เมื่อลูกคลื่นไส้ หรืออาเจียน ลูกอ้วก ตอนกลางคืน ไม่มีไข้ คนเป็นแม่ย่อมกังวล ว่าลูกจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า ลูกอาเจียรไม่มีไข้ จะทำยังไงให้หายป่วยดี วันนี้ theAsianparent Thailand จะพาไปดู 8 วิธีรับมือเมื่อลูกคลื่นไส้อาเจียน เพื่อให้คุณแม่เตรียมรับมือ และจัดการกับอาการป่วยเหล่านี้ได้
วิธีรับมือเมื่อลูก กินข้าวแล้วอาเจียน ลูกอ้วก
ลูกกินแล้วอ๊วก เกิดจากอะไร อาการคลื่นไส้ในเด็ก อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น อาการท้องเสีย ลำไส้มีปัญหา โรคทางระบบประสาท หรือระบบเมตาบอลิซึ่มทำงานผิดปกติ เป็นต้น หรืออาจจะเกิดจากการรับประทานอาหาร หรือยาบางชนิดก็ได้ นอกจากนี้ หากคุณแม่ให้เด็ก ๆ กินนมมากเกินไป จนไม่ได้อุ้มพาดบ่าให้เด็กเรอ หรือให้นมเด็กไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้เด็กอาเจียนได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากลูก ๆ อาเจียน หรือคลื่นไส้ แต่ไม่ได้มีอาการรุนแรงอะไร คุณแม่ก็สามารถปฏิบัติตาม 8 วิธีรับมือเมื่อลูกคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งเป็นคำแนะนำต่อไปนี้ได้ เพื่อบรรเทาอาการของลูกน้อย
วิดีโอจาก : หมอชินตา พาเลี้ยงลูก
1. ลูกอาเจียรไม่มีไข้ อย่าให้เด็กขาดน้ำ
ลูกอ้วกตอนกลางคืนไม่มีไข้ หลังจากที่เด็กอาเจียน คุณแม่ควรสังเกตว่าน้อง ๆ มีอาการขาดน้ำหรือไม่ เช่น เหนื่อยล้า นอนน้อย หงุดหงิด ปากแห้ง ร้องไห้แล้วไม่มีน้ำตา ตัวเย็น เบ้าตาลึก หรือปัสสาวะน้อยกว่าปกติ เป็นต้น นอกจากนี้ ควรหมั่นสังเกตสีปัสสาวะของเด็ก ๆ ด้วย หากปัสสาวะเด็กมีสีเข้ม ก็แสดงว่าร่างกายของเด็ก ๆ กำลังขาดน้ำนั่นเอง หากพบว่าเด็กกำลังขาดน้ำ คุณแม่ควรให้เขาดื่มน้ำเยอะ ๆ
2. ให้น้อง ๆ ดื่มเกลือแร่
แม้ว่าคุณหมอบางท่านจะแนะนำให้เด็ก ๆ ลองดื่มน้ำอัดลม หรือดื่มน้ำที่ผสมโซดา แต่จากงานวิจัยชี้ว่า การดื่มเครื่องดื่มที่ผสมเกลือแร่ ORS นั้น จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ซึ่งเกลือแร่ชนิดนี้ เป็นเกลือแร่ที่นักกีฬานิยมรับประทานในช่วงที่สูญเสียเหงื่อจากการเล่นกีฬา
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกป่วยกระทันหัน มีผื่น ตัวร้อนมาก เซื่องซึม ต้องทำอย่างไร
3. ให้เด็กทานอาหารเหลว หรือเจลลี่
หลังจากเด็กอาเจียนไปแล้วสักพัก ร่างกายของเด็กจะเริ่มต้องการสารอาหาร ซึ่งคุณแม่อาจจะให้น้อง ๆ รับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป และของเหลวอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งอาจจะดีกว่าการให้ดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ เพราะจะทำให้เด็กไม่หิว ทั้งนี้ จะให้เด็กลองทานไข่ต้มสุกบดละเอียด น้ำผลไม้คั้นสด ๆ หรือเจลลี่ด้วยก็ได้
4. ไม่ต้องกินยาก็ได้
หากอาการอาเจียนที่เกิดกับเด็กไม่ได้ร้ายแรงมาก ก็ไม่ต้องให้เด็กกินยา เพราะอาจจะไม่ได้ช่วยให้เด็กดีขึ้น หากว่าเด็ก ๆ มีอาการรุนแรง หรืออาเจียนติดต่อกันหลายครั้ง ควรให้เด็ก ๆ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และรีบพาส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาจะดีที่สุด
5. ขิงช่วยได้
ขิง มีสรรพคุณช่วยลดความเจ็บปวด และอาการไม่สบายท้อง ถูกนำไปใช้ทำเป็นยาสมุนไพรมานานหลายร้อยปี ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าสารเคมีในขิง ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร หรือกระเพาะ ทำงานได้ดียิ่งขึ้น และยังดีต่อสมองและระบบประสาทอีกด้วย แม้ว่าขิงจะไม่ได้มีฤทธิ์ยับยั้งอาการคลื่นไส้โดยตรง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่อาจจะช่วยให้รู้สึกสบายท้องมากยิ่งขึ้น และก็ไม่เสียหายถ้าจะลอง แต่หากไม่แน่ใจว่าจะให้เด็กกินดีไหม ให้ลองปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : 4 วิธีดูแลเมื่อลูกเป็นไข้ หายป่วยได้ไวขึ้น คุณแม่ไม่ต้องกังวล
6. ลองกดจุดให้เด็ก ๆ
เทคนิคการกดจุดนี้ จะให้ประสิทธิภาพคล้าย ๆ กับการฝังเข็ม ซึ่งการกดจุดถือเป็นศาสตร์การแพทย์ของจีน หากคุณแม่อยากลองกดจุดให้น้อง ๆ ให้ลองใช้นิ้วกลาง และนิ้วโป้ง กดลงไปตรงกลางระหว่างเส้นเอ็นทั้งสองเส้น ที่อยู่ตรงบริเวณข้อมือของเด็ก ๆ ได้
พาลูกไปหาหมอตอนไหนดี
อาการอาเจียนโดยทั่ว ๆ ไป เกิดกับเด็กได้ แต่บางครั้ง ก็อาจจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ดังนั้น คุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตว่าเด็กมีอาการต่อไปนี้หรือไม่
- อาเจียนติดต่อกันมากกว่า 8 ชั่วโมง หรืออาเจียนมากกว่า 1 ครั้ง
- ขาดน้ำ หรือสงสัยว่าเด็กอาจจะกินหรือดื่มสารเคมีที่เป็นพิษเข้าไป
- เซื่องซึม ไม่ร่าเริง
- ง่วงซึม ขี้เซา
- ปวดหัว มีไข้สูง
- มีท่าทีสับสน มึนงง
- มีผื่นขึ้น
- เจ็บท้อง
- คอแข็ง
- อ้วกเป็นเลือด
หากพบว่าเด็กมีอาการเหล่านี้ ไม่ควรนิ่งนอนใจ คุณแม่ควรพาเด็ก ๆ เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการทันที เพราะอาการเหล่านี้ อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพบางอย่างที่ร้ายแรงได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อาการอ้วกในเด็ก ทำอย่างไรเมื่อลูกอ้วก สาเหตุเกิดจากอะไร
ไขข้อข้องใจ ลูกน้อยอาเจียนบ่อย เป็นเรื่องปกติไหม ?
เทคนิคดีๆ เมื่อลูกอาเจียนหรือท้องเสีย ทำยังไงให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ