ยาธาตุน้ำขาว ยาธาตุน้ำแดง และยาสามัญประจำบ้านอีกหลายประเภทที่คุณแม่เคยรับประทานก่อนตั้งครรภ์เวลามีอาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องเสีย แต่เมื่อคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น ยามเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ มักมีความกังวลว่า คนท้องสามารถกินยาธาตุน้ำขาวได้หรือไม่ ซึ่งยาธาตุน้ำขาวก็เป็นยาชนิดหนึ่งที่มีติดบ้าน แล้วเมื่อเกิดอาการปวดท้องเล็กน้อย คนท้องอย่างเรา ๆ จะแน่ใจได้อย่างไรว่ากินแล้วปลอดภัย บทความนี้เรามีคำตอบ
คนท้องกินยาธาตุน้ำขาวได้หรือไม่
ยาธาตุน้ำขาวใช้เพื่อทำลายเชื้อโรคในลำไส้ รักษาอาการอักเสบของลำไส้แก้ปวดท้อง จุด เสียด แน่นท้อง เคลือบกระเพาะอาหาร แต่ยานี้ไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดกรด ดังนั้น คนท้องต้องแยกอาการตัวเองให้ออกว่า ปวดท้อง ลำไส้อักเสบ (จากการรับประทานอาหารผิดสำแดง) หรือมีกรดในกระเพาะอาหาร เพราะยาธาตุน้ำขาวประกอบด้วย ซาลอน น้ำมันหอมระเหย โป๊ยกั๊ก และเมนทอล ซึ่งมีข้อควรระวังในการใช้คือ
1. คนท้องที่แพ้สารซาลิไซเลต (Salicylate)
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่มีส่วนประกอบของสารชนิดนี้ (Salicylate) ซึ่งในยาธาตุน้ำขาว 100 มิลลิกรัมประกอบไปด้วย
- ฟีนิลซาลิไซเลต(Phenyl Salicylate หรือ Salol) ปริมาณ 2 กรัม ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกรดซาลิซิลิก มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อในลำไส้ จึงช่วยแก้อาการท้องเสียจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้ เช่น จากอาหารเป็นพิษ ลำไส้อักเสบ เป็นต้น
- เอนีสออยล์(Anise Oil) ปริมาณ 132 มิลลิลิตร ซึ่งมีฤทธิ์ในการขับลม หากคุณแม่ท่านใดทราบว่าตัวเองแพ้นำมันชนิดนี้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาธาตุน้ำขาวทันที
- เมนทอล(Menthol) ปริมาณ 176 กรัม ซึ่งมีฤทธิ์ในการขับลม และช่วยแต่งกลิ่นและรสให้ดีขึ้น แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่แพ้เมนทอล อาจสูดดมได้ แต่เมื่อผสมในยา กลับรู้สึกสะอิดสะเอียน รับประทานแล้วเกิดอาการคลื่นไส้ได้
2. ยาธาตุน้ำขาวมีแอลกอฮอล์
บางคนยังไม่เคยทราบว่ายาธาตุน้ำขาวที่เรารับประทานกันอยู่บ่อย ๆ นั้นมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม แม้เพียงจะมีเพียงเล็กน้อย แต่ผู้ป่วย เด็ก คนชรา และคนท้อง ควรรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์หรืออ่านฉลากข้างขวดอย่างละเอียดให้ชัดเจนก่อนรับประทาน
บทความที่เกี่ยวข้อง : กรดไหลย้อน ศัตรูตัวร้ายของคุณแม่ตั้งครรภ์
ยาธาตุน้ำขาว สามารถแก้อาการท้องเสียในคนท้องได้
คนท้องที่คิดจะกินยาธาตุน้ำขาวเพื่อรักษาอาการท้องเสีย ขอบอกเลยว่ากำลังเข้าใจผิด หากเกิดอาการปวดท้องเล็กน้อย จุกเสียด สามารถรับประทานได้ แต่สำหรับอาการท้องเสียที่มาจากสาเหตุทั่วไปเช่น อาหารเป็นพิษ หรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้เล็กน้อยนั้น ไม่ส่งผลเสียกับการตั้งครรภ์ของคุณแม่ ดังนั้น คนท้องกินยาธาตุน้ำขาวได้ แต่อย่างที่เตือนไว้ข้างต้น การกินยาธาตุน้ำขาวต้องกินในปริมาณที่พอดีและไม่มีการแพ้ส่วนประกอบในยานั้น พูดถึงยาธาตุอื่น ๆ เช่น ยาธาตุน้ำแดง ยาธาตุฉุน ๆ คล้ายยาหอม อาจไม่ได้ช่วยแก้อาการท้องเสียและควรดื่มน้ำตามาก ๆ ให้เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน ซึ่งการดื่มผงน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) ก็สามารถชดเชยน้ำที่เสียจากการถ่ายเหลวอย่างหนัก แต่หากท้องเสีย มีไข้ ถ่ายเป็นเลือด ปวดท้องรุนแรง และมีอาการเวียนศีรษะมาก เกิดความรู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลง แนะนำว่าคุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีอย่าเพิ่งรับประทานยาใด ๆ ทั้งสิ้น
รู้จักยาธาตุน้ำขาว ยาสามัญประจำบ้านให้ดีขึ้น
ยาธาตุน้ำขาว หรือ Salol et Menthol Mixture ที่เชื่อว่าทุกคนต้องมีติดบ้านเอาไว้ ยาชนิดนี้เป็นยาที่ใช้รับประทานเพื่อทำลายเชื้อโรคและรักษาการอักเสบในลำไส้ เมื่อเกิดอาการติดเชื้อจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดหรือ อาหารที่เรามักจะแพ้ อีกทั้งยังแก้อาการปวดท้องแก้ท้องเสีย แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด รับประทานให้รู้สึกโล่ง ช่วยให้เรอ ไม่แน่นหน้าอก และช่วยขับลม
ลักษณะสำคัญของยาธาตุน้ำขาว
ยาธาตุน้ำขาวเป็นยาน้ำสีขาวในรูปแบบของยาน้ำแขวนตะกอน (Suspension) มีกลิ่นหอม รสหวาน รับประทานง่าย นอกจากนี้ยังช่วยเคลือบกระเพาะอาหารเพื่อการทำลายเชื้อโรคในลำไส้ หรือควบคุมเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหารที่เป็นต้นเหตุทำให้กระเพาะอาหารมีกรดมาก (แต่ยานี้ไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดกรด) เป็นยาสามัญประจำบ้านที่หาซื้อได้ง่าย ราคาถูก สามารถใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่บางรายกลับไม่ชอบกลิ่นและความลื่น ๆ กลิ่นเอียน ๆ และชอบกินยาธาตุน้ำแดงมากกว่า
ผลข้างเคียงของการกินยาธาตุน้ำขาวมากเกินไป
ด้วยความที่ยาธาตุน้ำขาวมีส่วนผสมของเมนทอล (Menthol) บางคนไม่ทราบว่าตัวเองนั้น แพ้กลิ่นและรสชาติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องที่เป็นอยู่นั้นมีอาการมากขึ้น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน รู้สึกวูบ หรืออาจถึงขั้นไม่รู้สึกตัวได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้ป่วยเกี่ยวกับการเกิดภาวะภูมิไวหรือภาวะไวต่อความรู้สึก (Hypersensitivity) จากการได้รับเมนทอล หรือที่เราสัมผัส ได้กลิ่นอะไรนิดหน่อยก็สามารถเกิดอาการแพ้ทันที ทั้งที่คนอื่นไม่เป็น โดยอาการที่พบคือ ผู้ป่วยจะมีผื่นเกิดขึ้นทั่วร่างกาย ลักษณะผื่นเป็นแบบผื่นลมพิษ และมีอาการร้อนวูบวาบ ปากชา หน้าบวม ปากบวม ตัวบวม
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้อง ท้องอืด ลมในท้องเยอะ แม่ตั้งครรภ์ ท้องอืด กินยาอะไรได้บ้าง
ยาธาตุน้ำขาวไม่ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ดังนั้นมาดูสรรพคุณของยาลดกรดกัน
อย่างที่กล่าวในย่อหน้าแรก ว่ายาธาตุน้ำขาวไม่สามารถลดกรดได้ หากคนท้องรู้สึกมีกรดในกระเพาะอาหารก็สามารถรับประทานยาลดกรดโดยตรง (ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อมาติดบ้านไว้)
ยาลดกรด (Antacid) มีส่วนประกอบสำคัญ
- อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (Aluminium Hydroxide) ยาตัวนี้ถูกนำมาใช้ลดกรดในกระเพาะอาหาร รักษาโรคกรดไหลย้อน เกิดอาหารไม่ย่อย รวมถึงแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ โดยหากใช้เป็นยาเดี่ยวอาจจะก่อให้เกิดอาการท้องผูกได้ จึงนำยานี้ไปผสมกับยาลดกรดอื่น เช่น แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ เพราะถ้าใช้เดี่ยว ๆ จะทำให้เกิดอาการท้องผูก
- แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์(Magnesium hydroxide) ตัวนี้จะกระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย (เป็นยาระบาย) ซึ่งควรใช้ร่วมกับอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ นำมาผสมร่วมกันจึงช่วยลดผลข้างเคียงเรื่องท้องผูกของยา พอตัวยาทั้ง2 ชนิดนี้ ซึ่งรวมกันแล้วเป็นยาลดกรดที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้น้อย ทำให้ออกฤทธิ์แค่เพียงเฉพาะที่กระเพาะอาหารโดยไม่รบกวนสมดุลกรด-ด่างในเลือด ซึ่งสารแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์เดี่ยว ๆ มีผลทำให้เกิดอาการท้องเสีย ดังนั้นเมื่อใช้เป็นสูตรผสมรับประทานร่วมกันจึงสมดุลพอดีและมีผลต่อระบบขับถ่ายน้อย เรียกว่า เป็นการนำเอาสารทั้ง 2 ชนิดมารวมกันเพื่อให้เกิดความบาลานซ์ในการรักษา
สรรพคุณเด่นในยาลดกรดที่คนท้องสามารถกินยาได้
- ยาชนิดนี้ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารของคุณแม่ตั้งครรภ์ ฉะนั้นคนท้องไม่ต้องกังวลในการกินยาลดกรด แต่ต้องจำไว้ว่า ยาลดกรดกับยาธาตุน้ำขาวมีหน้าที่แตกต่างกัน
- ยาธาตุน้ำขาวปลอดภัยแล้ว ยาลดกรดในกระเพาะอาหารก็มีความปลอดภัยในทั้งหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรเช่นกัน แต่ควรใช้บรรเทาอาการเมื่อมีอาการเท่านั้น ไม่ควรใช้ติดต่อกันในระยะยาว บางคนติดยาทั้ง 2 ชนิดนี้ รู้สึกนิดหน่อยก็กินโดยไม่ทันระวัง
คนท้องควรดูแลสุขภาพอย่างไรเมื่อเกิดอาการท้องเสีย
หากคนท้องไม่อยากพึ่งพายาธาตุน้ำขาว ยาลดกรดในกระเพาะอาหารเพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ แม้ว่าการรับประทานยาดังกล่าวจะปลอดภัยสำหรับคนท้องก็ตาม แต่ทั้งนี้ เราไม่อาจทราบได้ว่า เรามีอาหารการแพ้ยาตัวใดตัวหนึ่งที่ผสมอยู่ในยานั้น ๆ หรือไม่
อาหารที่ควรเลี่ยงเมื่อคุณแม่มีอาการท้องเสีย
- อาหารประเภทนมทั้งหมด นมสด นมวัว นมเปรี้ยว โยเกิร์ต เพราะเป็นอาการที่เหมาะแก่การขับถ่ายและย่อยง่าย อีกทั้งนมบางชนิดอาจมีแล็กโทสที่ทำให้คุณแม่ท้องเสียมากขึ้นกว่าเดิม
- ผัก ผลไม้ และน้ำผลไม้ เหมือนจะมีประโยชน์ทุกอย่าง แต่ผลไม้บางชนิดก็ทำให้ถ่ายง่ายเกินไป เช่น มะละกอ ลูกพรุน ส้ม กล้วย ผลไม้รสเปรี้ยวต่าง ๆ
- อาหารรสจัด เช่น ส้มตำ ต้มยำ อาหารประเภทนี้คุณแม่ควรงดไปก่อน มีทั้งรสจัดและโซเดียมมากเกินไป
- อาหารที่ย่อยยาก เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน แป้งที่มีส่วนผสมของเนย หอย ปลาหมึก ยกเว้นปลาเนื้อขาวที่สามารถรับประทานได้และมีประโยชน์มากด้วย
อาหารสำหรับผู้ที่มีอาการท้องเสีย
คนท้องกินยาธาตุน้ำขาวเพื่อลดอาการท้องเสียไปแล้ว อาจต้องเสริมด้วยการทดแทนปริมาณน้ำที่สูญเสียไปด้วยน้ำเกลือแร่ที่ไม่ใช่เกลือแร่ และดื่มน้ำสะอาดหรืออาจนำไปต้มจนได้อุณหภูมิห้อง แล้วผสมผงน้ำตาลเกลือแร่โออาร์เอส (ORS) ดื่มสัก 1 แก้ว จากนั้นสามารถรับประทานอาหารได้ เช่น อาหารรสชาติอ่อน ๆ ย่อยง่าย อย่าง โจ๊ก ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่
อีกทั้งคุณแม่ยังสามารถรับประทานอาหาร อาหารไขมันต่ำ อย่าง อกไก่ เนื้อหมูไม่ติดมัน เนื้อปลา กุ้งต้ม (ห้ามรับประทานของดิบเด็ดขาด)
คนท้องควรระวังตัวเองอย่างไรไม่ให้เกิดท้องเสียได้ง่าย
สาเหตุหลักคือไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ว่าใช้ชีวิตประจำวันในการรับประทานอาหารอย่างไร ไม่ว่าจะท้องเสีย เกิดกรดในกระเพาะอาหาร ล้วนมาจากการกินทั้งสิ้น ดังนั้น ยามคุณแม่ตั้งครรภ์ควรระวังการรับประทานอาหารและเลือกกินให้มากขึ้นดังนี้
- ลดหรืองดการทานอาหารรสจัด เช่น เค็มจัด เปรี้ยวจัด เผ็ดจัด หรืออาหารที่มีผงปรุงรสมากเกินไป
- คนท้องต้องลดหรือเลิกการรับประทานอาหารหมักดอง ผลไม้ดอง เพราะช่วยความเสี่ยงต่อการพบเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากกระบวนการหมักดองที่ไม่สะอาด เราไม่สามารถทราบได้ว่า ผัก ผลไม้ดองนั้นมาจากแหล่งใด สะอาดหรือไม่
- คุณแม่ควรเลือกรับประทานอาหารจากร้านอาหาร ที่มั่นใจว่าทางร้านได้เลือกวัตถุดิบที่สะอาด มาปรุงให้สุก 100% อาจเป็นร้านประจำที่เชื่อถือได้
- คุณแม่ไม่ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกข้ามวัน หรือเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม เช่น ทำอาหารไว้ รับประทานไม่หมด แล้วไม่นำเข้าแช่ตู้เย็น ซึ่งอาจทำให้อาหารก่อเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ท้องเสียได้
- คุณแม่อย่าเพลิดเพลินในการรับประทานอาหารมากเกินไป เช่น ไปกินบุฟเฟต์ แล้วไปอดอาหารอีกมื้อหนึ่ง เพราะการรับประทานอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งมากเกินไป จะทำให้ผนังหน้าท้องขยายมากยิ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร
- ถ้าเป็นไปได้ควรทำอาหารรับประทานเอง จะมั่นใจมากกว่า และแบ่งได้ว่า เราจะกินมื้อเช้า กลางวัน เย็น เพราะในการนำอาหารเข้าปากทุกครั้ง เชื่อว่าคุณแม่จะต้องมีสติในเรื่องคุณค่าอาหารและปริมาณที่เพียงพอต่อลูกน้อย
การป้องกันร่างกายของคุณแม่ให้ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้ตนเองท้องเสีย และไม่ต้องมาใช้ยาใด ๆ กับร่างกาย จะทำให้ทารกในครรภ์มีพัฒนาการที่ดี และไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ตามไปด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ตั้งครรภ์ ท้องเสีย ปวดท้องบิด อาการแบบนี้ส่งผลอย่างไรต่อลูกในท้อง
ยาสามัญประจำบ้านที่คนท้องควรมี ยาที่ปลอดภัยทั้งแม่และลูก
อันตรายหรือไม่?!?! คุณแม่ควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรดีเมื่อ คนท้อง “ท้องเสีย”
แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคนท้องกินยาธาตุน้ำขาวได้ไหม ได้ที่นี่!
คนท้องกินยาธาตุน้ำขาวได้ไหม จะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ จะส่งผลกับลูกไหมคะ
ที่มา: medthai , stcarlos , medthai