โดยปกติแล้ว เซลล์ประสาทจะมีแขนงของเซลล์ที่ยื่นยาวออกมามีชื่อเรียกว่าเดนไดรท์ (Dendrite) และแอกซอน (Axon) ซึ่งสัญญาณประสาทจะถูกส่งออกจากเซลล์ผ่านทางแอกซอน ซึ่งมีฉนวนไมอีลิน (Myelin) ห่อหุ้มแอกซอนไว้ การที่ฉนวนไมอีลินหรือเปาะตัวนี้มีความแข็งแรง ก็จะช่วยให้การเดินทางหรือการวิ่งของสัญญาณสื่อประสาทนั้นทำงานได้ดีและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสารสื่อสัญญาณประสาทนี้จะวิ่งมาเชื่อมต่อกับเดนไดรท์ ก่อจะนำสัญญาณไปยังตัวเซลล์ (Cell body) ทำหน้าที่ประมวลข้อมูลและส่งสัญญาณผ่านแอกซอนไปยังเซลล์อื่น ๆ ต่อไปเป็นทอด ๆ
ที่อธิบายมาทั้งหมดนี้ อยากให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจหลักการเบื้องต้นว่า หากพวกคุณให้ความรักและฝึกพัฒนาการลูกน้อยอยู่สม่ำเสมอ พร้อมทั้งได้รับโภชนาการสมองที่ครบถ้วน นั่นหมายถึงว่า คุณกำลังมอบโอกาสการเชื่อมต่อทางระบบประสาทและเส้นทางของสมองของพวกเขาให้เชื่อมโยงกันมากขึ้น ในทางกลับกัน ลูกน้อยของคุณจะได้รับทักษะทางภาษา การใช้เหตุผล และกระบวนการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
เลือกโภชนาการที่มี MFGM เพื่อ IQ และ EQ ที่เหนือกว่าใน 5 ปีแรก
MFGM (Milk Fat Globule Membrane) เยื่อหุ้มอนุภาคไขมันที่พบได้ในนมแม่ ผลิตจากต่อมน้ำนม ทำหน้าที่ช่วยห่อหุ้มอนุภาคไขมันในนมให้คงรูปอยู่ได้ อุดมไปด้วยไขมันและโปรตีนชีวภาพมากกว่า 150 ชนิด เช่น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด โคลีน และแกงกลิโอไซด์
ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ดังที่กล่าวไปในข้างต้น ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมสร้าง IQ และ EQ ของลูกน้อยให้เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก และไม่เพียงช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองของลูกน้อยเท่านั้น แต่ MFGM ที่พบในน้ำนมแม่ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันของทารกให้แข็งแรง และยังเป็นโภชนาการที่เหมาะสมกับระบบขับถ่ายของลูกน้อยได้อีกด้วย
โดยสารอาหารใน MFGM เมื่อทำงานร่วมกับ DHA จะช่วยเพิ่มโอกาสการเชื่อมต่อเซลล์สมองมากกว่าการได้รับ DHA เพียงอย่างเดียว
กระตุ้นสมองและฝึกพัฒนาการ ก่อนลูกเข้าเรียนให้ฉลาดอย่างถูกวิธี
วิธีกระตุ้นสมองและฝึกพัฒนาการด้านต่าง ๆ ให้กับลูกเล็กก่อนเข้าเรียน ที่พ่อแม่สามารถทำให้ลูกได้ง่าย ๆ ได้แก่
- คุยกับลูกบ่อย ๆ ด้วยความสนุกสนาน
ลูกควรจะได้คุ้นเคยกับเสียงพ่อแม่ให้มากที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้ ในขณะที่พาลูกไปเดินเล่น ควรชี้ให้เขาดูสิ่งรอบตัวและอธิบายขยายความว่าที่ลูกเห็น ได้ยิน หรือสัมผัสนั้นคืออะไร พูดคุย หยอกล้อ สร้างความสนุกและเสียงหัวเราะให้กับลูก จะช่วยกระตุ้นสมองลูกมากขึ้น
- ตั้งใจฟังในสิ่งที่ลูกพูด
แม้ในช่วงแรก คุณพ่อคุณแม่อาจจะยังไม่เข้าใจภาษาของเบบี๋ แต่ลูกจะรับรู้ได้ว่าพ่อแม่กำลังสนใจฟังจากการที่ได้สบตากัน เป็นแรงกระตุ้นให้ลูกพยายามพูดและออกเสียงเปล่งคำพูดใหม่ ๆ ออกมา เมื่อลูกพูดได้ เขาจะกลายเป็นเจ้าหนูทำไม อย่าไปเบื่อที่จะตอบคำถามลูกนะคะ เพราะการขยันตอบหรือโต้ตอบกับลูกนั้น จะเป็นการกระตุ้นสมองของเด็กเล็กให้เกิดความคิด เกิดวงจรเรียนรู้แบบถาวรขึ้นได้
- ให้เวลาลูกในการคิดและทำ
เพราะเด็กเล็กไม่ได้มีความไวรวดเร็วเท่ากับผู้ใหญ่ จึงต้องให้เวลาลูกค่อย ๆ คิด โดยไม่ต้องไปเร่งรัดหรือให้ลูกทำอะไรเร็ว ๆ แต่ปล่อยให้เขาได้พยายามทำในสิ่งที่เขาทำได้ด้วยตัวเองนะคะ
- ใช้คำพูดซ้ำ ๆ ง่าย ๆ สั้น ๆ และช้า ๆ
ในสมองลูกยังมีคำจำกัด แต่ลูกจะค่อย ๆ จดจำคำศัพท์ที่พ่อแม่พูดให้เขาฟังบ่อย ๆ ได้มากขึ้น และคุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มใช้เป็นประโยคที่ง่าย สั้น มากขึ้นเมื่อลูกเริ่มคุยโต้ตอบได้ อธิบายให้ลูกทีละเรื่องอย่างเข้าใจจะทำให้ลูกเรียนรู้คำต่าง ๆ ได้รวดเร็ว
- ชื่นชมกับความพยายาม
เราอาจจะไม่ต้องชื่นชมไปกับความสำเร็จทุกครั้งที่ลูกทำได้ นอกจากคำว่า ลูกเก่ง ดีมาก ฯลฯ เราสามารถใช้คำอื่น ๆ มาแทน เช่น แม่รู้ว่าลูกทำได้ ถ้าลูกพยายามขึ้นอีกนิดมันจะมากกว่านี้ เป็นต้น
- เล่านิทาน/อ่านหนังสือกิจประวัตรประจำวันที่ดีต่อสมอง
การอ่านหนังสือกับลูกทุกวัน ได้เล่าเรื่อง อธิบายรูปภาพ สี รูปทรง จำนวน และคำต่าง ๆ ที่ปรากฎอยู่ในหน้าหนังสือ เชื่อมโยงภาพเข้ากับคำ จะช่วยกระตุ้นสมองลูกและสร้างจินตนาการต่าง ๆ ให้กับลูกได้ นอกจากนี้ยังสามารถเสริมพัฒนาการของลูกด้วยการใช้ศิลปะง่าย ๆ ต่อยอดจินตนาการจากหนังสือที่อ่าน เช่น วาดภาพการ์ตูน ปั้นแป้งโดว์
วิธีกระตุ้นสมอง เสริมพัฒนาการให้ลูกฉลาดไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมคะ สำคัญที่ว่าพ่อแม่ต้องให้เวลากับลูกทำกิจกรรมเหล่านี้เป็นประจำ นอกจากนี้การแสดงความรัก การทักทายลูกในตอนเช้า ตื่นมาโอบกอด หอมแก้ม สัมผัสอ่อนโยนที่ลูกได้จากพ่อแม่จะเป็นแรงกระตุ้นวงจรในสมองเด็ก ทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี เติบโตขึ้นอย่างงดงาม และมีความฉลาดทางอารมณ์อันเป็นพื้นฐานที่พ่อแม่สร้างให้ลูกได้นะคะ
สำหรับแนวทางการเสริมพัฒนาการสมองด้วยสารอาหารที่เหมาะสม สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
12 อาหารกระตุ้นสมอง ให้ตื่นตัว เพิ่มความจำ ช่วยบูสต์สมองลูกให้ปรู๊ดปร๊าด
มัดรวมประโยชน์ของ “แลคโตเฟอร์ริน” สารอาหารยืนหนึ่ง เรื่องสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก
รู้หรือไม่!! MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ ช่วยพัฒนาสมองของลูกรัก ให้พร้อมเรียนรู้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
5 เคล็ดลับเตรียมสมองลูก พร้อมรับการเรียนรู้