โลกของเรามีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “สัตว์เลือดอุ่น” เป็นสัตว์ประเภทพิเศษ ที่สามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างคงที่ได้ แม้ว่าสภาพแวดล้อมของพวกมันจะเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม ความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิร่างกายทำให้สัตว์เหล่านี้สามารถดำรงชีวิตในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จทางวิวัฒนาการของพวกมัน ในบทความนี้ เราจะมาดูว่าสัตว์เลือดอุ่นคืออะไร พวกมันสามารถควบคุมอุณหภูมิของร่างกายได้อย่างไร
ความหมายของ สัตว์เลือดอุ่น
สัตว์เลือดอุ่น (Warm-Blooded Animals) เป็นสัตว์ที่รักษาอุณหภูมิของร่างกายได้ โดยไม่คำนึงถึงอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ตัวอย่างของสัตว์เลือดอุ่น ได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และนก เป็นต้น สัตว์เหล่านี้มีกลไกในการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย เช่น การขยายตัวของหลอดเลือด และการเคลื่อนไหวของร่างกาย เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วพวกมันจะผลิตความร้อนโดยการเผาผลาญอาหารที่กินเข้าไป แต่ในทางกลับกัน สัตว์เลือดเย็นจะมีความแตกต่าง คือ ไม่สามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ และอุณหภูมิของร่างกายจะผันผวนตามสภาพแวดล้อม
ความสามารถในการรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่ได้ และไม่ต้องพึ่งพาแหล่งภายนอก เช่น ดวงอาทิตย์เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ความสามารถนี้เกิดขึ้นได้ด้วยคุณสมบัติหลายอย่างที่สัตว์เลือดอุ่นมีร่วมกัน รวมถึงจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงที่สูงขึ้น ไปจนถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้การเผาผลาญทำงานเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ และส่วนใหญ่ร่างกายของสัตว์เลือดอุ่น จะมีสัดส่วนของไขมันในร่างกายที่สูงกว่า ซึ่งช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ลักษณะเหล่านี้ทำให้พวกมันเหมาะสำหรับการอยู่รอดในสภาพอากาศที่เย็นกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำความรู้จัก “สัตว์เลือดเย็น” บทเรียนพื้นฐานที่ลูกวัยเรียนต้องรู้
วิดีโอจาก : titima onkeaw
ตัวอย่างสัตว์เลือดอุ่น
สัตว์เลือดอุ่นคือสัตว์ที่สามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในระดับคงที่ได้ โดยไม่คำนึงถึงอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก และสัตว์เลื้อยคลานบางชนิด ล้วนเป็นสัตว์เลือดอุ่นทั้งสิ้น สัตว์เหล่านี้ทั้งหมดมีเมแทบอลิซึม (ขั้นตอนการเผาผลาญเพื่อรับพลังงาน) แบบดูดความร้อน หมายความว่าพวกมันสร้างความร้อนส่วนใหญ่เองภายในร่างกาย แทนที่จะอาศัยปัจจัยจากแหล่งภายนอก พวกมันยังมีความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย โดยการควบคุมการผลิตความร้อนภายในร่างกาย และการสูญเสียความร้อน สิ่งนี้ทำให้สัตว์เลือดอุ่นสามารถอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และหาอาหารได้ในทุกสภาพอากาศ
การดูดซับความร้อนของสัตว์เลือดอุ่น
สัตว์เลือดอุ่น (Warm-Blooded Animals) ควบคุมอุณหภูมิร่างกายของตัวเอง เพื่อรักษาช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน สิ่งนี้ทำได้ผ่านการใช้พลังงานเมแทบอลิซึมเพื่อสร้างความร้อน หรือรูปร่างทั่วไปของร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ขนสัตว์ หรือขนนกต่าง ๆ เพื่อลดการสูญเสียความร้อนให้เหลือน้อยที่สุด สรีรวิทยาของสัตว์เหล่านี้ ช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวได้ในสภาพแวดล้อมที่เย็น และทนต่ออุณหภูมิที่สูงเกินไป ส่งผลให้สัตว์เลือดอุ่น สามารถดำรงชีวิตได้ โดยมีโอกาสรอดจากสิ่งแวดล้อม มากกว่าสัตว์เลือดเย็น
การเผาผลาญพลังงานของสัตว์เลือดอุ่น
กระบวนการเมแทบอลิซึม (Metabolism) เป็นกระบวนการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน และรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่ โดยทั่วไปแล้ว สัตว์เลือดอุ่นมีอัตราการเผาผลาญพลังงานสูงกว่าสัตว์เลือดเย็น ซึ่งหมายความว่าพวกมันใช้พลังงานมากกว่าในช่วงพักผ่อน และระหว่างการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางร่างกาย การปรับตัวนี้ช่วยให้สัตว์เลือดอุ่นสามารถเคลื่อนไหวได้แม้ในอุณหภูมิที่เย็นกว่า เนื่องจากอุณหภูมิร่างกายของพวกมันจะคงที่ นอกจากนี้ สัตว์เลือดอุ่นยังมีความอดทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดีกว่าด้วย เนื่องจากอัตราการเผาผลาญของพวกมัน จะเพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น และความต้องการพลังงานก็จะแปรผันเพิ่มขึ้นตามด้วยนั่นเอง
จุดเด่นของสัตว์เลือดอุ่น
ด้วยความสามารถในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ ซึ่งหมายความว่าพวกมันสามารถอยู่ได้ทั้งในสภาพอากาศเย็น และร้อนโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมากนัก นอกจากนี้ สัตว์เลือดอุ่นยังสามารถใช้พลังงานได้มากขึ้น ซึ่งหมายความว่าพวกมันสามารถล่า และหาอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และพวกมันยังมีอัตราการเผาผลาญที่สูงกว่าอีกสัตว์เลือดเย็นด้วย ซึ่งทำให้พวกมันมีความสามารถในการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว และรวดเร็ว
นอกจากนี้สัตว์เลือดอุ่นมีความสามารถในการทนต่อความเครียดที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม เช่น ความผันผวนของอุณหภูมิ และการขาดอาหารได้ดีกว่า ข้อได้เปรียบทั้งหมดนี้ทำให้สัตว์เลือดอุ่นเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์ และวิวัฒนาการมากกว่าสัตว์เลือดเย็น
ข้อเสียของสัตว์เลือดอุ่น
ข้อเสียของสัตว์เลือดอุ่นนั้นก็มีเช่นกัน หนึ่งในข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของการเป็นสัตว์เลือดอุ่น คือ ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ ซึ่งหมายความว่าสัตว์เลือดอุ่นต้องกินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกาย สิ่งนี้ต้องการพลังงานเป็นจำนวนมากเพื่อความอยู่รอด นี่ก็หมายความว่าพวกมันเสี่ยงต่อผู้ล่า เนื่องจากพวกมันไม่สามารถอยู่ในที่แห่งเดียวได้เป็นเวลานาน การเคลื่อนไหวไปในพื้นที่ต่าง ๆ อาจทำให้สัตว์เหล่านี้เข้าไปในพื้นที่ของสัตว์อื่น นอกจากนี้ สัตว์เลือดอุ่นยังตอบสนองไวต่อโรคต่าง ๆ ได้มากกว่า เนื่องจากอุณหภูมิของร่างกาย จะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ทำให้ป่วย หรือติดโรคได้ เช่น การปวดของมนุษย์ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : รวม 10 เกมวิทยาศาสตร์ เล่นสนุกช่วยลูกฝึกทักษะวิทยาศาสตร์
ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบโดยตรงต่อสัตว์เลือดอุ่น
ในขณะที่สภาพอากาศของโลกร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปี สัตว์เลือดอุ่นจึงเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นนก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์เลื้อยคลานหลายชนิด ที่ถือเป็นสัตว์เลือดอุ่น และอาศัยสภาพแวดล้อมในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ด้วยอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น สัตว์เหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะร้อนจัด และเกิดความเครียดขึ้นได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ เมื่อแหล่งที่อยู่อาศัยแห้งแล้งมากขึ้น สัตว์เลือดอุ่นอาจถูกบีบให้ต้องอพยพไปไกลขึ้น เพื่อค้นหาอาหาร และน้ำ ซึ่งนำไปสู่การใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงในการตายระหว่างการเดินทางเพื่อหาทรัพยากรดำรงชีพสูงขึ้น รวมไปถึงการแย่งอาหารกันเองของผู้ล่า เป็นต้น
สัตว์เลือดอุ่น คือ สัตว์ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิของร่างกายได้เอง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมใดก็ตาม สิ่งนี้ทำให้พวกมันสามารถอาศัยอยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย ตั้งแต่ภูมิภาคที่ร้อนที่สุดไปจนถึงภูมิภาคที่หนาวที่สุดในโลก ในขณะที่สัตว์เลือดอุ่นบางสายพันธุ์ มีการพัฒนาการปรับตัวแบบพิเศษเพื่อความอยู่รอดในอุณหภูมิที่ร้อนจัด ความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ถือเป็นข้อได้เปรียบทางวิวัฒนาการ ทำให้พวกมันสามารถเติบโตในแหล่งที่อยู่อาศัยที่หลากหลายกว่าสัตว์เลือดเย็น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ทำอย่างไรให้ลูกสนใจวิทยาศาสตร์ เรียนเก่ง เรียนดีแน่นอน
70 คำศัพท์เกี่ยวกับสัตว์ ภาษาอังกฤษหมวดนี้ ลูกน้อยรู้แล้วหรือยัง ?
6 เหตุผล ว่าทำไมคุณพ่อ คุณแม่ถึงควรให้ลูกมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน
ที่มา : byjus, winnews
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
