ทรีทเม้นท์ผมทำสี ยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสียจากการทำสี ให้กลับมามีสุขภาพดี นุ่มลื่นอีกครั้ง เนื่องจากทรีทเม้นถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยบำรุงผมอย่างล้ำลึก เส้นผมใครที่ผ่านการทำเคมีมา บอกเลยต้องมีติดบ้านไว้ใช้งาน เพราะการกู้ผมเสียให้กลับมาสวยดังเดิมได้เร็วที่สุด นั่นก็คือการใช้ทรีทเม้นท์บำรุงหลังการสระผมนั่นเอง ทุกคนสามารถดูแลเส้นผมได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องเข้าร้านทำผมเลยค่ะ ดังนั้น บทความนี้เราจึงจะมาป้ายยา! 10 ทรีทเม้นท์ผมทำสี คุณภาพดี เข้มข้น ช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสีย และดูแลสีผมให้ติดทนนานมากขึ้น มาตามไปดูกันเลย ว่าจะมียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง
วิธีเลือกซื้อทรีทเม้นผมทำสี
ตรวจสอบสภาพเส้นผมก่อนที่จะเลือกซื้อ ซึ่งทรีทเม้นท์ได้ผลิตออกมาจำหน่ายหลากหลายสูตรมาก ๆ เพื่อตอบโจทย์ให้สำหรับคนที่มีปัญหาเส้นผม เช่น ผมขาดหลุดร่วง ผมแห้ง หรือสูตรสำหรับหนังศีรษะแพ้ง่าย และก็สูตรสำหรับผมทำสี เป็นต้น ซึ่งก่อนที่จะเลือกซื้อคุณจะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ถี่ถ้วนก่อนนะคะ เช่น ถ้าหากต้องการเลือกซื้อทรีทเม้นท์ในการบำรุงสำหรับผมที่ทำสี หรือทำเคมีต่าง ๆ ไม่ว่าจะผ่านการยืด หรือดัดมา ทรีทเม้นท์ที่คุณเลือกก็อาจจะต้องมีส่วนผสมของเคราติน เพื่อที่จะได้ช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่ถูกทำร้ายจากเคมี หรือถ้าหากเป็นคนผมแห้ง ก็อาจจต้องมองหาทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ส เพื่อที่จะได้ช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื่น และมีน้ำหนัก เป็นต้น
โดยทั่วไปแล้วทรีทเม้นท์จะมีทั้งหมดอยู่ 2 ประเภท ก็คือทรีทเม้นท์ที่ไม่ต้องล้างออก และทรีทเม้นท์แบบที่ต้องล้างออก ซึ่งแบบที่ต้องล้างออกจะช่วยในการฟื้นฟูเส้นผมที่เกิดความเสียหายให้กลับมาแข็งแรงสุขภาพดี ใช้งานคล้ายกับครีมนวดผม ชโลมลงบนผม และหมักทิ้งไว้ตามเวลาที่ผลิตภัณฑ์กำหนด จากนั้นก็ล้างออก
ส่วนทรีทเม้นท์ที่ไม่ต้องล้างออกจะทำหน้าที่เคลือบเส้นผมชั้นนอก และทำการล็อกน้ำในเส้นผมจึงทำให้เส้นผมมีความชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้านนั่นเองค่ะ ซึ่งถ้าหากใครที่มีเส้นผมที่ผ่านการทำสีบ่อย ๆ และสุขภาพเส้นผมเริ่มที่จะเสียขั้นรุนแรง แนะนำให้เลือกใช้ทรีทเม้นท์แบบที่ต้องล้างออกจะดีที่สุดนะคะ เพราะจะตอบโจทย์ในเรื่องของการบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมานุ่มลื่น และแข็งแรงค่ะ
-
ส่วนผสมของทรีทเม้นท์ผมทำสี
ในส่วนของเรื่องส่วนผสมก็ถือเป็นปัจจัยที่จะต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกันนะคะ เนื่องจากทรีทเม้นท์เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยในการซ่อมแซมผมเสียที่ผ่านการทำสี และเคมี ดังนั้น ในผลิตภัณฑ์ก็จะต้องมีส่วนผสมที่จะช่วยบำรุงผมเสียให้กลับมาแข็งแรงรวมอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วที่นิยมนำมาเป็นส่วนผสมในทรีทเม้นท์ผมทำสีก็จะมี เคราติน, วิตามินอี, วิตามินบี 5 และสารสกัดอื่น ๆ
ที่จะสามารถช่วยฟื้นฟูเส้นผมจากการทำสีให้กลับมาเงางาม แข็งแรง และป้องกันไม่ให้ผมเสียถึงแกนใน แล้วก็อย่าลืมตรวจสอบส่วนผสมของทรีทเม้นท์ที่คุณเลือกซื้อด้วยนะคะว่ามีซิลิโคนรวมอยู่ด้วยไหม เพราะทรีทเม้นท์ส่วนใหญ่จะผสมซิลิโคนลงไปด้วย เพื่อความเงางาม และมีน้ำหนักของเส้นผม ถ้าหากใครแพ้ซิลิโคนควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาดนะคะ เพราะจะทำให้เกิดการอุดตันบนหนังศีรษะได้ ดังนั้น การตรวจสอบส่วนจึงถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ทรีทเม้นท์หมักผม ใช้แล้วผมนุ่มสวย
เคล็ดลับ! การใช้ทรีทเม้นท์ผมทำสี ให้ได้ประสิทธิภาพ ผมนุ่มลื่น มีน้ำหนัก
- ขั้นตอนแรก สระผมให้สะอาด แนะนำให้เลือกใช้แชมพู และครีมนวดผม ที่มีคุณสมบัติช่วยในการบำรุงเส้นผมที่ผ่านการทำสี หรือทำเคมี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- สระผมเสร็จก็เช็ดผมให้หมาด ๆ จากนั้นก็ชโลมทรีทเม้นท์ลงบนเส้นผม และหมักทิ้งไว้ตามที่เวลาของผลิตภัณฑ์กำหนด หรือถ้าหากใครที่มีหมวกอบไอน้ำ ก็สามารถนำมาใช้ควบคู่กับทรีทเม้นท์ได้ เพราะความร้อนจะช่วยเปิดเกล็ดผม และทำให้ทรีทเม้นท์ซึมเข้าเส้นผมได้ดี หลังจากครบเวลาที่กำหนดก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- สำหรับการใช้ทรีทเม้นท์ในการบำรุงเส้นผม สำหรับคนที่มีผมเสียมาก ผ่านการทำสีมาอย่างหนัก แนะนำให้ใช้บำรุงสัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง เป็นประจำติดต่อกัน แต่ถ้าหากใครที่ไม่ได้มีปัญหาผมที่เสียมากใช้สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ก็ได้ค่ะ เพียงเท่านี้ก็จะหมดกังวลปัญหาผมเสียจากการทำสีแล้วค่ะ เพราะการทำทรีทเม้นท์จะช่วยเติมความชุ่มชื่น และบำรุงเส้นผมให้กลับแข็งแรง ไม่แห้งหยาบอีกต่อไปค่ะ
10 ทรีทเม้นท์ผมทำสี ยี่ห้อไหนดี กู้ผมเสียให้นุ่มลื่น เงางาม มีน้ำหนัก งบหลักร้อย
1. TRESemme Purple Treatment Bleached Hair
บำรุงผมเสียอย่างล้ำลึก ป้องกันไม่ให้ผมเสียถึงแกนใน
มาเริ่มกันที่ เทรซาเม่ ทรีทเม้นท์ ม่วง ตัวช่วยบำรุงเส้นผมสำหรับผมกัดสี ที่จะช่วยบำรุงผมที่เสียมากอย่างล้ำลึก ด้วยเม็ดสีม่วงอนุภาคเล็ก และ PLANT PLACENTA ที่จะช่วยบำรุงเส้นผมที่แห้งของคุณได้อย่างล้ำลึก และสร้างเกราะป้องกันไม่ให้ผมเสียถึงแกนใน พร้อมล็อกสีผมหม่น ไม่ให้เฟดเหลือง เหมาะสำหรับคนที่ทำผมเฉดโทนหม่น หรือผมกัดสีโทนสว่าง เพียงแค่หมักทิ้งไว้ 3-5 นาที เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ควรใช้คู่กับแชมพู และครีมนวดเนื้อม่วงของเทรซาเม่นะคะ
สิ่งที่ชื่นชอบ
- ช่วยบำรุงผมเสียมากอย่างล้ำลึก
- ช่วยล็อกสีผมหม่นไม่ให้เฟดเหลือง
- ทำให้สีผมเป็นสวยชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
2. Dr.PONG 003 HAIR CORE TREATMENT
ช่วยบำรุงผมเสียจากการทำสี สารเคมี และความร้อน
ทรีทเม้นท์ผมทำสีจาก Dr.PONG ที่จะช่วยบำรุงเส้นจากข้างในแก่นกลางเส้นผมที่เสีย ด้วยสาร Bis-Aminopropyl Diglycol Dimaleate ที่จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมผมที่เสียหายให้กลับมาดูสุขภาพดี นุ่ม สลวย เรียบตรง เงางาม ไม่แห้งเสียอีกต่อไป ใช้งานง่ายเพียงแค่หมักทิ้งไว้ 30-90 นาที แล้วล้างออก แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพความเสียหายของแกนเส้นผม สำหรับใครที่ทำสีผมบ่อย ๆ ลองซื้อไปใช้งานกันดูได้ค่ะ แนะนำเลย!
สิ่งที่ชื่นชอบ
- ซ่อมแซมเส้นผมจากด้านในอย่างล้ำลึก
- ช่วยให้ผมนุ่มตรงสลวยเงางาม
- ช่วยให้เส้นผมมีน้ำหนัก
3. Khaokho Talaypu Treatment Coconut and Avocado
ช่วยบำรุงให้ผมนุ่มลื่น ชุ่มชื่น มีน้ำหนัก และเงางาม
ทรีทเม้นบำรุงผมจาก Khaokho สูตรนี้จะช่วยบำรุงเส้นผมของคุณที่แห้งเสียจากการทำสี โดนความร้อน และสารเคมี ให้กลับมาสวยสุขภาพดีอีกครั้ง ซึ่งสูตรนี้จะมีส่วนผสมของสารสกัดจากมะพร้าว และอาโวคาโด ที่จะมีส่วนช่วยในการบำรุงให้ผมนุ่ม ชุ่มชื่น มีน้ำหนัก และเงางาม อีกทั้ง ยังมี Nano Keratin ที่จะช่วยเคลือบปิดเกล็ดผมให้ผมเรียบลื่นตลอดเส้น พร้อมทั้งมี Pro Vitamin B5 และ Vitamin E ที่จะช่วยซ่อมแซมแกนผมจากโคนจรดปลาย เรียกได้ว่าเป็นทรีทเม้นท์คุณภาพดีอีกหนึ่งยี่ห้อที่จะช่วยฟื้นบำรุง และปกป้องเส้นผมจากเคมี และความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ๆ เลยค่ะ
สิ่งที่ชื่นชอบ
- ปราศจากซิลิโคน และสารเคมีอันตราย 12 ชนิด
- ช่วยฟื้นบำรุงแกนผมระดับโมเลกุลเส้นต่อเส้น
- ช่วยให้ผมสวย นุ่มลื่นน่าสัมผัส
4. NIGAO Hair Treatment Guardian
ช่วยทำให้เส้นผมเงางาม แข็งแรง นุ่มสลวยดูสุขภาพดี
ทรีทเม้นท์จาก NIGAO สูตรสำหรับคนทำสีผม ยืด และดัดโดยเฉพาะ ซึ่งสูตรนี้จะมาพร้อมการทำงานของนวัตกรรมไมโครโมเลกุล LPP Keratin ที่จะช่วยแทรกซึมถึงแกนชั้นในผม ทำให้ช่วยปกป้องสีผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สีผมยังเปล่งประกายสวยชัด และยังช่วยฟื้นบำรุงให้ผมเสียกลับมานุ่มลื่น ไม่แห้งกร้าน อีกทั้ง ยังมี Hydroxyethyl Urea ที่จะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผม และหนังศีรษะอีกด้วยค่ะ ถือเป็นทรีทเม้นท์คุณภาพดีอีกหนึ่งยี่ห้อที่จะช่วยเข้าไปฟื้นบำรุง และปกป้องเส้นผมจากการทำเคมีได้อย่างดี ใครที่อยากมีเส้นผมที่แข็งแรง นุ่มสลวยเงางาม ต้องลอง!
สิ่งที่ชื่นชอบ
- ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียจากการทำสีได้ดี
- ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับหนังศีรษะ
- ช่วยทำให้เส้นผมดูเงางาม และมีน้ำหนัก
5. Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Hair Damaged from Coloring
สูตรผมทำสี บำรุงเส้นผมให้ชุ่มชื้น นุ่มลื่น และมีน้ำหนัก
ทรีทเม้นท์ผมทำสีจาก Lolane ที่จะช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่ผ่านการทำสีผมมาอย่างหนัก จนทำให้ผมแห้งเสีย แตกปลาย ซึ่งสูตรนี้จะช่วยฟื้นบำรุงลึก 3 ชั้นผม จะมีส่วนผสมของ Active Keratin ที่จะช่วยซ่อมแซมปิดเกล็ดผมชั้นนอก และมี Hydrolyzed Keratin ที่จะช่วยบำรุงผมชั้นในให้ชุ่มชื่น และมี Oxidized Keratin ที่จะช่วยเสริมโครงสร้างโปรตีนของเส้นผมให้แข็งแรง เรียกได้ว่าเป็นทรีทเม้นท์คุณภาพดีอัดแน่นไปด้วยประโยชน์ครบครันอีกหนึ่งยี่ห้อ ที่จะช่วยเข้าไปบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย ชุ่มชื้น แข็งแรง มีน้ำหนัก และไม่ขาดง่าย ออกแบบมาเพื่อสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ บอกเลยห้ามพลาด!
สิ่งที่ชื่นชอบ
- ช่วยซ่อมแซมเกล็ดผมชั้นนอกให้สุขภาพดีขึ้น
- ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผมชั้นใน
- ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม
6. Dove Advanced Keratin Treatment Mask Intense Repair
ซ่อมผมเสียถึงแกน เสริมเกราะป้องกันให้เส้นผมแข็งแรง
ทรีทเม้นท์บำรุงผมจาก Dove ที่จะช่วยซ่อมผมเสียถึงแกนใน และช่วยปรับสภาพเส้นผมให้แข็งแรง ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาผมเสียแตกปลาย ชี้ฟู ผมพังเพราะทำสี ผมช็อต ผมแห้งเป็นไม้กวาด แนะนำให้ลองใช้ทรีทเม้นท์บำรุงผมจาก Dove สูตรนี้เลยค่ะ เพราะจะช่วยกู้ผมเสียต่าง ๆ ให้กลับมาแข็งแรง นุ่มสลวย และสุขภาพดี อีกทั้ง ยังช่วยปกป้องผมไม่ให้เปราะขาดได้ง่ายถึง 10 เท่า เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ
สิ่งที่ชื่นชอบ
- ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง กลับมาดูสุขภาพดี
- ทำให้เส้นผมมีน้ำหนักมากขึ้น
- ช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก
7. Biowoman Detox Treatment Mask
ช่วยบำรุงผมให้นุ่ม ไม่แห้งกร้าน ให้กลับมาแข็งแรงมีชีวิตชีวา
ทรีทเม้นท์ผมทำสีจาก BIOWOMAN ถือเป็นทรีทเม้นท์ที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง และความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมของคุณอย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับผมที่ผ่านการ ยืด ดัด ทำสี หากใครที่ปัญหาผมเสียอย่างรุนแรงจากการทำสี และเคมีต่าง ๆ ทรีทเม้นท์สูตรนี้จะช่วยซ่อมแซม และปรับโครงสร้างให้เส้นผมที่เสียให้กลับมาแข็งแรง ชุ่มชื้น และนุ่มสลวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แห้งกร้านอีกต่อไป และยังช่วยปกป้องเส้นผมจากมลภาวะ และแสงแดดอีกด้วยค่ะ
สิ่งที่ชื่นชอบ
- เพิ่มความนุ่มลื่นให้เส้นผม
- ปกป้องเส้นผมจากมลภาวะและแสงแดด
- ให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผม และหนังศีรษะ
8. Dcash Defender Keratin 3D Extra Shine Hair Treatment
สูตรเข้มข้น ผสมวิตามินและเซราไมด์ บำรุงให้ผมนุ่ม เงางาม
ทรีทเม้นท์ผมทำสีจาก Dcash สูตรเข้มข้น ผสมวิตามิน และเซราไมด์ ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้จะมีคุณสมบัติที่จะช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย ให้กลับมานุ่มลื่น เงางาม พร้อมทั้งช่วยทำให้สีผมทุกเฉดสีให้ติดทนนาน และเด่นชัดยิ่งขึ้น แถมทรีทเม้นท์ก็ยังมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาอีกด้วย ใช้งานง่ายหมักทิ้งไว้ 5-10 นาที และล้างน้ำออกได้เลย ถือเป็นทรีทเม้นท์ที่ถูกและดี อัดแน่นไปด้วยคุณภาพสุด ๆ เลยค่ะ
สิ่งที่ชื่นชอบ
- ช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย
- ช่วยให้ผมเงางาม
- ช่วยให้สีผมติดทนนาน และเด่นชัดขึ้น
9. Reana Pro Hair Keratin Treatment
กลิ่น Blooming Hair Mist ช่วยล็อกสีผมให้ติดทนนาน
เคราตินทรีทเม้นท์ Reana สูตรนี้มาพร้อมสารสกัดที่เข้มข้น ที่จะช่วยฟื้นฟูเส้นผมได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผมมีน้ำหนัก นุ่มสลวยอย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้เส้นผม และช่วยล็อกสีผมให้ติดทน และเด่นชัดยาวนานยิ่งขึ้น เพียงแค่หมักทิ้งไว้ 3-5 นาที แล้วล้างออก ก็จะได้ผมที่หอมนุ่มลื่น ไม่แห้งเสียอีกต่อไป และสามารถมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยเวลาใช้งาน เพราะสูตรนี้นั้นจะปราศจาก SLS, SLEs, Petroleum Jelly, พาราเบน และไม่ผสมสีค่ะ
สิ่งที่ชื่นชอบ
- ช่วยลดผมขาดหลุดร่วง และชี้ฟู
- มีกลิ่นหอมติดทนตลอดทั้งวัน
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้เส้นผมไม่แห้งเสีย
10. HOLY SHINE Keratin Argan Oil Hair Treatment
บำรุงได้อย่างล้ำลึก เปลี่ยนผมเสียให้นุ่มลื่น เงางาม
ปิดท้ายกันที่ ทรีทเม้นท์ผมทำสีจาก HOLY SHINE เป็นอีกหนึ่งทรีทเม้นท์ที่อยากจะแนะนำ ซึ่งสูตรนี้จะมีส่วนผสมเด่น ๆ อย่าง เคราติน Hydrolized Protein ซึ่งจะเป็นโปรตีนที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ทำให้ซึมเข้าเส้นผมได้ง่าย และบำรุงได้อย่างล้ำลึก นอกจากนี้ ยังมีน้ำมันอาร์แกนออยล์ที่จะช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะให้ชุ่มชื้น และมีส่วนผสมของอาโวคาโดออยล์ ที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ที่จะช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม ไม่ว่าเส้นผมจะผ่านการทำเคมี ดัด ยืด ย้อม ฟอก ทำสี มามากแค่ไหน ใช้ทรีทเม้นท์สูตรนี้รับรองเส้นผมกลับมามีชีวิตชีวานุ่มลื่นไม่แห้งกร้านแน่นอนค่ะ
สิ่งที่ชื่นชอบ
- ช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะให้ชุ่มชื้น
- ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม
- ฟื้นบำรุงผมเสียให้นุ่มสลวย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 10 ทรีทเม้นท์ผมทำสี ยี่ห้อไหนดี ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ แต่ละยี่ห้อล้วนอัดแน่นไปด้วยประโยชน์ที่จะช่วยบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียผ่านการทำสีมาอย่างหนักให้กลับมานุ่มลื่น มีน้ำหนัก เงางาม ดูสุขภาพดี บอกเลยว่าถ้าหากใครที่มีปัญหาผมเสียจากการทำสีห้ามพลาดทรีทเม้นท์ที่เรานำมาฝากเด็ดขาด จะต้องมีติดบ้านเอาไว้ใช้บำรุงเส้นด่วน ๆ อย่าลืมไปเลือกซื้อกันนะคะ
การเปรียบเทียบราคาล่าสุด
|
ยี่ห้อ |
ปริมาณ |
ราคา |
TRESemme |
180 ml. |
299 |
Dr.PONG |
55 ml. |
399 |
Khaokho |
280 ml. |
179 |
NIGAO |
500 ml. |
450 |
Lolane |
200 g. |
109 |
Dove |
180 ml. |
150 |
BIOWOMAN |
250 ml. |
155 |
Dcash |
500 ml. |
199 |
Reana |
– |
339 |
HOLY SHINE |
100 g. |
220 |
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แชมพูคนท้อง เลือกอย่างไร? คนท้องควรใช้แชมพูแบบไหนถึงจะดี?
ทรีทเม้นท์สำหรับผมทำสี และครีมนวดผม มีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันอย่างไร?
เคล็ดลับผมสวย! 8 วิธีสระผมที่ถูกต้อง บำรุงผมสวยสุขภาพดี ในแบบฉบับง่าย ๆ
สินค้าอื่น ๆ แนะนำโดย theAsianprent :
รวม 10 แชมพูออแกนิค อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ในงบหลักร้อย!
10 ยาย้อมผม ปี 2023 ที่มาแรงที่สุด ! ผมสวย ติดทน สีผมสุดปังต้อนรับปีใหม่ !
10 ครีมนวดผมแก้ผมร่วง ผมบาง สำหรับคุณแม่หลังคลอด ผมร่วงแค่ไหนก็เอาอยู่!
ที่มา : bestreview