คนท้องกินกาแฟได้ไหม ท้องกินกาแฟได้ไหม คำถามอันดับต้น ๆ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มักดื่มกาแฟทุกวันอยากจะรู้ เพราะกังวลว่ากาแฟจะมีผลต่อการตั้งครรภ์หรือเป็นอันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า มาคลายสงสัยกันค่ะ
ทำความรู้จักกาแฟกันก่อน
กาแฟ หรือ Coffee เป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มกันมากในช่วงวัยกลางคน หรือผู้สูงอายุ โดยกาแฟนั้นทำจากการนำเมล็ดกาแฟที่ได้จากต้นกาแฟมาคั่วและบด ส่วนใหญ่มักนิยมดื่มร้อน ๆ แต่ก็สามารถดื่มแบบเย็นได้เช่นกัน บางคนนิยมดื่มกาแฟใส่นมหรือครีมเทียมเพื่อความหอม และนุ่มละมุนลิ้น โดยกาแฟหนึ่งถ้วยมีคาเฟอีนอยู่ที่ประมาณ 80-140 มิลลิกรัม กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับชาและน้ำ นอกจากนี้ กาแฟยังเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่มีการส่งออกมากเป็นอันดับที่หกของโลก
คาเฟอีนในกาแฟ ส่งผลอย่างไรต่อร่างกายบ้าง ?
คาเฟอีน เป็นสารที่มีรสขมพบมากในเครื่องดื่มแสนอร่อยแก้วโปรดของใครหลาย ๆ คนเช่น กาแฟ ช็อกโกแลตและน้ำอัดลม ซึ่งมีฤทธิ์ไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางและเร่งระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้มีความตื่นตัว หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้เกิดอาการใจสั่น ปวดหัวและนอนไม่หลับ หากแม่ท้องดื่มกาแฟลูกในท้องก็จะได้รับคาเฟอีนผ่านทางสายรก ทำให้ได้รับคาเฟอีนส่งตรงจากแม่และส่งผลต่อร่างกายเหมือนกัน แต่จะไม่ส่งผลต่อความพิการ สติปัญญา หรือสีผิวของลูกในท้องแน่นอน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการบริโภคคาเฟอีน
การบริโภคคาเฟอีนเป็นประจำหรือการได้รับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป อาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ดังนี้
1. นอนไม่หลับ
ประโยชน์อย่างหนึ่งของคาเฟอีน คือ ทำให้ตื่นตัวไม่ง่วงนอน แต่ในขณะเดียวกัน การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจทำให้นอนไม่หลับได้ โดยมีการศึกษาพบว่า หากได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าจะนอนหลับ และยังอาจทำให้ระยะเวลาและคุณภาพการนอนลดลงได้อีกด้วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
2. เกิดความวิตกกังวล
แม้คาเฟอีนอาจกระตุ้นให้สมองทำงานได้ดีขึ้น แต่หากได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจทำให้เกิดความผิดปกติภายในสมอง อย่างเป็นโรควิตกกังวลได้ โดยมีการศึกษาพบว่า การบริโภคคาเฟอีนเกินวันละ 1,000 มิลลิกรัม อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลหรือความกระวนกระวายใจ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล
3. เกิดความเมื่อยล้า
การบริโภคคาเฟอีนอาจเพิ่มพลังงานและประสิทธิภาพต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ แต่หลังจากหมดฤทธิ์แล้ว คาเฟอีนอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าตามมาได้เช่นเดียวกัน โดยมีการศึกษาพบว่า แม้เครื่องดื่มชูกำลังที่ผสมคาเฟอีนอาจทำให้รู้สึกตื่นตัวและเพิ่มความรู้สึกเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่ก็อาจทำให้ร่างกายรู้สึกเมื่อยล้ามากกว่าปกติในวันต่อมาได้
4. ติดคาเฟอีน
คาเฟอีนจะทำให้สมองหลั่งสารบางอย่างออกมาในลักษณะที่คล้ายกับการติดสารเสพติด จึงอาจเกิดอาการติดคาเฟอีนได้ นอกจากนี้ หากเป็นผู้ที่บริโภคคาเฟอีนปริมาณมากในแต่ละวัน หรือมีภาวะติดคาเฟอีนอยู่แล้วหยุดบริโภคทันที อาจทำให้เกิดความผิดปกติขึ้นในร่างกายได้
5. กล้ามเนื้อและกระดูกเสียหาย
หากบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมน้อยลงจนเกิดภาวะกระดูกพรุน หรืออาจทำให้อัตราเมตาบอลิซึมสูงเกินไปจนเกิดอาการกล้ามเนื้อเกร็ง นอกจากนี้ แม้จะเป็นกรณีที่พบได้น้อย แต่การดื่มคาเฟอีนในปริมาณมากอาจเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะกล้ามเนื้อสลายได้
6. ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น
การบริโภคคาเฟอีนปริมาณมากอาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นชั่วคราว จึงอาจเกิดผลกระทบต่อระบบประสาท และอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นจนอาจเกิดความผิดปกติอย่างภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพลิ้วได้ นอกจากนี้ การที่ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นนั้น อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองได้เช่นกัน
7. ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายมีปัญหา
คาเฟอีนในกาแฟ เมื่อเราดื่มกาแฟในปริมาณที่มากจนเกินไปจะทำให้ร่างกายของเรานั้นขับคาเฟอีนส่วนเกินออกมาทางปัสสาวะ ซึ่งนั่นหมายความว่ายิ่งดื่มกาแฟมากเท่าไหร่ จะทำให้เรานั้นเข้าห้องน้ำบ่อยมากยิ่งขึ้น และอาจนำไปสู่การถ่ายเหลว หรือท้องเสียได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงการทำให้กรดในกระเพาะมีการเพิ่มปริมาณมากขึ้น และทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก หรือกรดไหลย้อนได้อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้อง นอนไม่หลับ ส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์อย่างไร
คนท้องกินกาแฟได้ไหม ?
ท้องกินกาแฟได้ไหม ? แม้จะยังไม่มีรายงานในทางการแพทย์ว่าการดื่มกาแฟนั้นมีอันตรายกับทารกในครรภ์ ทำให้ที่คุณแม่ที่ติดกาแฟนั้นโล่งใจขึ้นมาได้ แต่การกินของคุณแม่ก็คือต้องดื่มในปริมาณที่ “จำกัด” คาเฟอีนไม่ให้เกินวันละ 300 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะหากมากไปกว่านี้ สารคาเฟอีนในกาแฟที่คุณแม่ดื่มเข้าไปผ่านสายรกเข้าสู่ทารกในครรภ์ จะส่งผลกระทบต่อทารกได้ เช่น ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า เสี่ยงต่อการแท้ง คลอดก่อนกำหนด หรือคลอดออกมาแล้วทารกมีน้ำหนักตัวน้อย เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องไม่ควรกินอะไร ห้ามดื่มอะไรบ้าง อะไรคือของแสลงที่คนท้องต้องระวัง
คาเฟอีนส่งผลอย่างไรต่อแม่ และลูกในท้อง
- คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และขับแคลเซียมออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยพัฒนาการทางร่างกายและการสร้างเซลล์ต่าง ๆ ของลูกในท้องให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์อาจทำให้แม่ท้องมีน้ำคร่ำน้อย หรือขาดแคลเซียมได้
- ทำให้หัวใจของทารกเต้นเร็วกว่าปกติ หายใจเร็ว กระตุก และระยะต่อมาอาจมีภาวะโรคเบาหวานแทรกแซง
- มีการวิจัยชี้ชัดด้วยว่า คาเฟอีนส่งผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดของทารกที่อยู่ในท้องแม่ที่ดื่มกาแฟมากเกินไป
- ออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้แม่นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลเสียต่อสุขภาพ
- ทำให้แม่ท้องเบื่ออาหาร และการเติมครีมเทียมและน้ำตาลในกาแฟจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
- นอกจากขับแคลเซียมออกจากร่างกายแล้ว คาเฟอีนยังมีฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแร่ธาตุจำเป็นสำหรับแม่ท้อง
.
เราจะควบคุมปริมาณคาเฟอีนได้อย่างไรบ้าง ?
การดื่มกาแฟ หรือการบริโภคคาเฟอีนนั้นไม่ได้หมายความว่าจะมีข้อเสีย หรือข้อดีอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่เราจะต้องรู้จักดื่มให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งถ้าหากเราสามารถควบคุมปริมาณการดื่มคาเฟอีนได้นั้นจะส่งผลดีต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก โดยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกินปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียง
- อ่านฉลากโภชนาการบนผลิตภัณฑ์ก่อนทุกครั้ง เพื่อดูว่าอาหารชนิดนั้นมีคาเฟอีนหรือไม่ หรือมีคาเฟอีนผสมอยู่มากเพียงใด
- ก่อนดื่มกาแฟเพิ่มอีกแก้วหลังดื่มไปแล้วแก้วหนึ่ง ให้คิดทบทวนว่าจำเป็นต้องดื่มกาแฟเพิ่มจริงหรือ เพราะหากไม่จำเป็นก็อาจไม่ต้องดื่มกาแฟเพิ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป
- ให้ลดปริมาณลงทีละน้อย สำหรับผู้ที่ดื่มเป็นประจำ หรือเสพติดการดื่มกาแฟ เพราะหากหยุดบริโภคในทันทีอาจทำให้เกิดภาวะถอนคาเฟอีน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อร่างกายหลายรูปแบบ เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ไม่มีสมาธิ เป็นต้น จนอาจทำให้กลับไปบริโภคคาเฟอีนดังเดิม
- หากคิดว่าการเลิกบริโภคคาเฟอีนนั้นยากเกินไป ให้เปลี่ยนไปดื่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน หรือดื่มชาและชาสมุนไพรแทนการดื่มกาแฟปกติ เพราะเครื่องดื่มดังกล่าวมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟในปริมาณที่เท่ากัน
- ยาบางชนิดอาจมีส่วนผสมของคาเฟอีน จึงควรอ่านฉลากยาให้ดี หรือปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
หากแม่ท้องยังอยากดื่มกาแฟต่อไปนอกจากต้องจำกัดปริมาณคาเฟอีนต่อวันแล้ว ก็ควรต้องดื่มน้ำมาก ๆ ในแต่ละวันเพื่อชดเชยน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปเพื่อไม่ให้น้ำคร่ำมีปริมาณน้อยเกินไปและสิ่งสำคัญที่น่ากังวลใจมากกว่าคาเฟอีนคือปริมาณน้ำตาลที่เติมในเครื่องดื่มและในอาหารที่กินทุกวัน เพราะหากแม่ท้องได้น้ำตาลในปริมาณที่มากเกินอันเสี่ยงเป็นเบาหวานตอนตั้งท้องซึ่งมีอันตรายมากกว่าคาเฟอีนหลายเท่าค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เครื่องดื่มสำหรับคนท้อง คนท้องดื่มอะไรแล้วดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย
คนท้องดื่มไวน์ ได้จริงหรือ? การดื่มไวน์ทำให้ผู้หญิงท้องได้เร็วขึ้นหรือไม่
คนท้องกินกาแฟได้ไหมคะ หากท้องแล้วกินกาแฟ อันตรายกับลูกในท้องไหมคะ
ที่มา : pregnancybirthbaby.org.au , theguardian , webmd