สิ่งที่คุณแม่ควรรู้? เมื่อให้ ลูกกินไข่เค็ม มากเกินไป จะเป็นอันตรายไหม

-

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สิ่งที่คุณแม่ควรรู้เมื่อให้ ลูกกินไข่เค็ม มากเกินไป จะเป็นอันตรายไหม ปัจจุบันไข่เค็มเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม อีกทั้งยังสามารถเอาไปทำเป็นอาหารก็ได้ หรือทำเป็นของหวานก็ดี ซึ่งไม่แปลกที่แม่ ๆ หลายคนจะชอบและอยากจะนำไข่เค็มมาประกอบเป็นเมนูอาหารให้ลูกได้กินบ้าง ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่า ลูกกินไข่เค็ม ได้ไหม หรือถ้ากินแล้วจะเป็นอย่างไร มาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

 

"ไข่เค็ม" ทำมาจาก

 

(รูปโดย geyonk จาก Pexels)

 

“ไข่เค็ม” เป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่ได้ผลิตภัณฑ์มาจากไข่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือเป็นการถนอมอาหารของไข่ที่จะช่วยยืดเวลาของไข่ให้เก็บไว้กินได้เป็นเวลานานนั่นเอง โดยการถนอมอาหารนี้จะใช้เกลือเป็นตัวช่วยในการดองไข่ ซึ่งใหญ่ที่นิยมนำมาทำนั้นส่วนมากจะเป็นไข่เป็ด ไข่เค็ม รวมถึงไข่นกกระทา ก็สามารถนำมาทำเป็นไข่เค็มได้เหมือนกัน ซึ่งวิธีการทำไข่เค็มนั้น แต่ละวิธีจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไป แบ่งออกได้ดังนี้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิธีการทำไข่เค็ม

 

(รูปโดย Mat Brown จาก Pexels)

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. ดองด้วยน้ำเกลือ

มากันที่วิธีแรกนั้นคือการทำไข่เค็มที่ดองด้วยน้ำเกลือ เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมทำตามกันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นขั้นตอนที่ง่ายและทำตามได้ไม่ยาก โดยการทำนั้นเราจะนำเกลือมาทำเป็นสารละลายให้ได้ความเข้มข้นประมาณ 30-35% ซึ่งตอนที่เราวางไข่ลงไปเราจะต้องภาชนะอะไรก็ได้ที่สามารถวางทับไข่ให้จมเกลือได้ แต่วิธีนี้ค่อนข้างที่จะใช้เวลาในการดองนานเพราะน้ำเกลือซึมผ่านเปลือกได้ยาก ส่วนอีกหนึ่งกรณีคือเราอาจจะเติมเหล้าขาวลงไปเพื่อที่จะทำให้เกลือซึมผ่านเปลือกไข่ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้ไข่แดงของไข่ที่เราดองนั้นมีความมันและเยิ้มมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากให้ไข่เค็มมีความอร่อยและมันมากขึ้นก็สามารถเลือกวิธีการดองได้ตามความชอบ

 

2. ดองแบบแห้ง

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ เช่นกัน โดยวิธีนี้จะเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาดองไม่นานมาก แถมขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากอีกด้วย ซึ่งขั้นตอนการทำนั้นเราจะนำเกลือมาฟอกที่บริเวณให้ทั่ว เพื่อที่จะให้ความเค็มของเกลือซึมเข้าไปในตัวไข่ ซึ่งการที่จะทำให้ไข่เค็มได้นั้นเราจะใช้หลักการเดียวกันกับการพอกดิน นั่นคือหลักการที่เรียกว่า หลักการออสโมซิส ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีที่จะทำให้ความเค็มของเกลือเข้าไปในไข่ได้โดยตรง เท่านั้นยังไม่พอวิธีนี้วยังทำให้ไข่มีความเค็มมากว่าการพอกแบบอื่นอีกด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. ดองแบบพอกดิน

มากันอีกหนึ่งวิธีกันบ้าง วิธีนี้จะเป็นการดองไข่ที่พอกด้วยดิน เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่สืบทอดกันมาจากคนรุ่นหลัง โดยขั้นตอนการทำนั้นเราจะใช้ดินที่ได้จากจอมปลวกมาทำ เพราะดินเหล่านี้จะมีเนื้อที่ละเอียดและมีความเหนียว ซึ่งเหมาะแก่การนำมาดองไข่เค็มเป็นอย่างมาก มาที่ขั้นตอนการทำกันบ้าง สิ่งแรกที่ทำเลยคือเราจะต้องล้างไข่ให้สะอาดก่อนที่จะนำมาดอง เมื่อล้างเสร็จเราก็จะนำดินมาผสมให้เข้าด้วยกันกับเกลือและน้ำอุ่น จากนั้นเราก็จะเอาไข่ไปจุ่มลงในดินแล้วพอกให้ทั่ว ซึ่งดินที่เราพอกนั้นจะต้องมีความหนาที่พอประมาณ ไม่ควรบางหรือหนาจนเกินไป ขั้นตอนต่อไปเราก็จะนำไข่ไปคลุกกับขี้เถ้าแกลบ เพื่อที่ความเค็มที่อยู่ในดินจะซึมเข้าสู่ไข่ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้ไข่ที่เราดองนั้นไม่ติดกันนั่นเอง

 

อุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ มากมาย

 

(รูปจาก pantip.com)

 

  • ทองแดง 0.5 มิลลิกรัม
  • สังกะสี 3.5 มิลลิกรัม
  • คลอไรด์ 2920 มิลลิกรัม
  • โซเดียม 1690 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 800 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 99 มิลลิกรัม
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัว 2.7 กรัม
  • โคเลสเตอรอล 890 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 13 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 270 มิลลิกรัม
  • โปรตีน 14.6 กรัม
  • ไขมัน 15.5 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต มีน้อย
  • พลังงาน 198.0 แคลลอรี่
  • กรดไขมันอิ่มตัว 3.8 กรัม
  • เหล็ก 3.2 มิลลิกรัม
  • แมงกานีส 0.1 มิลลิกรัม

 

อุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ มากมาย

  • วิตามินบีสอง 3.5 มิลลิกรัม
  • ไรโบเฟลวิน 0.52 มิลลิกรัม
  • เรตินอล 85 ไมโครกรัม
  • ไนอะซีน 0.10
  • ไธอะมีน 0.16 มิลลิกรัม

 

“กินไข่เค็ม” แล้วดีอย่างไร?

 

(รูปจาก freepik.com)

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • ไข่เค็มนอกจากจะให้ความอร่อยแล้ว หารู้ไม่ว่าไข่เค็มยังสามารถช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมให้กับคุณแม่อย่างเรา ๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นเวลาที่เรากินไข่เค็มควรที่จะกินในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ควรกินบริเวณที่มันเค็มจนเกินไป

 

  • สำหรับใครที่ชอบกินไข่เค็มเป็นประจำแต่ก็ยังไม่รู้ว่าไข่เค็มนั้นมีประโยชน์อย่างไร บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะในตัวของไข่เค็มจะสารอาหารสำคัญที่จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามิน ที่จะช่วยเราในเรื่องของการบำรุงสมองและระบบประสาทให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยสารอาหารนี้มีชื่อว่า “โคลีน” นั่นเอง

 

  • เท่านั้นยังไม่พอไข่เค็มยังอุดมไปด้วยวิตามินและโปรตีน ที่ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายเรามีการเจริญเติบโตที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้อย่างสมวัยอีกด้วย ซึ่งอาจจะเหมาะสำหรับคุณแม่คนไหนที่อยากให้ลูกมีการเจริญเติบโตที่ดีและสมวัยเราก็อาจจะให้ลูกกินไข่เค็มได้ แต่อาจจะให้กินในปริมาณที่ไม่มากนักและไม่ให้กินบ่อยจนเกินไป

 

เมนูไข่เค็มที่ทำตามกันได้ง่าย

นอกจากคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ไข่เค็มยังถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายสุด ๆ ยกตัวอย่างได้ดังนี้

 

1. ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

 

(รูปจาก sistacafe.com)

 

เชื่อว่าหลายคนคงเคยคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับอาหารเมนูนี้ บอกเลยว่าถ้าใครได้ลองเป็นต้องติดใจกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลาหมึกที่มีความหวานกำลังพอดีประกอบกับความมันและความเยิ้มของไข่เค็มที่ผสมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว จึงไม่แปลกที่จะยกให้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนโปรดปราน และสำหรับคุณแม่คนไหนที่ไม่รู้ว่าจะทำอาหารอะไรให้ลูกกินนั้น เมนู “ปลาหมึกผัดไข่เค็ม” ก็ตอบโจทย์ลูกเราได้เช่นกัน

 

2. ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา

 

(รูปจาก sistacafe.com)

 

มาในส่วนของไข่เค็มที่อยู่ในรูปแบบของหวานกันบ้าง แน่นอนว่าเอ่ยถึงชื่อนี้ ทุกคนต้องรู้จักกันอย่างแน่นอนนั้นคือ เมนู “ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา” เป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีความหวาน หอม อร่อยผสมเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวมาก ๆ  และเรียกได้ว่าเป็นเมนูที่สามารถทำตามได้ง่ายและสามารถทำให้ลูกกินที่บ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถกินได้ทุกวัย แต่สำหรับใครที่ลูกยังเล็กอยู่ เราก็อาจจะให้เขากินได้ในปริมาณที่น้อย ๆ ก่อนนั่นเอง

 

(รูปโดย Anthony Shkraba จาก Pexels)

 

ไข่เค็ม จึงถือได้ว่าเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายเราอีกหนึ่งชนิด เพราะมากด้วยคุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารที่สำคัญต่าง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปประกอบเป็นอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย ไม่ว่าจะทำเป็นของหวาน หรือของคาวก็ออกมาอร่อยและลงตัวกันแบบสุด ๆ ดังนั้นสำหรับคุณแม่คนไหนที่กลัวลูกจะเบื่ออาหาร และไม่รู้จะให้ลูกกินอะไรถึงจะมีประโยชน์ เราก็อาจจะให้ลูกกินไข่เค็มแทนอาหารอื่น ๆ ได้ แต่ในขณะเดียวกันเราไม่ควรที่จะให้ลูกกินบ่อยและกินในปริมาณมาก เพราะสิ่งนี้อาจจะส่งผลไม่ดีต่อร่างกายของเขาได้ หรือถ้าใครที่ลูกกำลังเล็กอยู่ก็อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนให้ลูกกิน เพื่อลูกจะได้ปลอดภัยและแม่ก็จะไม่ได้กังวลใจไปด้วย

บทความที่น่าสนใจ : 10 ชุดอาหารบำรุงครรภ์ เสริมภูมิคุ้มกันคุณแม่ แข็งแรงถึงลูก

อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด จริงหรือไม่อย่างไร?

เด็กกินมังสวิรัติ ดีต่อสุขภาพหรือไม่? ปลอดภัยหรือเปล่า?

 

ที่มา : pasusat, guilinlake

 

 

บทความโดย

Tidaluk Sripuga