ผ่าคลอด น้ำคาวปลาจะหมดตอนไหน ดูแลตัวเองหลังผ่าคลอดยังไงดี

คุณแม่คลอดธรรมชาติ และแม่ผ่าคลอด ต่างมีน้ำคาวปลาเหมือนกัน แต่ ผ่าคลอด น้ำคาวปลาจะหมดตอนไหน มีภาวะเสี่ยงอะไรหรือเปล่า ต้องมาดูค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วินาทีที่ลูกน้อยลืมตาดูโลกนั้นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญและน่าตื่นเต้นในชีวิตของคุณแม่ทุกคนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอด ก็ตาม โดยหลังการคลอดร่างกายของคุณแม่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู และหนึ่งในสิ่งที่หลายคนสงสัยคือเรื่องของ “น้ำคาวปลา” กรณีที่ ผ่าคลอด น้ำคาวปลาจะหมดตอนไหน จะหายไปเองหรือมีวิธีจัดการอย่างไร มีภาวะอันตรายที่เกิดจากน้ำคาวปลาหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ

น้ำคาวปลา หลังคลอด คืออะไร

ในช่วงหลังคลอดลูกร่างกายของคุณแม่จะมี “ของเหลว” ออกมาจากช่องคลอด ไม่ว่าจะคลอดแบบธรรมชาติหรือผ่าคลอดก็ตาม เจ้าสิ่งนี้นี่แหละค่ะคือ “น้ำคาวปลา” (Lochia) เกิดจากการที่มดลูกหดตัวเพื่อกลับสู่สภาพเดิมหลังการตั้งครรภ์ และมีเยื่อบุโพรงมดลูกบริเวณที่รกเคยเกาะอยู่หลุดลอกออกมา ซึ่งเป็นกระบวนการทางธรรมชาติตามปกติที่ร่างกายของผู้หญิงจะค่อย ๆ ขับออกไป ลักษณะคล้ายกับประจำเดือน

ผ่าคลอด น้ำคาวปลาจะหมดตอนไหน ลักษณะน้ำคาวปลา 3 ระยะหลังคลอด

น้ำคาวปลานี้จะเป็นเลือดปนเมือกของเหลว ประกอบไปด้วยเม็ดเลือดแดง เมือก (Mucus) เม็ดเลือดขาว และเยื่อบุมดลูกที่สลายหลุดออกมา โดยในช่วงวันแรก ๆ หลังคลอดอาจมีน้ำคาวปลาในลักษณะคล้ายเลือดออกมาค่อนข้างมาก เพราะช่วงที่ตั้งครรภ์ ปริมาณเลือดในร่างกายคุณแม่จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดลูก ทั้งนี้ ลักษณะของน้ำคาวปลาโดยทั้งไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ คือ

  • ระยะที่ 1 (Lochia rubra)

เป็นน้ำคาวปลาที่จะออกมาในช่วง 1-5 วันแรกหลังคลอด (คุณแม่บางคนอาจมีน้ำคาวปลาเมื่อเข้าสู่วันที่ 3 หลังคลอด) น้ำคาวปลาในระนะแรกนี้จะมีลักษณะเป็นสีแดงเข้ม สีคล้ำ ประกอบด้วยเลือด เมือก และเศษรก ลักษณะคล้ายลิ่มเลือดขนาดเล็ก

  • ระยะที่ 2 (Lochia serosa)

อยู่ในช่วงประมาณวันที่ 4-10 หลังคลอด ซึ่งสีของน้ำคาวปลาระยะนี้จะเริ่มจางลงเป็นสีชมพู หรือน้ำตาล และจะค่อย ๆ กลายเป็นสีเหลืองใส เริ่มมีความเหลวมากขึ้น ลักษณะเป็นเลือดจาง ๆ มีมูกปน เป็นช่วงที่ประกอบด้วยน้ำเหลือง เยื่อเมือก เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว

  • ระยะที่ 3 (Lochia alba)

หลังมีน้ำคาวปลาสีเหลืองใสในระยะที่ 2 แล้ว คุณแม่อาจจะยังคงมีน้ำคาวปลาต่อไปจนถึงประมาณ 6 สัปดาห์หลังคลอด ซึ่งน้ำคาวปลาระยะที่ 3 นี้จะมีลักษณะคล้ายครีม มีสีเหลืองขุ่น หรือสีขาว เนื่องจากมีเม็ดเลือดแดงลดน้อยลง แต่เม็ดเลือดขาว ไข เมือก และเซลล์บุผนังช่องคลอดมากขึ้น โดยปริมาณน้ำคาวปลาจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จนหมดไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ผ่าคลอด น้ำคาวปลาจะหมดตอนไหน ต่างกับการคลอดธรรมชาติมั้ย

ร่างกายของคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติและคุณแม่ผ่าคลอดจะต้องมีน้ำคาวปลาออกมาเช่นเดียวกันแบบไม่มีข้อยกเว้นนะคะ แต่จะมีความต่างกันบ้างเล็กน้อยตรงที่ ภายในช่วง 24 ชั่วโมงหลังคลอด คุณแม่ที่คลอดธรรมชาติอาจมีน้ำคาวปลามากกว่าคุณแม่ที่ผ่าคลอดนั่นเอง โดยน้ำคาวปลาของคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติควรหมดไประยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์

ส่วนคุณแม่ผ่าคลอดนั้น หากดูจากระยะและลักษณะของน้ำคาวปลาที่อธิบายไว้ ก็น่าจะพอมีคำตอบให้แล้วค่ะว่า ผ่าคลอด น้ำคาวปลาจะหมดตอนไหน ซึ่งก็คือ ผ่าคลอด น้ำคาวปลาควรหมดไปในระยะเวลาไม่เกิน 4-6 สัปดาห์ แต่โดยปกติแล้วน้ำคาวปลาจะหยุดหรือแห้งไปเองในสัปดาห์ที่ 2-3

อย่างไรก็ตาม ในบางช่วงเวลาอาจมีปัจจัยบางอย่างทำให้น้ำคาวปลาถูกขับออกมามากกว่าปกติ เช่น ช่วงเช้าหลังตื่นนอน ขณะที่คุณแม่ออกกำลังกายเบา ๆ หรือระหว่างขับถ่าย นอกจากนี้อาจมีน้ำคาวปลาถูกขับออกมามากในขณะให้นมลูกได้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งอาจช่วยเร่งการรักษาและกระตุ้นการหดตัวของมดลูกของคุณแม่นั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ดูแลตัวเองหลังผ่าคลอดยังไงดี ในช่วงที่มีน้ำคาวปลา

หลังจากผ่าคลอด คุณแม่ที่มีน้ำคาวปลา อาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อค่ะ ดังนั้น การดูแลตัวเองในช่วงเวลานี้จึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเรื่องของความสะอาด รวมถึงควรหมั่นสังเกตลักษณะน้ำคาวปลาและอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองด้วย ดังนี้

  • ดูแลอวัยวะเพศให้สะอาด ไม่อับชื้น
  • เปลี่ยนผ้าอนามัยตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมมที่อาจก่อให้เกิดการสะสมเชื้อโรคต่าง ๆ ได้
  • งดการแช่อ่างน้ำ หรือว่ายน้ำ เนื่องจากปากมดลูกยังเปิดอยู่ อาจทำให้มีน้ำเข้าไปในโพรงมดลูกเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
  • งดมีเพศสัมพันธ์ในช่วงหลังคลอดอย่างน้อย 3 เดือน
  • เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย โดยเฉพาะกางเกงไม่ควรรัดรูป เนื่องจากเสี่ยงสะสมความอับชื้นที่จุดซ่อนเร้น
  • หลีกเลี่ยงการทำงานหนักและยกของหนัก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น้ำคาวปลา แบบไหนผิดปกติ และควรพบแพทย์

น้ำคาวปลาควรจะอยู่กับคุณแม่หลังผ่าคลอดไม่เกิน 6 สัปดาห์นะคะ หากพ้นช่วงเวลา 6 สัปดาห์มาแล้วคุณแม่ยังมีน้ำคาวอยู่ โดยเฉพาะน้ำคาวปลายังมีสีแดง อาจมีการอักเสบ หรือมีเศษรกตกค้างในมดลูก ควรปรึกษาแพทย์ รวมถึงลักษณะของน้ำคาวปลาต่อไปนี้เช่นกัน คือ

  • น้ำคาวปลามีสีแดงสดตลอด 4 วันหลังคลอด หรือนานกว่านั้น และอาการไม่ดีขึ้นแม้นอนหลับพักผ่อนแล้ว
  • น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นเน่า พร้อมกับมีอาการปวดมดลูกมาก อาจมีไข้ร่วมด้วย อันแสดงถึงการติดเชื้อ
  • ปริมาณน้ำคาวปลามากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยเกือบทุก 1 ชั่วโมง มีสีแดงสด มีก้อนเลือดหรือลิ่มเลือดออกมา อาจเกิดจากภาวะเลือดออกผิดปกติหลังคลอด ซึ่งมีหลายสาเหตุ อาทิ การกินยาขับเลือด การมีชิ้นส่วนรกค้างอยู่ในมดลูก การติดเชื้อในเยื่อบุโพรงมดลูก ความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น
  • น้ำคาวปลากลับมาเป็นสีแดงสดอีกครั้ง หลังจากเริ่มจางได้ 2-3 วันแล้ว
  • มีน้ำคาวปลาออกมาก ร่วมกับอาการเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ หัวใจเต้นเร็ว

นอกจากนี้ หากคุณแม่มีอาการไข้ มีน้ำหรือเลือดออกจากแผลผ่าคลอด ปวดแผลมากขึ้น หรือแผลบวมแดง มีหนองควรรีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ

 

ที่มา : www.samitivejhospitals.com , www.phyathai.com , hdmall.co.th , www.pobpad.com

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ตั้งครรภ์ทาเล็บได้ไหม คุณแม่มือใหม่อยากสวย ต้องรู้

อาการหน่วงท้องน้อย ตั้งครรภ์ ผิดปกติไหม แบบไหนอันตราย

ไหมละลายหลังคลอดกี่วันหาย แผลฝีเย็บดูแลอย่างไร

บทความโดย

จันทนา ชัยมี