หนึ่งในอาการที่ควรระวังเมื่อมีลูกรัก นั่นคืออาการ เลือดออกใต้ผิวหนังทารก เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้มีอาการดังกล่าวนั้นมีความกว้างอย่างมาก อาจไม่สามารถตัดสินที่มาของอาการได้จากการคาดเดา และด้วยความเสี่ยงต่อโรคร้ายนั้น อาการนี้จึงเป็นหนึ่งในอาการที่ผู้ปกครองควรเฝ้าระวังมากที่สุดเช่นกัน
เลือดออกใต้ผิวหนังทารก คืออะไร ?
หากพบว่าทารกมีอาการเลือดออกใต้ผิวหนัง มีจุดแดงใต้ผิวหนัง ไม่ว่าอาการนี้จะเกิดขึ้นตอนไหน ผู้ปกครองไม่ควรนิ่งนอนใจ เนื่องจากอาการนี้มีปัจจัยที่เกิดขึ้นได้หลายปัจจัย โดยเฉพาะสัญญาณความผิดปกติของร่างกายทารกกับโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของระบบภูมิคุ้มกัน, ปัญหาของระบบไหลเวียนเลือด, เกล็ดเลือดต่ำ ไปจนถึงอาการของโรคไข้เลือดออก ที่เป็นโรคอันตรายต่อทารก ดังนั้นหากลูกมีอาการนี้ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ก่อน เพื่อรับการวินิจฉัยที่มาของอาการอย่างชัดเจน และรับคำแนะนำในการดูแลรักษาทารกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการไข้เลือดออกในทารก ลูกเป็นไข้เลือดออก แม่จะรู้ได้อย่างไร สังเกตยังไง
วิดีโอจาก : Synphaet Seriruk Hospital
จุดเลือดจุดแดงแบบนี้เกิดขึ้นบนส่วนใดของทารก ?
เนื่องจากเป็นอาการโดยหลักมาจากโรคบางโรค หากไม่ใช่อุบัติเหตุใด ๆ จุดแดงนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกายทารก แต่จุดที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากที่สุด คือ แขน, ขา, ก้น, หน้าท้อง และบริเวณปาก เป็นต้น ดังนั้นหากเป็นไปได้ ผู้ปกครองควรหมั่นตรวจสอบร่างกายของลูกรักทุกวัน เพื่อหาความผิดปกติของผิวหนัง และยังควรสังเกตอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับทารกอีกด้วย หากพบความผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ ให้ปรึกษาแพทย์ทันที เพราะร่างกายของทารกที่ไม่แข็งแรง จะได้รับผลกระทบต่อโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้รุนแรงกว่าผู้ใหญ่อย่างเรา
สาเหตุของ จุดแดงใต้ผิวหนัง
ปัจจัยที่ทำให้ทารกมีอาการจุดแดง จุดเลือดปรากฏขึ้นมาบนผิวหนังมีด้วยกันหลากหลายปัจจัย ส่วนมากจะมาจากความผิดปกติของร่างกาย หรือสัญญาณของโรคบางโรค แต่ถ้าหากทารกได้รับการกระแทก หรืออุบัติเหตุใด ๆ มา ก็ทำให้มีอาการนี้ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้
- เกิดจากอาการบาดเจ็บ : กรณีทั่วไปเกิดได้จากการกระแทก หรือเกิดการอุบัติเหตุใด ๆ ที่ทำให้เส้นเลือดฝอยภายใต้ผิวหนังได้รับความเสียหายจนแตกออกมา ทำให้มองเห็นว่ามีจุดแดง เหมือนมีเลือดเกิดขึ้นในผิวหนังจนสามารถสังเกตได้ชัดเจน
- เกิดจากการติดเชื้อ : กรณีที่ร่างกายได้รับเชื้อต่าง ๆ บางเชื้อ สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังได้ เช่น ไข้รากสาดใหญ่, ไวรัสฮันตา (Hantavirus) หรือไซโตเมกาโลไวรัส (Cytomegalovirus หรือ CMV) เป็นต้น นอกจากจะเกิดจุดแดงในผิวหนัง ยังเกิดอาการอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น มีไข้, ปวดตามร่างกาย และมีอาการเหนื่อยล้า เป็นต้น
- โรคไข้เลือดออก : เมื่อเป็นโรคนี้จะทำให้เกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ ทำให้เลือดแข็งตัวได้ยากกว่า ด้วยโรคนี้เป็นโรคที่มีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก จึงควรหมั่นสังเกตอาการร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น มีไข้, อ่อนแรง และมีอาการฟกช้ำตามร่างกาย
- สัญญาณของโรคร้ายต่าง ๆ : ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากอาการของภาวะเกล็ดเลือดต่ำ, การที่ร่างกายขาดวิตามิน C, โรคหลอดเลือดอักเสบ (Vasculitis), ความผิดปกติของเลือด และระบบภูมิคุ้มกัน, เยื่อบุหัวใจอักเสบ และมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น ดังนั้นหากทารกมีอาการจุดแดง จุดเลือด ควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ
อาการจุดเลือดในผิวหนังแบบไหนต้องรีบพบแพทย์
เมื่อพบว่าผิวของลูกมีเลือดออกก็ต้องรีบพาไปพบแพทย์แล้ว แต่ยังมีอาการร่วมที่น่าเป็นห่วงมากเช่นกัน หากมีอาการเหล่านี้ถือว่าอันตรายต่อทารกมากขึ้นไปอีก ดังนี้
- ทารกร้องมาก งอแงอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งอาจเกิดจากอาการเจ็บปวดตามร่างกายร่วมด้วย แต่ไม่สามารถบอกสื่อสารได้ตรง ๆ
- จุดเลือดมีขนาดใหญ่ และกว้างมาก ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุใด ๆ หรือเป็นเพราะความเสี่ยงโรคร้ายก็ตาม
- ผิวหนังใกล้ ๆ กับบริเวณที่มีเลือดใต้ผิวหนังผิดปกติ เช่น มีลักษณะเป็นก้อนนูนขึ้นมา หรือลักษณะของผิวบริเวณนั้นมีสีคล้ำขึ้น เป็นต้น
- ร่างกายของทารกมีอาการบวมปรากฏขึ้น โดยบริเวณที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากที่สุด คือ ปลายนิ้วมือ และปลายนิ้วเท้า
- นอกจากจะมีอาการเลือดออกใต้ผิวหนังแล้ว ยังมีอาการเลือดออกบริเวณอื่นตามมาด้วย เช่น เหงือก และจมูก นอกจากนี้อาจมีเลือดออกมาจากการปัสสาวะ หรือจากอุจจาระได้ด้วย
จะรักษาจุดเลือด จุดแดงได้อย่างไร ?
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีอาการผิดปกติ โดยเฉพาะอาการจุดแดง หรืออาการข้อเลือดตามผิวหนังก็ตาม ไม่ควรหายามารักษาด้วยตนเอง ไม่ควรสอบถามคนรู้จัก หรือญาติแล้วทำตามวิธีใด ๆ ทั้งนั้น ควรพาทารกรีบไปสถานพยาบาลที่ใกล้เคียงที่สุด ให้เร็วที่สุด เนื่องจากหากเป็นอาการของโรคไข้เลือดออก ยิ่งปล่อยทิ้งไว้ โอกาสที่จะรักษาให้ปลอดภัยจะยิ่งลดลงไปตามเวลาด้วย
ส่วนสาเหตุที่เราไม่แนะนำให้หายามาทานเอง เป็นเพราะร่างกายของทารกไม่ได้แข็งแรงเหมือนกับผู้ใหญ่ หากรับยาที่เกิดผลข้างเคียงใด ๆ จะเกิดผลกระทบที่ผู้ปกครองอาจรับมือได้ไม่ถูกต้อง การนำทารกเข้าไปอยู่ในการดูแลของแพทย์ เป็นตัวเลือกที่ดี และปลอดภัยมากที่สุดแล้ว
อาการผิดปกติใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับทารก ไม่ใช่แค่เลือดในผิวหนังเท่านั้น เพียงแค่ทารกร้องไห้มาก ร้องไม่หยุด ผู้ปกครองก็ควรต้องเป็นห่วงแล้ว เพราะการร้องไห้ไม่หยุด ร้องมาก ๆ ของทารก อาจเป็นการสื่อสารเดียวที่ทารกกำลังบอกเราว่า ทารกมีอาการผิดปกติในร่างกาย หรือกำลังเจ็บป่วยอยู่นั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรคที่เกิดขึ้นในวัยทารก โรคยอดฮิตในหมู่เด็กมีอะไรบ้าง พ่อแม่จะรู้ได้ไงว่าลูกป่วย
ลูกตัวเหลือง ทารกตาเหลือง แบบไหนเรียกว่ารุนแรง พร้อมวิธีสังเกตและการรักษา
ลูกร้องไห้ไม่หยุด ลูกร้องแบบนี้บอกอะไร พ่อแม่ต้องทำยังไง ?
ที่มา : hellokhunmor, Webmd
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!