แม่ท้องนอนท่าไหนดีสุด นอนตะแคงซ้ายปลอดภัยไหม คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องรู้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แม่ท้องนอนท่าไหนดีสุด นอนตะแคงซ้ายปลอดภัยไหม คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องรู้ การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาพิเศษที่ร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก การเลือกท่านอนที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้คุณแม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ และส่งผลดีต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับท่านอนที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ในแต่ละช่วง พร้อมทั้งแนะนำเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างสบายตลอดทั้งคืน

ทำไมท่านอนจึงสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ?

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ และช่วยให้ร่างกายของแม่ได้ฟื้นฟูตัวเอง การเลือกท่านอนที่ถูกต้องจะช่วย:

  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือด: ส่งเสริมการนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงทารกในครรภ์
  • ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน: เช่น ความดันโลหิตสูง บวม
  • บรรเทาอาการไม่สบายตัว: เช่น ปวดหลัง ปวดขา
  • ปรับปรุงอารมณ์: ช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น
  • ช่วยให้ร่างกายสร้างฮอร์โมน: ที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของทารก เช่น ฮอร์โมนการเจริญเติบโต และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
  • ลดความเครียด: การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอจะช่วยลดระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด

ท่านอนที่เหมาะสมในแต่ละไตรมาส แม่ท้องนอนท่าไหนดีสุด

  • ไตรมาสแรก: ในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ คุณแม่ยังสามารถนอนในท่านอนที่คุ้นเคยได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ เพราะอาจกดทับท้อง
  • ไตรมาสสองและสาม: ท่านอนตะแคงซ้ายเป็นท่านอนที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจาก:
    • ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น: หลอดเลือดใหญ่ที่นำเลือดไปเลี้ยงมดลูกจะอยู่ทางด้านซ้ายของร่างกาย การนอนตะแคงซ้ายจะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูกและทารกได้อย่างเต็มที่
    • ลดความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง: การนอนตะแคงซ้ายจะช่วยลดแรงกดทับหลอดเลือดใหญ่ ทำให้เลือดไหลเวียนกลับสู่หัวใจได้ดีขึ้น
  • ช่วงใกล้คลอด: อาจมีการปรับเปลี่ยนท่านอนเล็กน้อย เช่น ใช้หมอนรองระหว่างขาและใต้ท้อง เพื่อเพิ่มความสบาย

ท่านอนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง

  • ท่านอนคว่ำ: ท่านอนนี้จะกดทับหน้าท้อง ทำให้รู้สึกอึดอัด และอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย
  • ท่านอนหงาย: โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ ท่านอนหงายจะทำให้มดลูกกดทับเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก อาจเกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน หรือความดันโลหิตต่ำได้

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง

  • กดทับอวัยวะภายใน: ทั้งท่านอนคว่ำและหงายจะกดทับอวัยวะภายใน ทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว และอาจส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ
  • ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด: ท่านอนหงายจะทำให้มดลูกกดทับเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย
  • ลดปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังลูกน้อย: เมื่อเลือดไหลเวียนไม่ดี ปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังลูกน้อยก็จะลดลง ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย

อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้นอนหลับสบาย

  • หมอนรองท้อง: ช่วยรองรับน้ำหนักของท้อง ลดอาการปวดหลังและปวดขา มีทั้งแบบรูปตัว U และแบบรูปตัว C ให้เลือกตามความชอบ
  • หมอนข้าง: ช่วยให้คุณแม่นอนตะแคงได้สบายขึ้น ลดแรงกดทับที่สะโพกและขา
  • หมอนรองขา: ช่วยลดอาการปวดขาและเท้าบวม
  • ที่รองนอน: ช่วยปรับระดับความสูงของตัวเตียงให้เหมาะสม
  • หมอนรองหัวเข่า: ช่วยลดแรงกดทับที่ข้อเข่า

เคล็ดลับการนอนหลับให้สบาย

  • ปรับสภาพแวดล้อม: ทำห้องนอนให้มืด สงบ และเย็นสบาย
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนนอน: หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไปก่อนนอน ออกกำลังกายเบาๆ ในช่วงเช้าหรือบ่าย
  • หาเวลาพักผ่อนในระหว่างวัน: หากรู้สึกเหนื่อยล้า ลองหาเวลาพักผ่อนสั้นๆ ในระหว่างวัน
  • ปรึกษาแพทย์: หากมีปัญหาในการนอนหลับ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางแก้ไข
  • ฝึกการหายใจลึกๆ: ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและหลับสบายขึ้น
  • ฟังเพลงบรรเลงเบาๆ: หรือเสียงธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
  • อาบน้ำอุ่นก่อนนอน: ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
  • อ่านหนังสือ: หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายก่อนนอน
  • หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือ: หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน เพราะแสงจากหน้าจอจะรบกวนการหลับ

ปัญหาการนอนไม่หลับที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์

  • ปวดหลัง: เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
  • ปวดขา: เกิดจากการบวมและการกดทับของเส้นประสาท
  • ปวดท้อง: เกิดจากการหดตัวของมดลูก
  • ท้องอืด: เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  • ปัสสาวะบ่อย: ทำให้ต้องตื่นกลางดึก

วิธีจัดการกับอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ

  • ใช้หมอนรอง: ช่วยรองรับส่วนที่ปวด
  • ประคบร้อนหรือประคบเย็น: ช่วยบรรเทาอาการปวด
  • ออกกำลังกายเบาๆ: เช่น โยคะหรือการเดิน
  • นวด: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

ประโยชน์ของการนอนหลับต่อพัฒนาการของทารก

  • ช่วยให้ทารกเจริญเติบโตสมบูรณ์: การนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายของทารกได้รับสารอาหารและออกซิเจนอย่างเพียงพอ
  • พัฒนาสมอง: การนอนหลับมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองของทารก
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ช่วยให้ทารกแข็งแรงและต้านทานโรคได้ดีขึ้น

ทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรนอนตะแคงซ้าย ?

การนอนตะแคงซ้ายเป็นท่านอนที่แพทย์มักแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากมีประโยชน์ต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยหลายประการ ดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น: เมื่อนอนตะแคงซ้าย มดลูกจะไม่ไปกดทับหลอดเลือดใหญ่ที่อยู่ด้านขวาของร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายและลูกน้อยได้ดีขึ้น
  • ลดอาการบวม: การไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ช่วยลดอาการบวมที่มือ ขา และเท้า ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์
  • ช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น: การนอนตะแคงซ้ายช่วยให้ไตทำงานได้สะดวกขึ้น ช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น
  • ลดความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง: การนอนตะแคงซ้ายจะช่วยลดแรงกดทับหลอดเลือดใหญ่ ทำให้เลือดไหลเวียนกลับสู่หัวใจได้ดีขึ้น
  • ลดความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตต่ำ: การนอนตะแคงซ้ายช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตต่ำ
  • เพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังลูกน้อย: การไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ทำให้ปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังลูกน้อยเพิ่มขึ้น ช่วยให้ลูกน้อยเจริญเติบโตได้ดี
  • ลดอาการปวดหลัง: ท่านอนตะแคงซ้ายช่วยลดแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง ทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวมากขึ้น และการใช้หมอนรองระหว่างขาและใต้ท้องจะช่วยลดแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง
  • ช่วยให้ทารกอยู่ในท่าที่เหมาะสม: การนอนตะแคงซ้ายจะช่วยให้ทารกอยู่ในท่าที่พร้อมสำหรับการคลอด

นอกจากท่านอนตะแคงซ้ายแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ยังสามารถทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเพิ่มความสบายในการนอนได้อีกด้วย

  • ใช้หมอนรองท้อง: เพื่อช่วยรองรับน้ำหนักของท้อง และลดอาการปวดหลัง
  • งอเข่าเล็กน้อย: เพื่อลดความกดทับที่หลัง
  • ปรับเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ: เพื่อป้องกันกล้ามเนื้อตึง
  • หาที่นอนที่นุ่มสบาย: เพื่อให้การนอนหลับเป็นไปอย่างผ่อนคลาย

การเลือกท่านอนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยแข็งแรง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ชีวิตประจำวันให้เหมาะสมก็มีส่วนช่วยในการนอนหลับได้ดีขึ้น หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ทำไมการ นอนตะแคงระหว่างตั้งครรภ์ จึงสำคัญมาก ท่านอนคนท้อง นอนแบบไหนดี

รวมคำถามยอดฮิต ท่านอนสำหรับแม่ท้อง นอนท่าไหนปลอดภัย นอนวันละกี่ชั่วโมง

ท่านอนคนท้อง คนท้องนอนท่าไหนดี ท่าไหนหลับสบาย ปลอดภัย ไม่ทับลูก

ที่มา : medthai.com

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

watcharin