การเผลอตะคอกใส่ลูก ทำให้คุณแม่รู้สึกผิดและคิดได้เลยว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่น่าทำต่อลูก เพราะนั้นอาจจะส่งผลต่อลูกให้เกิดอารมณ์ก้าวร้าว ตามการเลียนแบบพ่อแม่ก็ได้ หากช่วงเวลานี้ได้เกิดขึ้นไปแล้ว สิ่งที่คุณควรทำหลังปรี๊ดแตกใส่ลูกคือ
#สงบสติอารมณ์
หลังจากตะคอกใส่ลูกไปแล้ว เชื่อว่าในความเป็นจริงคุณจะรู้สึกผิดและแย่เอามาก ๆ ถ้าความรู้สึกเหล่านี้ยังวนเวียนอยู่ในหัวคงไม่ดีแน่ ๆ ดังนั้นคุณควรใช้เวลาเพื่อสงบสติอารมณ์ซักพัก และบอกลูกว่า ขอเวลาในการสงบสติอารมณ์ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีเพื่อที่จะเป็นแบบอย่างให้กับลูก เมื่อรู้สึกว่าขาดสติ ควรใช้เวลาในการที่จะแก้ไขความรู้สึกให้สงบลง และคิดก่อนที่จะทำอะไร
#ขอโทษ
หลังจากที่ใจเย็นลงแล้ว การกล่าวคำว่า “ขอโทษ” กับลูกไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย ซึ่งมันจะทำให้ลูกรู้สึกหายกลัวลง นั่นคือสิ่งที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ว่า ทุกคนอาจพลาดทำสิ่งที่ผิดและแย่ได้ในบางครั้ง แต่เมื่อมันเกิดขึ้นเราต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำและกล่าวขอโทษ
#อธิบาย
คุณสามารถอธิบายเหตุผลว่าเพราะอะไรที่ทำให้แม่โกรธ หลังจากที่เอ่ยขอโทษลูกแล้ว ถึงแม้ว่าคุณไม่สามารถคาดหวังให้ลูกเข้าใจได้ว่า แม่รู้สึกเหนื่อย หรือเครียด หรือไม่รู้ว่าจะบอกกับลูกอย่างไร แต่ก็จะพยายามไม่ให้สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
#สร้างความสัมพันธ์กับลูกๆ
การเลี้ยงดูลูกด้วยอารมณ์ เป็นเครื่องเตือนใจให้รู้ว่า ถึงเวลาที่ต้องใช้เวลาใกล้ชิดกับลูกอย่างจริง ๆ จัง ๆ มากขึ้น การสร้างความสัมพันธ์กับลูกด้วยการทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นการแสดงออกที่ดีที่ทำให้ลูกรู้ว่า แม่หายโกรธแล้ว และเมื่อคุณได้ทำอะไรร่วมกันกับลูก นั่นจะทำให้ลูกรับฟังคุณมากขึ้น
#สร้างความรู้สึกดี ๆ ให้ตัวเอง
พ่อแม่ทุกคนอาจมีโอกาสทำสิ่งที่ผิดพลาดต่อลูกได้ หลังจากตะคอกใส่ลูก การสงบสติอารมณ์ การกล่าวขอโทษ และการอธิบายนั้นเป็นสิ่งที่คุณได้แก้ไขแล้ว หลังจากนี้ให้คิดว่าตัวเองนั้นเป็นพ่อแม่ที่ดีเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกในการไม่ระเบิดอารมณ์ใส่ต่อกัน และเตรียมแผนล่วงหน้าที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำ ซึ่งควรเป็นอะไรที่จะพูดหรือทำแทนการตะคอกใส่ลูก
ที่มา : picklebums.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
หยุดตะโกนใส่ลูก ถ้าไม่อยากเป็นคุณแม่ใจร้าย!
คุณแม่ขี้เหวี่ยง – ขึ้นเสียงใส่ลูกจะส่งผลเสียอย่างไร?