ไขข้อข้องใจ ! ภาวะตัวเหลือง ในเด็กแรกเกิด อันตรายหรือไม่ ป้องกันอย่างไร​ ?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภาวะตัวเหลือง เป็นอาการที่พบเห็นได้ทั่วไปในเด็กแรกเกิด โดยทารกจะมีลักษณะ มีผิวและตาขาวที่เหลืองกว่าปกติ ถึงแม้อาการตัวเหลืองในทารก จะไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา ก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมาได้ วันนี้ theAsianparent จะมานำเสนอ สาเหตุของอาการ ทารกตัวเหลือง วิธีดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลือง เบื้องต้น และด้วยข้อมูล และการดูแลที่ถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่สามารถมั่นใจได้ว่าทารกแรกเกิดจะปลอดภัย มีสุขภาพที่ดี ตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ

 

 

สาเหตุของโรคตัวเหลืองในทารก

อาการตัวเหลืองในทารก เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยในช่วงที่ทารกพึ่งคลอดใหม่ ๆ สามารถเห็นได้ 3 ใน 4 คน หรือ 70 % เลยทีเดียว  มีอาการตัวเหลืองในช่วงในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด เลยทีเดียว โดยหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการตัวเหลืองในทารก คืออาการที่เรียกว่า ดีซ่าน (Jaundice) สาเหตุของดีซ่าน เกิดจากตับที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ของทารกแรกเกิด จึงไม่สามารถกำจัดสารบิลิรูบิน (Bilirbin) ซึ่งเป็นสารประกอบสีเหลืองที่พบในน้ำดี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภายในเลือดของทารก มีสารบิลิรูบินมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของดีซ่านนั่นเอง แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการดีซ่าน มักเกิดขึ้นภายในสองหรือสามวันแรกหลังจากการคลอด และมักจะหายไปเองภายในสองสัปดาห์

 

แต่ก็มีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ทารกตัวเหลือง ได้เหมือนกัน อย่างเช่น การติดเชื้อภายในร่างกาย การรับประทานยาบางชนิด และภาวะทางพันธุกรรมบางอย่าง ดังนั้นในระยะเวลานี้ จะต้องทำการดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลืองอย่างใกล้ชิด เพื่อทำการรักษาโดยเร็วที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง : าวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด เด็กแรกเกิดตัวเหลือง เด็กตัวเหลืองอันตรายไหม

 

สัญญาณและอาการทั่วไปของโรคดีซ่านในทารก

อาการและสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งของดีซ่านในทารก คือผิวหนังและดวงตาเป็นสีเหลือง และอาจรวมถึงการที่ลูกน้อยปัสสาวะออกมาเป็นสีเข้มกว่าปกติ อุจจาระสีซีด หรืออาการกระสับกระส่าย แต่สีเหลืองของผิวหนังและดวงตาอาจมองไม่เห็นในทันที และอาจใช้เวลาหลายวันกว่าจะมองเห็นได้ ดังนั้นในช่วงแรก คุณพ่อคุณแม่ต้องทำการสังเกตลูกน้อยอย่างใกล้ชิดด้วยนะ

วิธีสังเกต ภาวะตัวเหลือง ในลูกน้อยง่าย ๆ

  • อยู่ในห้องที่โปร่ง แสงภายในห้องค่อนข้างสว่าง
  • ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ กดที่บริเวณผิวหนัง พร้อมกับแยกออกจากกัน เพื่อทำการรีดเลือดออกจากหลอดเลือดฝอย ทำให้สามารถมองเห็นสีที่ชัดเจนของลูกน้อยได้
  • ถ้าหากลูกน้อยไม่ได้มี ภาวะตัวเหลือง สีที่สามารถสังเกตเห็นได้ จะเป็นสีขาว แต่ถ้าเกิดความผิดปกติผิวบริเวณนั้นจะมีสีเหลือง

ความรุนแรงของ ภาวะตัวเหลือง ในทารก

โดยปกติแล้วอาการตัวเหลืองของทารก ไม่ได้ถือเป็นเรื่องที่รุนแรงมากนัก แต่ถ้าระดับบิลิรูบินในเลือดมากเกินไป จะผ่านเข้าสู่สมองทำให้สมองมีความผิดปกติเรียกว่า เคอร์นิกเทอรัส (Kernicterus) ซึ่งในช่วงแรกทารกจะมีอาการซึม ตัวอ่อนลง และดูดนมได้ไม่ดี ต่อมาอาการเหล่านี้จะเริ่มหนักขึ้น เกิดขึ้นร่วมกับอาการกระสับกระส่ายจากไข้ ตัวเกร็ง และเสียงร้องผิดปกติ และหากไม่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดโดยเร็ว อาจส่งผลรุนแรงต่อสมอง ทำให้สมองพิการ หรือเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ในที่สุด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ระยะเวลาเฉลี่ยของโรคดีซ่านในทารก

ระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่ทารกจะมีอาการตัวเหลือง อยู่ที่ 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม แต่ระยะเวลาอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคดีซ่านและวิธีการรักษา ทารกที่มีอาการตัวเหลืองรุนแรงอาจใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่า ในขณะเดียวกันเด็กที่มีอาการตัวเหลืองเล็กน้อยก็จะใช้เวลาสั้นกว่า และในทารกบางคน อาการตัวเหลืองสามารถอยู่ได้นานหลายเดือน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ควรจะหมั่นสังเกตอาการตัวเหลืองของทารก อีกทั้งลูกน้อย ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าอาการตัวเหลืองจะไม่เกิดขึ้นนานจนเกินไป

 

แนวทางการรักษา

ทางการรักษา ภาวะตัวเหลือง ในทารกจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

 

  • หากโรคดีซ่านมีสาเหตุมาจากโรคประจำตัว เช่น การติดเชื้อหรือความผิดปกติทางพันธุกรรม ควรได้รับการรักษาตามอาการ
  • หากโรคดีซ่านเกิดจากการผลิตบิลิรูบินเพิ่มขึ้น การรักษามักจะมุ่งเน้นไปที่การลดปริมาณบิลิรูบินในเลือด ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการส่องไฟ (Phototherapy) เพื่อให้ทารกสัมผัสกับแสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนซ์ความเข้มข้นสูง เพื่อให้สารบิลิรูบิน ขับออกทางปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
  • ในบางกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องถ่ายเลือด (Exchange transfusion) เพื่อลดปริมาณบิลิรูบินในเลือด สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากุมารแพทย์เพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกตัวเหลือง ทารกตาเหลือง แบบไหนเรียกว่ารุนแรง พร้อมวิธีสังเกตและการรักษา

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5 วิธี ลดอาการตัวเหลืองในทารกเองที่บ้าน

 

 

1. เพิ่มปริมาณการให้นม : การดูแลให้ลูกน้อยของคุณได้รับนมแม่ที่เพียงพอจะช่วยลดอาการตัวเหลือง ให้สารที่ทำให้ทารกตัวเหลืองนั้น ขับออกมาทางปัสสาวะ และอุจจาระให้ได้มากที่สุด และนมแม่คือตัวเลือกดีที่สุด เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารอื่น ๆ ที่ทารกควรได้รับ และมีสารที่กระตุ้นให้ทารกขับถ่ายอีกด้วย

2. การสัมผัสแสงแดด : การสัมผัสแสงแดดช่วยลดระดับบิลิรูบินในเลือดของทารก ทางที่ดีควรให้ลูกโดนแดดตอนเช้าหรือตอนบ่ายเป็นเวลา 15-30 นาทีต่อวัน

3. การนวด : การนวดลูกน้อยในน้ำอุ่น ๆ สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดอาการตัวเหลืองได้

4. การใช้ฟองน้ำ : คุณสามารถทำให้ร่างกายของทารกเป็นฟองน้ำด้วยการแช่ลูกน้อยในน้ำอุ่นและใช้สบู่อ่อนลูบตามลำตัว ๆ สิ่งนี้จะช่วยกำจัดบิลิรูบินบนผิวหนังได้ระดับหนึ่ง

5. อาหาร : การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กและกรดโฟลิกสามารถช่วยลดอาการตัวเหลืองในทารกได้ การทานอาหาร เช่น ผักใบเขียว ผักโขม และถั่วเลนทิลสามารถช่วยได้

อาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกที่มี ภาวะตัวเหลือง

โภชนาการที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยรักษาโรคดีซ่านในเด็กแรกเกิด ได้แก่ น้ำนมแม่ เพราะน้ำนมแม่เป็นแหล่งโภชนาการที่ดีที่สุด ช่วยลดระดับบิลิรูบิน แต่ถ้าหากมารดาไม่สามารถให้นมบุตรได้ สามารถใช้นมผงสูตรหนึ่ง สำหรับทารกได้เช่นกัน เพื่อให้แน่ใจว่าทารกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากสูตรและให้อาหารทารกตามคำแนะนำ พยายามแบ่งมื้อ ให้ทารกกินนมบ่อย ๆ เพื่อช่วยลดระดับบิลิรูบิน หลีกเลี่ยงการให้นมมากจนเกินไป นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องติดตามการเพิ่มน้ำหนักของทารก ถ้าหากน้ำหนักตัวของลูกน้อย น้อยจนเกินไป ให้พาลูกน้อยไปพบคุณหมอโดยทันที

 

ดูแลลูกน้อยตัวเหลืองอย่างไร ให้สบายตัว

การดูแลทารกตัวเหลืองที่บ้าน อาจเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ท้าทายและกดดันคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เรามีขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ที่บ้านเพื่อให้ลูกน้อยสบายตัวและช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น ได้แก่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ก่อนอื่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณได้รับสารอาหารและน้ำเพียงพอเพื่อช่วยในการฟื้นตัว
  • นอกจากนี้คุณยังสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และพยายามอยู่กับลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย และสบายตัวมากยิ่งขึ้น
  • นอกจากนี้ ควรดูแลให้ลูกน้อยของคุณอยู่ในที่เย็นและไม่โดนแสงแดดโดยตรง ให้ลูกน้อยใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ และให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็นและมีอากาศถ่ายเทสะดวก สามารถช่วยให้พวกเขารู้สึกสบายตัว และช่วยให้อาการตัวเหลืองของพวกเขาบรรเทาลงได้เร็วขึ้น
  • สุดท้าย พยายามหลีกเลี่ยงการให้ยาที่หาซื้อได้ทั่วไปกับลูกน้อยของคุณ เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากแพทย์

 

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์

หากลูกน้อยของคุณอายุน้อยกว่าหนึ่งเดือน และมีอาการตัวเหลืองนานกว่าสองสัปดาห์ คุณควรติดต่อแพทย์ทันที อาการตัวเหลืองในทารกอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ หากลูกน้อยของคุณมีอาการตัวเหลืองและมีอายุน้อยกว่าสองสัปดาห์ หรือหากลูกน้อยของคุณมีอาการตัวเหลืองและมีอาการอื่น ๆ คุณควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ หากคุณสังเกตเห็นว่าอาการตัวเหลืองของทารกเพิ่มมากขึ้น หรือหากคุณสังเกตว่าผิวหนังหรือดวงตามีสีเหลืองเข้มมากกว่าเดิม ก็ให้รีบพาลูกน้อยไปโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาต่อไปในทันที

 

จะเห็นได้ว่า ภาวะตัวเหลือง  เป็นภาวะทั่วไปที่มีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงร้ายแรง สิ่งสำคัญคือต้องคอยสังเกตอาการที่ผิดปกติ และไปพาลูกน้อยไปพบคุณหมอตามนัดอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าหากคุณสงสัยว่า ลูกน้อยของคุณจะมีอาการตัวเหลือง ให้ทำการดูแลรักษาเบื้องต้นอย่างที่เราได้แนะนำไป อาการตัวเหลืองก็อาจจะหายไปเองภายในสองถึงสามวัน อีกทั้งควรดูแลให้ลูกน้อยรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเคและสารอาหารอื่น ๆ เพื่อช่วยรักษาภาวะตัวเหลืองและช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วยนะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

โรคลมหลับ โรคแปลกที่เด็กเจอ เผลอหลับไม่รู้ตัว แพทย์เตือน! เป็นเรื่องอันตรายมาก

โรคลมหลับ โรคแปลกที่เด็กเจอ เผลอหลับไม่รู้ตัว แพทย์เตือน! เป็นเรื่องอันตรายมาก

โรคติดต่อ RSV เด็กไทยป่วยเพิ่มขึ้น ป่วยซ้ำเกือบทุกปี ควรป้องกันอย่างไร ?

ที่มา : Bangkok Hospital

บทความโดย

Sirapatsorn Khotchpoom