ลูกนอนกรน ลูกนอนหายใจแรง ควรพาไปหาหมอหรือไม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พญ.อุมาพร พนมธรรม แพทย์โสต ศอ นาสิก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กล่าวถึงการที่ลูกนอนกรน หรือ ลูกนอนหายใจแรง ว่ามีสาเหตุหลัก ๆ มาจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจ ทำให้ลมหายใจเข้าไปได้ยาก ร่างกายจึงพยายามที่จะสร้างแรงเยอะ ๆ เพื่อให้ลมผ่านเข้าไปได้ ก็เลยเกิดเป็นเสียงผิดปกติ เรียกว่า การนอนกรน หายใจแรงเกิดจากอะไร เรามีคำตอบ

 

สาเหตุที่ทำให้ ลูกนอนหายใจแรง หรือกรน เกิดจากอะไร ?

สาเหตุของหายใจติดขัดเวลานอน หรือการกรนขณะนอนหลับ เกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ เช่น

  • ความผิดปกติของสรีระใบหน้า หรือมีโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของสรีระใบหน้า เช่น มีความผิดปกติของพันธุกรรม หรือโครโมโซมแต่กำเนิด อาทิ กลุ่มดาวน์ซินโดรม จะมีใบหน้าที่ผิดปกติ ลิ้นผิดระยะ ส่งผลให้ทางเข้าของลมหายใจมีน้อย สรีระใบหน้าที่ผิดปกติโดยกรามมีขนาดเล็ก หรือกรามหดเข้าไปข้างใน ทำให้ช่องทางเดินหายใจเล็กลง
  • ต่อมน้ำเหลืองรอบทางเดินหายใจ มีขนาดใหญ่ เช่น ต่อมทอนซิล ต่อมอะดีนอยด์โตผิดปกติ ส่งผลให้บดบังช่องทางเดินหายใจ เกิดเป็นเสียงกรน
  • โพรงจมูกถูกอุดกั้น สาเหตุจากภูมิแพ้ หรือน้ำมูกในจมูก โดยอาการภูมิแพ้ อาจทำให้โพรงจมูกถูกอุดกั้น ทำให้หายใจลำบาก หรือลูกอาจจะมีน้ำมูกอุดตันในรูจมูก ทำให้ช่องทางเดินหายใจถูกปิด

ลักษณะของการนอนกรน ลูกนอนหายใจเสียงดัง

ลักษณะของการนอนกรน ทารกนอนหายใจแรง จะมีทั้งแบบที่เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ และนอนกรนเฉย ๆ ไม่เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งถ้าเป็นการนอนกรนเฉย ๆ ไม่ต้องรักษา เพราะว่ากลุ่มนี้จะไม่มีการทำให้สารเคมีในเลือดผิดปกติ แต่ถ้าเป็นการนอนกรนอีกแบบที่มีการอุดกั้นทางเดินหายใจ อันนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรักษา

การนอนกรนเฉย ๆ ไม่ได้เกิดจากการอุดกั้นทางเดินหายใจนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจลองจัดห้องนอนลูก ให้มีอาการถ่ายเท ปราศจากฝุ่น ไร หรือเกสรดอกไม้ ที่อาจทำให้ลูกมีอาการแพ้ และหายใจลำบาก จัดห้องนอนให้มืด น่านอน เงียบสงบ หากมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ให้อยู่ห่างจากห้องนอนของลูก

ปรับเปลี่ยนท่านอนของลูก ยกตัวอย่างเช่น การนอนตะแคงข้าง วางหมอน หรือผ้าซ้อนกันประมาณ 3 – 4 นิ้ว เพื่อให้ศีรษะของลูกยกสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะนอนหลับ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

การนอนกรนที่เกิดจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ

ทารกนอนหายใจเสียงดังการนอนกรนที่เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจนั้น เป็นอันตราย เพราะอาจส่งผลให้ลูกมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โดยจะมักจะเกิดขึ้นตอนอายุ 3 – 6 ปี เด็กบางคนมีการกรน ทานอาหารได้น้อย น้ำหนักต่ำ อาจจะมีความเสี่ยงที่เกี่ยวกับปาก ช่องคอ ปอด หรือหัวใจได้ คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสั่งเกตวิธีการหายใจของลูก ว่าลูกหายใจแรงหรือไม่ หายใจหอบถี่ หรือหายใจทางปาก แล้วรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อวินิจฉัยต่อไป

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สังเกตการหายใจของลูก

คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตดูการหายใจของลูก เช่น

  • ลูกนอนอ้าปาก และมีการหายใจทางปาก เพราะอากาศไม่สามารถผ่านเข้าทางจมูกได้เพียงพอหรือเปล่า
  • ลูกหายใจกระสับกระส่าย เหมือนนอนหลับไม่สนิท สาเหตุของการนอนกระสับกระส่าย อาจเกิดจากการที่อากาศเข้าสู่ร่างกายได้น้อย ทำให้ออกซิเจนในเลือดลดลง คาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้น เลือดเป็นกรด ระบบสารเคมีในร่างกายผิดปกติ จึงเกิดการกระตุ้นให้ร่างกายตื่น จึงทำให้รู้สึกเหมือนแทบไม่ได้นอน
  • ลูกมีเหงื่อออกมาก เนื่องจากการหายใจลำบากทำให้รู้สึกเหนื่อย เด็กบางคนจะปัสสาวะรดที่นอนเป็นประจำในช่วงกลางคืน
  • เมื่อหายใจเข้าหน้าอกยุบ แต่ท้องป่อง ซึ่งถือว่าผิดปกติ เพราะปกติเวลาคนเราหายใจเข้าแล้ว หน้าอกต้องขยาย แต่ท้องยุบ ส่วนช่วงกลางวัน เด็กมักอ้าปากหายใจ ทำให้เหนื่อยง่าย เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง บางครั้งนั่งง่วง เหมือนไม่สดชื่น เด็กบางคนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ก้าวร้าว บางคนเหมือนเลี้ยงไม่โต ผอมแห้ง มักจะปวดศีรษะในตอนเช้า เพราะเหมือนไม่ได้หลับทั้งคืน

 

ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

เด็กที่มีภาวะการกรนรุนแรง อาจมีการหายใจผิดปกติ SDB (sleep disordered breathing) และหยุดหายใจชั่วคราวขณะนอนหลับ OSA (obstructive sleep apnea) ได้ ซึ่งเกิดจากการที่ช่องทางเดินหายใจถูกอุดกั้น การที่ลูกหายใจเอาลมเข้าไป แต่ลมนั้นกลับไม่สามารถผ่านเข้าไปทางช่องคอได้ จึงทำให้เกิดเสียงกรนหยาบ ๆ

ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับนี้ อาจเกิดขึ้นประมาณ 10 วินาที โดยส่วนมาก เด็กอาจจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาหายใจได้ แต่จะทำให้ลูกไม่ได้พักผ่อนอย่างเหมาะสม และเป็นอันตรายกับลูก และมักพบในกลุ่มอาการดาวน์ (Down’s syndrome) และกลุ่มความผิดปกติแต่กำเนิดที่มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท หรือลักษณะโครงสร้างของใบหน้า

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น เชื้อชาติแอฟริกันอเมริกัน โรคอ้วน คลอดก่อนกำหนด และมีสมาชิกในครอบครัวที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และอาการคัดจมูก อาจเป็นสาเหตุของการนอนกรน แต่มักไม่ค่อยเป็นสาเหตุหลักของการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมื่อไหร่ที่ควรพาลูกไปตรวจ ?

คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยว่า ลูกมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นหรือไม่ โดยผู้เชี่ยวชาญอาจแนะนำให้ตรวจการนอนหลับ (polysomnography) ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยบอกได้ว่ามีภาวะหยุดหายใจ หรือเป็นเพียงการนอนกรนธรรมดา

การตรวจการนอนหลับ เป็นการตรวจในช่วงกลางคืน ขณะที่ผู้ป่วยหลับ จะมีการติดอุปกรณ์ไปบนศีรษะ และลำตัวผู้ป่วย เพื่อติดตามดูลักษณะการนอนหลับตลอดทั้งคืน โดยตรวจจากลักษณะของคลื่นสมอง การเคลื่อนไหวของแขนขา การทำงานของกล้ามเนื้อ การทำงานของหัวใจ และการหายใจ การตรวจนี้ ไม่ทำให้เกิดอันตราย และไม่ทำให้ลูกรู้สึกเจ็บ โดยในระหว่างการตรวจผู้ปกครอง ควรจะอยู่กับเด็กตลอดทั้งคืน

การตรวจการนอนหลับ นอกจากจะบอกว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นหรือไม่ ยังช่วยบอกความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจนี้ได้อีกด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคจากการนอนหลับ จึงจะพิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้

 

การรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น

1. การผ่าตัด

ผู้ป่วยเด็กส่วนมากจะมีต่อมทอนซิล และต่อมอะดีนอยด์โตซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นในเด็ก โดยแพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัด เพื่อเอาต่อมทอนซิล และต่อมอะดีนอยด์ออก (Adenotonsillectomy) สำหรับการผ่าตัดแบบอื่น อาจแนะนำในผู้ป่วยที่เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างศีรษะ และใบหน้า

บางครั้งการผ่าตัดสามารถทำให้หยุดนอนกรนได้ แต่อาจไม่หายขาดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น การตรวจการนอนหลับหลังการผ่าตัด ก็อาจยังจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น ยังมีอยู่หรือไม่

 

2. การรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศชนิดแรงดันบวกชนิดต่อเนื่อง(Continuous Positive Airway Pressure: CPAP)

เครื่อง CPAP นี้ เป็นหน้ากากอันเล็กครอบบริเวณจมูกในระหว่างการนอนหลับ หน้ากากนี้จะให้แรงดันอากาศ เพื่อประคับประคองไม่ให้ทางเดินหายใจส่วนบนปิดในขณะหลับ การรักษาวิธีนี้จะมีประโยชน์ในผู้ป่วยเด็กที่รักษาโดยการผ่าตัดไม่ได้ หรือ เมื่อรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดแล้วไม่หาย

 

3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็ก

เช่น ในเด็กที่มีโรคอ้วน ผู้เชี่ยวชาญอาจแนะนำให้ลดน้ำหนัก โดยการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ถึงแม้จะรักษาด้วยวิธีอื่น แต่การลดน้ำหนักในผู้ป่วยเด็กที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ควรเป็นเป้าหมายระยะยาวในการรักษา

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ และ คณะแพทย์ศูนย์นิทราเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

บทความที่น่าสนใจ

ลูกนอนกรนเพราะภูมิแพ้ แก้ง่ายๆ ถ้ารู้สาเหตุว่าลูกแพ้อะไร

ทารกนอนกรน หายใจแรง น่าเป็นห่วงมั้ย?

ลูกนอนดึก เสี่ยงเป็น โรคอ้วนในเด็ก ภัยเงียบจากการนอนดึก