว่าเด็กสมัยนี้เรียนรู้เทคโนโลยีได้รวดเร็วมาก ๆ ในส่วนของการดูแลลูก ๆ ในแบบของแม่ออม เธอจะดูวีดิโอนั้น ๆ ไปพร้อมกับลูก ๆ เพื่อจะได้ทราบว่าช่วงนี้เขาสนใจเรื่องอะไร แล้วก็ชวนเด็ก ๆ ทำกิจกรรมนั้น ๆ ด้วย เช่น ช่วงนี้พวกเขาชอบดูคลิปที่เด็ก ๆ ได้ทำบ้านกระดาษกัน เราก็จะเอากล่องที่มีอยู่ที่บ้านมาลองทำบ้านกระดาษเล่นกันเองประมาณนี้ แม่ออมยังทิ้งท้ายด้วยว่า
สิ่งที่สำคัญก็คือ เรื่องของการแบ่งเวลา เด็ก ๆ จะต้องทำกิจกรรมประจำวัน เช่น อาบน้ำ ทานอาหาร ทำการบ้าน ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงจะเล่นมือถือได้ และเมื่อถึงเวลาเข้าห้องนอนก็ต้องหยุดเล่นมือถือเลย ซึ่งนี่เป็นข้อตกลงที่เราต้องคุยกันก่อนที่จะให้เด็ก ๆ ได้เล่นโทรศัพท์นั่นเอง
ฝากถึงพ่อแม่มือใหม่ที่กำลังมีความกังวลในการเลี้ยงลูก
อยากบอกคุณแม่มือใหม่ว่าไม่ต้องกังวลมากนัก ให้เราเลี้ยงลูกไปตามธรรมชาติของครอบครัวเราเอง ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับครอบครัวของคนอื่น ๆ แล้วก็ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ คุณแม่ออมเชื่อว่าเด็ก ๆ เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความรักที่คุณพ่อคุณแม่เรามอบไปให้พวกเขาแน่นอน
TheAsianparent ขอยกย่องผู้หญิงทุกคนที่ทำอาชีพแม่ อาชีพที่ไม่สามารถลาออกได้
Happy Mother's Day แด่คุณแม่ทุกคน นักเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของลูก
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
ขอขอบคุณ คุณแม่ออม ปริณดา เตชะศิรินุกูล ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และวิธีการเลือกโรงเรียนลูกกับทาง TheAsianparent Thailand
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
All Gen, Enjoy เพราะทุกเจเนอเรชั่น มีข้อดีที่แตกต่าง 'เลี้ยงลูกแบบครอบครัวใหญ่'
" สอง บทบาทแม่ ในร่างเดียว " แม่แนน ร่วมแชร์ การเป็นแม่และแม่พิมพ์ของชาติ
มุมมองการเลี้ยงลูกแบบหมอ ๆ จากคุณแม่นุ่น เป็นหมอทั้งบ้าน จัดสรรเวลาให้ลูกยังไง
แม่เลี้ยงเดี่ยวสุดแกร่ง ผ่านมาตรงนี้ เจอเรื่องมากมาย แม่นิ้งคุณแม่สู้ชีวิต