โหระพา ถูกนำไปประกอบเมนูอาหารอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัดพริกแกงหมู ผัดบวบ หรือเมนูคลาสสิคอย่างไข่เจียว ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าโหระพานั้น มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่คิด วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
โหระพา คืออะไร มาจากไหน
โหระพาถือเป็นผักหรือสมุนไพรชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในตระกูลมินต์ มีรสชาติเผ็ดอ่อน ๆ และหวาน ซึ่งโหระพานี้ ก็อยู่คู่จานอาหารคนไทย อิตาลี เวียดนาม และลาวมาอย่างยาวมานาน โดยเพิ่มกลิ่นและรสชาติของอาหาร มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียและอิหร่าน และมีมานานถึง 5,000 ปี ทนต่อความหนาวได้ไม่ดีนัก เราจึงมักพบต้นโหระพา ได้ในประเทศเขตร้อนและเขตชื้น โดยมักขึ้นอยู่ตามริมถนน ริมป่า และทุ่งหญ้า
ใบโหระพานั้น มักถูกนำไปปรุงอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ เนื้อปลา หรือนำไปทำซอส น้ำซุป หรือน้ำสลัด ซึ่งโหระพา ถือเป็นส่วนผสมหลักที่ใช้ทำซอสอิตาเลียน และยังถูกนำไปใช้ทำยารักษาอาการต่าง ๆ ที่เกิดจากความผิดปกติของลำไส้ เช่น ท้องเสีย ท้องผูก มีแก๊สในลำไส้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังนำมารักษาอาการตะคริวได้อีกด้วย ซึ่งว่ากันว่า โหระพามีสารเคมีอยู่หลายชนิด ที่อาจช่วยในการกำจัดแบคทีเรียและเชื้อราในระบบทางเดินอาหาร
เมื่อต้องการซื้อใบโหระพา ควรเลือกซื้อใบที่ยังสด ไม่แห้ง มีสีเขียวเข้ม และไม่มีจุดสีเหลืองหรือสีดำปนอยู่ รวมทั้งควรเลือกซื้อโหระพาประเภทออร์แกนิก เพราะโหระพาประเภทนี้ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ซึ่งการฉายรังสีนั้น อาจทำให้โหระพามีวิตามินซีและแคโรทีนอยด์น้อยลง
บทความที่เกี่ยวข้อง : มะระ ผักรสชาติขม แต่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย
ประโยชน์ที่หาได้จากใบโหระพา
ใบโหระพา ประโยชน์โหระพาเป็นสมุนไพรที่เด็กและผู้ใหญ่รับประทานได้ และให้ประโยชน์ต่อร่างกาย และมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเด็ก ๆ เช่น
- แคลเซียม ช่วยเปลี่ยนอาหารให้อยู่ในรูปของพลังงาน ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ภายในร่างกายเด็ก และยังช่วยสร้างกระดูกและฟันของเด็กอีกด้วย
- วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและเหงือกของเด็กให้แข็งแรง ในช่วงที่ฟันกำลังขึ้น
- วิตามินเอ ช่วยในการมองเห็น และเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- แมงกานีส ช่วยสร้างกระดูก คาร์โบไฮเดรต และกรดอะมิโน
- โฟเลต ช่วยให้ระบบประสาทและสมองทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- ธาตุเหล็ก เป็นสารอาหารที่ช่วยสร้างฮีโมโกลบินในร่างกาย ซึ่งช่วยลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเลือดที่อยู่ตามร่างกายได้
- แมกนีเซียม ช่วยรักษาจังหวะการเต้นของหัวใจให้คงที่ และช่วยรักษากระดูกให้แข็งแรง
อย่างไรก็ตาม การรับประทานใบโหระพา ไม่เพียงแต่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเด็กเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพผู้ใหญ่อย่างเราได้ด้วย ดังนี้
- ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน โดยมีงานวิจัยบางชิ้น ชี้ให้เห็นว่า การดมน้ำมันหอมระเหยที่ผสมใบโหระพา ช่วยลดอาการปวดจากโรคไมเกรนได้
- ช่วยลดสิว โดยมีงานวิจัยชี้ว่า ผู้ที่ใช้เจลที่ผสมโหระพาเป็นเวลา 8 สัปดาห์นั้น มีสิวลดลง
- ช่วยลดอาการตื่นตระหนก ที่เกิดจากความผิดปกติทางจิต
- ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และป้องกันดีเอ็นเอในร่างกายไม่ให้ได้รับความเสียหาย
- มีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบคล้ายกับยาแอสไพริน
- รักษาอาการติดเชื้อที่ลำไส้ที่เกิดจากพยาธิ
- รักษาแผลจากแมลงกัดต่อย หรือแผลจากงูกัด
- เพิ่มความอยากอาหาร
- รักษาโรคที่เกี่ยวกับไต
- รักษาโรคหวัด
- รักษาอาการหูด
- แก้อาการท้องอืด และท้องร่วง
บทความที่เกี่ยวข้อง : เมนูผักแม่หลังคลอด สูตรอาหารเมนูผักสำหรับคุณแม่หลังคลอดพร้อมประโยชน์
ให้เด็กกินโหระพาอย่างไรดี
หากคุณแม่อยากให้น้อง ๆ ได้ประโยชน์จากใบโหระพา แนะนำให้หั่นหรือบดใบโหระพาเป็นชิ้นเล็ก ๆ และใส่ลงไปในน้ำซุป หรือซุปข้นของโปรดของเด็ก ๆ รวมทั้งอาจเติมพริกไทย กระเทียม หรือผักลงไปด้วยก็ได้ เพื่อให้อาหารน่าทาน และมีประโยชน์มากยิ่งขึ้น โดยอาจให้เด็ก ๆ เริ่มรับประทานเมื่อมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป และค่อย ๆ ปรับส่วนผสมของใบโหระพาในอาหารตามอายุเด็ก ดังนี้
- อายุ 6 เดือน ถึง 12 เดือน คุณแม่อาจให้น้องเริ่มรับประทานซอสที่ทำจากโหระพาก่อน โดยทาซอสลงไปบนแครกเกอร์ เค้กข้าว หรือขนมปังดูก่อน เพื่อทดสอบดูว่าเด็กแพ้โหระพาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม อาการแพ้ดังกล่าวเกิดได้ยาก
- อายุ 12 เดือน ถึง 18 เดือน สามารถให้เด็กเริ่มกินใบโหระพาสด ที่ผสมลงในอาหารอื่น ๆ เช่น ชีสริคอตต้า ชีสนมแพะ หรือสลัดมะเขือเทศ เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้ใบโหระพาติดคอเด็ก นอกจากนี้ อาจให้เด็กกินเมนูไก่ ปลา และพาสต้า ที่ผสมโหระพาด้วยก็ได้
- อายุ 18 เดือน ถึง 24 เดือน สามารถให้เด็กกินใบโหระพาสด ๆ ได้แล้ว เพราะเด็กเริ่มเคี้ยวอาหารเองได้ โดยคุณแม่อาจจะโรยใบโหระพาบนเมนูอาหารของน้อง ๆ ทีละนิด เพื่อให้น้อง ๆ ค่อย ๆ ชิม และคุ้นชินกับการทานใบโหระพาแบบสด ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลดอาการท้องอืดได้ด้วยแกงจืดโหระพา
ผลเสียจากการรับประทานใบโหระพา
การรับประทานใบโหระพาที่อยู่ในอาหารนั้น ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เพราะมีปริมาณไม่มาก แต่หากรับประทานยาสมุนไพรที่ทำจากใบโหระพา อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับได้ เนื่องจากใบโหระพา มีสารที่เรียกว่าเอสตราโกล ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้เกิดมะเร็ง นอกจากนี้ ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ไม่ควรรับประทานน้ำมัน หรือสารสกัดที่ได้จากใบโหระพา เพราะอาจทำให้เลือดเเข็งตัวช้า โดยให้งดรับประทานโหระพาเป็นเวลา 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับผ่าตัด ทั้งนี้ ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ ก็ไม่ควรรับประทานใบโหระพาด้วยเช่น เพราะอาจทำให้ความดันต่ำลงได้มากกว่าเดิมได้
หากมีโรคประจำตัว แต่ต้องการรับประทานใบโหระพาเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ ควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทาน เพราะใบโหระพา อาจทำให้อาการป่วยแย่ลง หรืออาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่หากไม่มีโรคประจำตัว หรือมีสุขภาพที่แข็งแรงดีอยู่แล้ว การรับประทานใบโหระพาในปริมาณที่พอเหมาะพอดี ก็สามารถให้ประโยชน์แก่ร่างกายได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : เมนูผักแม่ให้นม แม่ให้นมต้องกินอะไรบ้าง เมนูอาหารสุดอร่อย
ที่มา : Webmd, Kids.kiddle , Babyfoode , Solidstarts , Kids.britannica