ระวัง! ตีก้นลูกแรง อาจเสี่ยงเป็น ไตวายเฉียบพลัน หมอเผยสาเหตุ อันตรายไม่คาดคิด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การลงโทษลูกเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านต้องเผชิญ แม้เจตนาจะเป็นการอบรมสั่งสอน แต่หากเลือกใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยได้รุนแรง กรณีข่าวเด็กชายวัย 9 ขวบ ไตวายเฉียบพลัน หลังถูกแม่ตีก้น เป็นตัวอย่างที่น่าตกใจว่า การลงโทษทางกายเด็ก อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเป็นโรค ไตวายเฉียบพลัน ได้ บทความนี้จะพาไปรู้จักโรค ไตวายเฉียบพลัน ภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานอย่างกะทันหัน รวมถึงวิธีการป้องกันโรคนี้ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถเลี้ยงดูลูกน้อยได้อย่างปลอดภัย

แม่ใจแทบสลาย หลังรู้ว่าลูกชายเป็น ไตวายเฉียบพลัน เพราะถูกตีก้นบ่อย ๆ

เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจ เมื่อเด็กชายวัย 9 ขวบ จากประเทศจีน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการปัสสาวะผิดปกติ แพทย์ได้ตรวจพบว่าเด็กชายเป็นโรค ไตวายเฉียบพลัน ซึ่งอาจถึงขั้นเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาทันที และต้องรีบนำตัวส่งเข้าห้องไอซียูเพื่อฟอกเลือดโดยด่วน

จากการสอบถามแม่ของเด็กชาย ทราบว่าเธอมีพฤติกรรมลงโทษลูกด้วยการตี โดยในช่วงแรกเธอมักจะใช้มือตีก้นลูก แต่ต่อมาเมื่อเห็นว่าลูกชายไม่รู้สึกเจ็บปวด เธอจึงเปลี่ยนมาใช้ไม้กวาดฟาดแทน ซึ่งหลาย ๆ คนอาจคิดว่าการตีลูกเป็นเรื่องปกติ แต่แท้จริงแล้ว การกระทำนี้ส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายและจิตใจของเด็กมากกว่าที่คิด

 

 

การตีก้นเด็กบ่อย ๆ จะทำให้เกิดรอยฟกช้ำใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบขับถ่ายของไต ไตของเด็กอาจเสียหายอย่างรุนแรงจนถึงขั้นไตวายเฉียบพลัน นอกจากนี้ การตีก้นยังส่งผลต่อสมองของเด็กโดยตรง แรงกระแทกอาจทำให้สมองได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

ซึ่งแพทย์คาดการณ์ว่า สาเหตุของ ไตวายเฉียบพลัน ในเคสนี้น่าจะมาจากการตีที่รุนแรงจนทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ไมโอโกลบิน โพแทสเซียมไอออน และสารอื่น ๆ เข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลต่อไตเฉียบพลัน คล้ายกับภาวะกล้ามเนื้อสลาย 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ที่มา: hk01

 

ภาวะไตวายเฉียบพลัน คืออะไร?

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ภาวะไตวายเฉียบพลัน คือ ภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดภาวะเสียสมดุลในระบบร่างกาย ส่งผลต่อการขับของเสียผ่านทางปัสสาวะ ของเสียเหล่านี้จะตกค้างในร่างกาย อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

บทความที่เกี่ยวข้อง: ไต อวัยวะสำคัญที่ต้องดูแล มารู้จักภาวะไตเสื่อม

 

โดยเราสามารถแบ่งภาวะไตวายเฉียบพลันได้ออกเป็น 2 ระยะ  

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1) ระยะ Pre-renal

สาเหตุของระยะนี้อาจมาจากภาวะตกเลือดรุนแรง ภาวะช็อก หรือการขาดน้ำร้ายแรง ส่งผลต่อความสามารถในการขับของเสียของไต ทำให้ผู้ป่วยมีปัสสาวะน้อย อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของภาวะไตวายระยะนี้คือเซลล์ท่อไตยังไม่ถูกทำลาย ดังนั้นหากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีด้วยการให้สารน้ำทดแทนและแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตน้อยลง ไตจะสามารถกลับมาทำงานได้ปกติภายใน 24-72 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะมีปัสสาวะออกตามปกติ ถือเป็นภาวะไตวายเฉียบพลันที่รักษาให้หายขาดได้

 

2) ระยะ Acute Tubular Necrosis (ATN)

เกิดขึ้นเมื่อการรักษาภาวะ Pre-renal ล่าช้า ส่งผลให้เซลล์ท่อไตถูกทำลาย ร่างกายไม่สามารถขับของเสียออกทางปัสสาวะได้ ผู้ป่วยจะมีปัสสาวะน้อยหรือไม่มีปัสสาวะเลย ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น น้ำท่วมปอด หัวใจวาย หรือเสียชีวิต การรักษาหลักคือการให้สารน้ำทดแทน ฟอกเลือด และควบคุมภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ 

และถึงแม้จะรักษาได้ทันท่วงที ไตก็อาจใช้เวลานานกว่าจะกลับมาทำงานปกติ ประมาณ 1 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน อย่างไรก็ตามหากเกิน 3 เดือนแล้วยังไม่ฟื้นฟู อาจกลายเป็นภาวะไตวายเรื้อรัง ดังนั้น การรีบไปพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะน้อย อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน หรือบวมตามร่างกาย จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มโอกาสการฟื้นตัวของไต

 

การรักษาภาวะ ไตวายเฉียบพลัน

การรักษาภาวะไตวายเฉียบพลัน มุ่งเน้นไปที่การรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดไตวาย ฟื้นฟูการทำงานของไต และป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยแบ่งออกเป็นดังนี้

1) รักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน

แพทย์จะวินิจฉัยสาเหตุของไตวาย และรักษาตามสาเหตุที่พบ เช่น

  • การขาดน้ำ: ให้สารน้ำทดแทน
  • การติดเชื้อ: ให้ยาปฏิชีวนะ
  • ยาบางชนิด: หยุดยาที่เป็นสาเหตุ
  • ภาวะช็อก: รักษาความดันโลหิตให้คงที่

2) รักษาสมดุลน้ำและเกลือแร่ให้เป็นปกติ

ผู้ป่วยไตวายเฉียบพลันอาจมีภาวะน้ำเกิน หรือเกลือแร่ผิดปกติ แพทย์จะควบคุมปริมาณน้ำและเกลือแร่ที่ผู้ป่วยได้รับอย่างใกล้ชิด

 

3) ปรับขนาดยาตามการทำงานของไตที่ลดลง

ยาบางชนิดขับถ่ายออกจากร่างกายผ่านทางไต เมื่อไตทำงานลดลง ยาเหล่านี้จะสะสมในร่างกายได้ แพทย์จะปรับขนาดยาให้เหมาะสมกับการทำงานของไต

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4) หลีกเลี่ยงการฉีดสารทึบรังสีหรือยาที่มีผลเสียต่อไตที่ไม่มีความจำเป็น

สารทึบรังสีและยาบางชนิดอาจส่งผลต่อการทำงานของไต แพทย์จะพิจารณาความจำเป็นก่อนใช้ยาเหล่านี้

 

5) การรักษาโดยการบำบัดทดแทนไต

ในกรณีที่มีอาการสารน้ำเกิน หรือเกลือแร่ผิดปกติร้ายแรงที่อาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิต แพทย์อาจพิจารณาการรักษาโดยการบำบัดทดแทนไต เช่น การฟอกเลือด

อย่างไรก็ตาม การรักษาภาวะไตวายเฉียบพลัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค สาเหตุที่ทำให้เกิดโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย แพทย์จะประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การรักษาประสบความสำเร็จ และฟื้นฟูการทำงานของไตให้กลับมาเป็นปกติ 

 

วิธีป้องกันการเกิดภาวะ ไตวายเฉียบพลัน

โรคไตวายเฉียบพลัน เป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพง่าย ๆ ได้ ดังนี้

1) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ร่างกายของเราต้องการการนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง ฟื้นฟูพลังงาน และขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

2) ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ร่างกายของเราต้องการน้ำประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ป้องกันการเกิดนิ่วในไต และรักษาสมดุลของเกลือแร่ในร่างกายได้ดี

 

3) ไม่กลั้นปัสสาวะ

 

 

การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ของเสียในปัสสาวะย้อนกลับไปยังไต ส่งผลเสียต่อการทำงานของไต

 

4) ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไตวายเฉียบพลัน ควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

 

5) งดเว้นอาหารหมักดอง อาหารดิบ และอาหารที่มีโซเดียมสูง

อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของสารพิษและโซเดียม ส่งผลเสียต่อการทำงานของไต ควรทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนจากแหล่งที่ไขมันต่ำ

 

กรณีเด็กชายวัย 9 ขวบ ไตวายเฉียบพลันหลังถูกแม่ตีก้น เป็นตัวอย่างที่น่าตกใจว่า การลงโทษทางกายเด็ก อาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ ไตวายเฉียบพลันเป็นภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานอย่างฉับพลัน ส่งผลต่อการขับของเสียออกจากร่างกาย สาเหตุของโรคไตวายเฉียบพลันมีหลายประการ การตีก้นเด็ก เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ไม่คาดคิด แต่มีความเป็นไปได้ เนื่องจากแรงกระแทกบริเวณก้น อาจส่งผลต่อไตโดยตรง

การป้องกันภาวะไตวายเฉียบพลันที่ดีที่สุดคือ การดูแลสุขภาพ เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ สำหรับผู้ปกครอง ควรเลี่ยงการลงโทษเด็กด้วยความรุนแรง หันมาใช้วิธีการอบรมสั่งสอนที่เน้นการพูดคุย สร้างความเข้าใจ และปลูกฝังคุณธรรมให้เด็ก

 

ที่มา: All Well, Phyathai

 

บทความอื่น ๆ ที่สนใจ:

โรคอัณฑะบิดหมุน อย่ามองข้าม! ภัยเงียบสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกชาย

อันตรายจาก ” ไข้นอนกรน ” หมอโอ๊คเตือนภัยเชื้อแรงระบาดในเด็ก

เปิดเทอมนี้ ระวังโควิด! หมอยงแนะมาตรการ ป้องกันโควิด-19 ในโรงเรียน

บทความโดย

samita