ลูกน้อยกับ การติดเชื้อพยาธิ ควรทำยังไง? สิ่งพ่อแม่ต้องรู้ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจเคยสงสัยว่าลูกมีอาการคล้ายกันนี้ เกิดจากการติดเชื้อพยาธิได้หรือไม่? เรามาทำความรู้จักกับ การติดเชื้อพยาธิ ในเด็กกันนะคะ
พยาธิในเด็ก พบการติดเชื้อพยาธิชนิดใดได้บ่อยในเด็ก?
พยาธิเด็ก พยาธิที่พบว่ามีติดเชื้อได้บ่อยในเด็กก็คือ พยาธิเข็มหมุด พยาธิปากขอและพยาธิเส้นด้ายค่ะ โดยพยาธิทั้ง 3 จะมีการติดต่อได้ดังนี้
– พยาธิเข็มหมุด จะติดต่อโดยการที่ลูกชอบเอาของเข้าปาก หรืออมนิ้ว โดยเฉพาะในวัยทารก ลูกอาจได้รับไข่พยาธิจากสิ่งที่เอาเข้าปากแล้วเข้าสู่ร่างกายได้
– พยาธิปากขอและพยาธิเส้นด้าย จะติดต่อผ่านการสัมผัส พบบ่อยในเด็กวัยก่อนเข้าเรียนและวัยเรียน มักติดเชื้อจากการวิ่งเล่นในสนามหญ้า หรือตามพื้นดินพื้นทรายที่ไม่สะอาดและมีตัวอ่อนพยาธิ โดยพยาธิจะไชเข้าตามผิวหนัง จนบางทีมองเห็นเป็นเส้นๆได้
อาการอะไรที่อาจสงสัยว่าลูกติดเชื้อพยาธิ ลูกคันก้น ?
หากลูกมีอาการคันที่ก้น โดยเฉพาะเวลากลางคืนจนนอนไม่หลับ งอแง บริเวณที่เกาอาจเกิดการอักเสบจนติดเชื้อแบคทีเรีย ลูกอาจติดพยาธิเข็มหมุดอยู่ เพราะถ้าลูกมีพยาธิ ไข่จะออกในเวลากลางคืน ลูกก็เลยรู้สึกคันก้น หรือบางครั้งไข่ที่ติดที่ก้นก็กลายเป็นตัวอ่อนแล้วไชกลับไปในตัวลูก ทำให้เกิดความรำคาญ หงุดหงิด นอนไม่หลับ เเสบก้น เบื่ออาหาร เเละน้ำหนักลดได้
หากลูกมีอาการปวดท้อง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ไม่ค่อยโต รวมถึงน้ำหนักลดจากการย่อยและการดูดซึมของอาหารผิดปกติ และมีอาการซีดจากการขาดธาตุเหล็ก ทำให้มีการพัฒนาการเรียนรู้ที่ช้าลง ลูกอาจติดพยาธิปากขอหรือพยาธิเส้นด้ายอยู่ได้ค่ะ
ร่างกายเรารับพยาธิเข้ามาผ่านทางไหนบ้าง?
คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะกำลังสัยได้ว่าทำไมลูกของเราถึงมีพยาธิเข้าไปในร่างกายได้ ทั้งที่เราก็ดูแลและสังเกตลูกอยู่โดยตลอด แน่นอนว่าเราอาจจะดูลูกไม่ให้ละสายตาเลยก็จริง แต่ถ้าเราปล่อยให้ลูกเล่นใกล้ชิดเราก็จริงแต่ถ้าเราปล่อยปละละเลยในเรื่องเหล่านี้ สิ่งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกเราติดเชื้อพยาธิได้เลย
1. อาหารไม่สุก
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังฝึกให้ลูกทานข้าว แน่นอนว่าเมนูอาหารแต่ละเมนูที่เราทำให้ลูกทานนั้นจะต้องสุกและสะอาดมาก ๆ เพราะเมื่อไหร่ที่เราทำอาหารในช่วงเวลาเร่งรีบและปรุงอาหารไม่สุก สิ่งนี้ก็จะทำให้ลูกเราติดเชื้อพยาธิ อาทิเช่น การกินหมูที่ไม่สุกลูกของเราก็จะมีโอกาสพบพยาธิตัวจี๊ดในร่างกายได้ นอกจากนี้พยาธิตัวจี๊ดยังสามารถไชเข้าไปทางผิวหนังได้ด้วย เพราะฉะนั้นเราควรดูและใส่ใจในทุกขั้นตอนของการทำอาหาร เพื่อที่ลูกเราจะได้ปลอดภัยและได้ทานอาหารที่อร่อย
2. ล้างผักไม่สะอาด
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าผักเป็นวัตถุดิบอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ๆ พอได้ฟังแบบนี้เชื่อเลยว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนก็อยากจะให้ลูกของเราได้ทานของที่ดีมีประโยชน์ เลยอยากจะทำอาหารที่เป็นเมนูผักให้ลูกทานสักหน่อย แต่หารู้ไม่ว่าทุกครั้งของการประกอบอาหาร เมื่อไหร่ที่เราล้างผักไม่สะอาดและนำมาให้ลูกทาน สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้พยาธิตัวจี๊ดเข้าไปในร่างกายลูกของเราได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนที่เราจะนำมาประกอบอาหารเราจะต้องล้างให้สะอาดและล้างผ่านน้ำหลาย ๆ ครั้ง สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยป้องกันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
บทความที่น่าสนใจ : รวมไอเดีย กินผักมากขึ้นในชีวิตประจำวัน รับสารอาหารจากผักแบบไม่รู้ตัว
3. เนื้อปลาดิบ
สำหรับข้อนี้ใครที่ชอบให้ทำเมนูอาหารเกี่ยวกับปลาให้ลูกทานเป็นประจำนั้น อาจจะต้องระวังมากเป็นพิเศษ อย่างที่เราทราบกันดีว่าเนื้อปลาเป็นอะไรที่สุกเร็วมาก ๆ และด้วยการที่เราคิดว่ามันสุกเร็วนี่แหละ สิ่งนี้อาจทำให้ลูกเราติดเชื้อพยาธิเอาได้ง่าย ๆ ไม่ว่าเราจะทำเมนูอาหารอะไรให้ลูกทานก็ตาม เราจะต้องพิถีพิถันในการทำ เลือกวัตถุที่ดีและทำให้สุกทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้พยาธิเข้ามาในร่างกายของลูกเราได้ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ลูกของเราได้ทานเนื้อปลาดิบหรือไม่สุกก็อาจจะทำให้ลูกของเรามีโอกาสได้รับพยาธิใบไม้ในตับเอาได้เลย
4. ไม่สวมรองเท้า
ช่วงเวลาของการที่เราปล่อยให้ลูกได้เล่นและทำกิจกรรมต่าง ๆ นั้น คุณพ่อคุณแม่หลายคนก็อยากจะปล่อยให้ลูกได้เล่นเต็มที่ เพื่อที่ลูกของเราจะได้สนุกและมีความสุข โดยเฉพาะใครที่ชอบปล่อยให้ลูกเดินเล่นท่ามกลางพื้นทรายอยู่เป็นประจำและไม่ยอมใส่รองเท้าให้ลูก สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะทำให้พยาธิเข้ามาในร่างกายลูกของเราได้เลย ซึ่งพยาธิตัวนี้จะมีชื่อเรียกว่าพยาธิปากขอ เป็นชนิดที่ติดต่อไดโดยการไชเข้าทางผิวหนังนั่นเอง ถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนไม่อยากให้ลูกของเราได้รับอันตรายเราก็อาจจะต้องใส่รองเท้าให้ลูกทุกครั้ง
5. มือไม่สะอาด
เด็กส่วนใหญ่ไม่ว่าเขาจะเล่นหรือทำกิจกรรมอะไรอยู่ก็ตาม แน่นอนว่าเขาจะทำสิ่งเหล่านั้นอย่างเต็มที่โดยไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นจะปลอดภัยหรือสะอาดไหม ดังนั้นการที่เราปล่อยให้ลูกเล่นของเล่นหรือทำอะไรก็ตาม เราจะต้องคอยดูแลและหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของลูกอยู่ตลอด พยายามอย่าให้ลูกหยิบอะไรเข้าปาก และควรให้ลูกล้างมือทุกครั้งก่อนหยิบจับอะไรมากิน สิ่งนี้ก็จะช่วยป้องกันพยาธิเส้นด้าย หรือที่เรียกกันว่า พยาธิปากขอ หรือพยาธิเข็มหมุด ให้กับลูกได้เป็นอย่างดี
บทความที่น่าสนใจ : ศูนย์ควบคุมโรค เผยอันตราย เจลล้างมือและเด็ก ข้อเสียของเจลล้างมือ
เราจะทราบได้อย่างไรว่าลูกติดเชื้อพยาธิ?
หากลูกมีอาการที่น่าสงสัยดังกล่าวก็สามารถให้คุณหมอตรวจหาพยาธิได้ผ่านทางกล้องจุลทรรศน์ โดยวิธีดังนี้ค่ะ
– ตรวจจากอุจจาระ คุณพ่อคุณแม่สามารถนำอุจจาระของลูกมาให้คุณหมอตรวจ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ดู เพื่อหาไข่พยาธิ
– ตรวจด้วยวิธีสก็อตเทป โดยคุณหมอจะใช้ด้านเหนียวของสก็อตเทปสัมผัสรอบบริเวณทวารหนัก เเล้วนำมาตรวจหาไข่พยาธิภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ซึ่งวิธีนี้ใช้ตรวจหาพยาธิเข็มหมุด
เมื่อทราบว่าลูกมีการ ติดเชื้อพยาธิ จะมีการรักษาอย่างไร?
เมื่อตรวจพบว่าลูกมีการติดเชื้อพยาธิ โดยทราบแน่ชัดเจนแล้วว่าเป็นพยาธิชนิดไหน แล้วคุณหมอจะรักษาด้วยการให้ทานยาถ่ายพยาธิ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ซื้อยามาทานเองนะคะ เพราะอาจรักษาได้ไม่ถูกต้องกับชนิดของพยาธิที่มีการติดเชื้อ
เราจะป้องกันลูกจากการ ติดเชื้อพยาธิ ได้อย่างไร?
การป้องกันลูกจากการติดเชื้อพยาธิที่ดีที่สุด คือการดูแลสุขภาพและสุขอนามัยในกิจวัตรประจำวันของลูก เช่น ล้างมือก่อนและหลังกินอาหาร กินแต่อาหารที่สะอาด ปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด พยายามอย่าให้ลูกอมนิ้ว หรือสิ่งของต่าง ๆ เพื่อป้องกันไข่พยาธิที่อาจติดอยู่ที่นิ้วมือเข้าสู่ร่างกาย ให้ลูกสวมรองเท้าที่ปกปิดเพื่อป้องกันตัวอ่อนของพยาธิไชเข้าสู่ผิวหนัง สอนให้ลูกใช้ห้องน้ำอย่างถูกสุขลักษณะ
ทำอย่างไรไม่ให้ลูก ติดเชื้อพยาธิ?
1. ตัดเล็บลูกให้สั้น
คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังกังวลใจและไม่อยากให้ลูกของเราติดเชื้อพยาธิการตัดเล็บให้ลูกก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามกันเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อไหร่ที่เราไม่ยอมตัดเล็บให้ลูก กลัวลูกจะเจ็บและถ้าเกิดเล็บลูกของเรายาวขึ้นมาสิ่งนี้ก็อาจจะเป็นแหล่งและที่อยู่ของไข่พยาธิเอาได้ โดยเฉพาะใครที่ชอบปล่อยให้ลูกเล่นบริเวณพื้นดิน หรือพื้นทรายบ่อย ๆ ยิ่งต้องระวังกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
2. สวมรองเท้า
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกทำเป็นประจำทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพราะสิ่งนี้จะช่วยป้องกันพยาธิเข้ามาในร่างกายลูกเราได้ แถมยังช่วยป้องกันอันตรายในเรื่องต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย
3. ล้างมือบ่อย ๆ
ไม่ว่าลูกเราจะจับอะไรหรือเล่นอะไรมาบ้างก็ตาม ทุกครั้งของการทำกิจกรรมต่างๆ เราจะต้องให้ลูกล้างมือก่อนที่จะมารับประทานอาหารหรือหยิบอะไรเข้าปากทุกครั้ง ซึ่งการล้างมือนั้นเราอาจจะให้ลูกใช้สบู่หรือน้ำยาล้างมือด้วย เพื่อเป็นการกำจัดแบคทีเรียและป้องกันพยาธิที่อาจส่งผลไม่ดีต่อลูกของเราได้
4. ทำความสะอาดที่นอนอยู่เสมอ
สิ่งที่เราควรใส่ใจและไม่ควรมองข้ามเอามาก ๆ นั่นคือหมั่นดูแลรักษาที่นอนให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพราะเมื่อไหร่ที่เราปล่อยปละละเลยหรือไม่สนใจ สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้พยาธิเส้นได้เข้ามาในร่างกายลูกเราได้เลย ดังนั้นเราควรที่จะทำความสะอาดที่นอนรวมถึงทำความสะอาดบริเวณอื่นๆ ภายในบ้านให้ดีตามไปด้วย นอกจากจะทำให้บ้านของเราสะอาดและน่าอยู่แล้ว สิ่งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการป้องกันการติดเชื้อพยาธิและป้องกันอันตรายต่าง ๆ ให้กับลูกเราไม่น้อยเลยล่ะ
เชื่อว่าไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อย่างให้ลูกของตัวเองติดเชื้อในพยาธิ และถ้าเราไม่อยากให้สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นกับลูกของเรา เราจะต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดภายในบ้านและพร้อมกับดูแลใส่ใจลูกของเราเพื่อที่เขาจะได้เป็นเด็กที่แข็งแรงสมบูรณ์และไม่เป็นอันตรายนั่นเอง
หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าลูกมีอาการที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อพยาธิ ก็ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอ เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาให้เหมาะสม จะได้ป้องกันการติดเชื้อที่ลุกลามรุนแรงต่อไปค่ะ
บทความที่น่าสนใจ : ลูกป่วยกระทันหัน มีผื่น ตัวร้อนมาก เซื่องซึม ต้องทำอย่างไร
แม่ท้องเป็นพยาธิ กินยาถ่ายพยาธิได้หรือไม่ ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์อย่างไร?