เมื่อทารกแรกเกิดอาจไม่ได้มีแค่ความน่ารักอย่างเดียว ผู้ปกครองควรสังเกตหาอาการผิดปกติอย่างอื่นด้วย โดยหนึ่งในกลุ่มอาการที่ต้องคอยสังเกต คือ อาการทารกเท้าคด ที่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย หลายอาการอาจหายได้เอง ในขณะที่บางอาการสามารถรุนแรงขึ้น จนถึงขั้นต้องใช้การรักษาด้วยการผ่าตัด
สาเหตุที่ทำให้ทารกมีเท้าผิดรูป
สำหรับกลุ่มอาการเท้าผิดรูปของทารกนั้นมีหลายอาการมาก และมีสาเหตุในการเกิดแตกต่างกันไป ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ต้องขึ้นอยู่กับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เท่านั้น แต่โดยทั่วไปแล้ว สามารถยกตัวอย่างปัจจัยที่ทำให้ทารกมีเท้าผิดรูปได้บ้าง เช่น จากพันธุกรรม, จากกระดูกผิดรูป, ระบบประสาท และสมองผิดปกติ หรือเกิดจากภาวะผิดปกติต่าง ๆ ในระหว่างตั้งครรภ์ เป็นต้น
ด้วยปัจจัยที่รุนแรงมากน้อยไม่เท่ากัน เมื่อพบว่าทารกมีเท้าผิดรูป ดังนั้นอาจไม่ใช่กลุ่มอาการเล็กน้อยเสมอไป ผู้ปกครองจึงควรพาทารกไปพบแพทย์ทันทีจะดีที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : เท้าแบน ลูกเราเท้าแบนหรือเปล่า ลูกเท้าแบนต้องพาไปหาหมอไหม
6 อาการทารกเท้าคด เท้าผิดรูป และวิธีการรักษา
ลักษณะของเท้าผิดรูปเป็นสิ่งที่พบได้ในทารกโดยทั่วไป ปกติแล้วอาการส่วนมากที่ไม่ได้หนัก จะหายไปได้เอง หากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามยังมีบางกลุ่มอาการที่สามารถหายได้ จากการรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น โดยอาการผิดปกติของนิ้วเท้า หรือเท้าผิดรูปโดยทั่วไป ที่พบได้บ่อย มีดังนี้
1. นิ้วเท้าเก เท้าเอียง
อาการที่สังเกตได้ คือ นิ้วจะเก และงุ้ม พบได้ในช่วงแรกเกิด แต่โดยทั่วไป อาการจะค่อย ๆ น้อยลงเมื่อทารกโตขึ้น โดยแทบจะไม่ได้ส่งผลเสียใด ๆ เลย อาการนี้มักมาจากพันธุกรรม หากผู้ปกครองมีอาการนี้ ทารกก็อาจได้รับผลกระทบด้วย โดยทั่วไปทารกที่มีอาการนิ้วเท้าเก มักจะใช้ชีวิตได้ตามปกติในตอนโต อย่างไรก็ตามบางคนอาจมีปัญหาในการเดิน ซึ่งพบได้น้อย และสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด
2. นิ้วเท้าเกิน หรือน้อยกว่าปกติ
โดยทั่วไปแล้วนิ้วเท้าจะมี 5 นิ้ว แต่ทารกบางคนเกิดมาอาจมีมาก หรือน้อยกว่านั้น หากมีน้อยกว่าปกติ เช่น มี 4 นิ้วจะไม่ค่อยส่งผลอะไรมาก แต่ที่เป็นปัญหาคือ การมีมากกว่า 5 นิ้ว เพราะจะทำให้นิ้วเบียดเวลาใส่รองเท้า สามารถแก้ได้ด้วยการเลือกรองเท้าหัวกว้าง ๆ อย่างไรก็ตามกรณีนิ้วเท้าเกิน สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเช่นกัน
3. โรคเท้าโค้ง
อาการสังเกตจากส่วนครึ่งหน้าของเท้าโค้งเข้า หากมีอาการไม่หนักมากจะสามารถดัดให้ตรงได้ และอาการจะดีขึ้นช่วงทารกอายุ 6 – 12 เดือน โดยไม่ได้มีผลกระทบใด ๆ ตามมา แต่สำหรับทารกบางคนที่มีอาการหนักจะไม่สามารถดัดเท้าให้ตรงได้ ผู้ปกครองควรพาทารกไปพบแพทย์ ซึ่งโดยส่วนมากหากทำการรักษาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ จะเป็นการเข้าเฝือก หากปล่อยเอาไว้นานยิ่งโตมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่จะต้องผ่าตัดก็จะมากขึ้นด้วย
4. นิ้วเท้าติดกัน
เป็นปัญหาเมื่อนิ้วเท้าของทารกอยู่ชิดติดกันไม่สามารถแยกออกจากกันได้ แม้จะดูเหมือนไม่มีปัญหา หรือผลกระทบอะไรมาก แต่ก็ไม่ควรปล่อยไว้ หากมีร่องเล็ก ๆ ระหว่างนิ้วเท้า จะทำให้เสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อโรคได้ เพราะจะทำความสะอาดได้ยาก อาการนิ้วเท้าติดกันนี้ สามารถรักษาได้ด้วยการปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการผ่าตัดแยกนิ้วเท้าออกจากกัน
5. เท้ากระดก บิดออกข้าง
อาการโดยทั่วไปสังเกตจากลักษณะของหลังเท้าจะวางแนบไปกับกระดูกบริเวณหน้าแข้ง พบได้มากในทารกที่เป็นครรภ์แรกของคุณแม่ มีการสันนิษฐานว่าการที่ทารกครรภ์แรกมีอาการแบบนี้ เพราะในมดลูกของคุณแม่ไม่เคยขยายตัวมาก่อน ไม่เคยมีทารกในครรภ์มาก่อน ทำให้มดลูกไม่สามารถขยายได้เท่าที่ควร ส่งผลให้ทารกที่อยู่ในครรภ์ที่เริ่มโตขึ้น จะพยายามใช้เท้าดันมดลูกจนทำให้มีอาการเท้ากระดกตามมานั่นเอง อาการเหล่านี้อาจดูน่าตกใจ แต่สามารถหายได้เองเมื่อทารกมีอายุ 1 – 2 เดือน หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำในการรักษา
6. เท้าบิดเข้าใน
เกิดจากความผิดปกติขิงกระดูก ซึ่งต้องรับการตรวจจากแพทย์เพื่อหาจุดกระดูกที่ทำให้เกิดอาการนี้ อาการเท้าบิดเข้าด้านในจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน และมักพบในเด็กอายุ 2 – 4 ปี แม้เท้าจะผิดรูป แต่ลูกน้อยจะไม่ได้มีอาการเจ็บปวดใด ๆ แต่การเดินจะไม่เหมือนกับคนทั่วไป ส่วนมากแล้วอาการนี้สามารถหายได้เอง โดยให้แพทย์แนะนำการดูแลระหว่างนั้นได้ แต่หากทำการรักษาดูแลไปช่วงที่ลูกอายุ 7 -8 ปีแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจเป็นกลุ่มอาการรุนแรงที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด
นอกจากกลุ่มอาการที่เราได้กล่าวมานั้น ยังมีโรคต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อรูปเท้าด้วย เช่น โรคเท้าปุก ที่เท้าจะผิดรูปค่อนข้างรุนแรง และต้องรีบรักษา เพราะอาการอาจรุนแรงมากขึ้นจนทำให้ทารกเดินไม่ได้ การสังเกตอาการ และลักษณะของเท้า และนิ้วเท้าของทารกแรกเกิดเป็นประจำ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากพบความผิดปกติ ก็ควรรีบพบแพทย์ทันที
วิดีโอจาก : Thai PBS
กลุ่มอาการเท้าผิดรูปอาจสัมพันธ์กับระบบประสาทได้
หนึ่งในสาเหตุของการเกิดความผิดปกติของเท้า ส่วนหนึ่งอาจมาจากการทำงานของระบบประสาท และสมองที่เกิดความผิดพลาด ซึ่งนับว่าอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะโรคสมองพิการ ที่พบได้บ่อยในทารกที่คลอดก่อนกำหนด หรือทารกที่คลอดยาก โดยจะทำให้เท้ามีลักษณะเหมือนเขย่ง พัฒนาการเดินช้า พร้อมกับอาการด้านอื่น ๆ เช่น ตัวเกร็ง หรือชัก เป็นต้น หากพบอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาเกี่ยวกับระบบประสาท และสมองเป็นอันดับแรก เพราะส่วนของเท้าที่ผิดรูป สามารถตามรักษาให้หายได้ในภายหลัง
การรักษากลุ่มอาการเท้าผิดรูปในทารกนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ปกครองควรทำตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ เพราะสามารถทำได้ง่ายกว่าการไปรักษาในตอนโต ที่กระดูกมีความแข็งแรง และคงรูปชัดเจนไปแล้ว แม้ว่าจะมีกลุ่มอาการที่สามารถหายได้เอง แต่ผู้ปกครองไม่ควรลืมว่ายังมีอาการที่เกิดจากประสาท และสมอง หรือกระดูกผิดปกติ ที่ควรต้องได้รับการตรวจ และรับคำแนะนำในการรักษาทันที
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ทารกแรกเกิดตาแดง สังเกตอาการอย่างไร อันตรายมาก รับมืออย่างไร ?
สิ่งของอันตรายที่ต้อง เก็บให้พ้นมือเด็ก ป้องกันลูกหยิบของเข้าปาก
วิธีดูแลจมูกทารกแรกเกิด ลูกงอแง อาจเกิดจากรูจมูกอุดตัน
ที่มา : bangkokinternationalhospital, phyathai