X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

วิจัยชี้ 7 ลักษณะที่เข้าข่ายว่าลูกคุณ "ฉลาดกว่า" คนอื่นได้

26 Mar, 2017

ความฉลาดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากระดับไอคิว หรือความรู้ที่มีเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นได้จากการได้รับข้อมูลใหม่ ๆ และนำมาคิด คำนวณ ใช้เหตุผล จนเกิดการเชื่อมโยงกัน

วิจัยชี้ 7 ลักษณะที่เข้าข่ายว่าลูกคุณ “ฉลาดกว่า” คนอื่นได้

วิจัยชี้ 7 ลักษณะที่เข้าข่ายว่าลูกคุณ “ฉลาดกว่า” คนอื่นได้

มีผลการวิจัยพบว่าไอคิวของคนเราถูกกำหนดมาตั้งแต่วัยเด็กแล้ว และไม่สามารถไปเพิ่มมันได้ แต่นอกเหนือจากระดับไอคิวแล้วยังมีอีกหลายปัจจัย อาทิ การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม ลักษณะนิสัย ฯลฯ ที่จะส่งผลให้ลูกของคุณดู ฉลาดกว่า คนอื่นได้

จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นที่ศึกษามานานกว่า 10 ปี ได้สรุปออกมาว่าลักษณะเหล่านี้จะเป็นบุคคลที่มีแนวโน้ม ฉลาดปราดเปรื่องได้มากกว่าคนปกติทั่วไป
#1เป็นเด็กนมแม่

#1เป็นเด็กนมแม่

มีผลจากผลการวิจัยหลาย ๆ ชิ้น เห็นในทิศทางเดียวกันว่า การให้นมแม่นั้นมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองของทารกเป็นอย่างมาก หากลูกได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง ส่งผลโดยตรงต่อการเรียนรู้ของเด็ก เสริมสร้างระดับสติปัญญา (IQ) ในเด็กให้เพิ่มขึ้นได้มากกว่าเด็กที่ไม่เด็กที่ได้ดื่มน้ำนม
#2 เป็นพี่คนโต

#2 เป็นพี่คนโต

ผลการศึกษาจากประเทศนอร์เวย์ในปี 2007 พบว่าคนที่เป็นพี่คนโตมักมีสติปัญญาดีกว่าน้อง ๆ ที่คลานตามกันมา จากตัวอย่างพี่น้องทั้งหมด 250,000 คนพบว่าลูกคนแรกจะมี IQ สูงกว่าน้องคนรองอยู่ประมาณ 3 จุดโดยเฉลี่ย ลูกคนรองจะมี IQ สูงกว่าคนถัดไป 1 จุด โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับยีนหรือพันธุกรรมแต่อย่างใด

คนส่วนใหญ่เชื่อว่าลูกคนโตอาจได้เปรียบน้องคนอื่น ๆ เพราะได้ใช้เวลา และได้รับการเลี้ยงดูเอาใจใส่กับพ่อแม่เต็มที่ และยังพบว่าลูกคนโตจะรู้จักรับผิดชอบในการสอนและดูแลน้อง ทำให้มีวุฒิภาวะและความฉลาดมากกว่านั้นเอง
#3 ไม่อ้วน

#3 ไม่อ้วน

มีการศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2006 พบว่า เด็กวัย 11 ปีที่มีทดสอบด้านการเรียนรู้ต่ำกว่าปกตินั้น จะมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนเมื่อโต ผู้วิจัยได้อธิบายในทางกลับกันว่าเด็กที่มีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดี ย่อมส่งผลต่อการดูแลสุขภาพร่างกายที่ดีได้ด้วยเพราะมีความรู้ ความคิดในการดูแลตัวเอง จึงทำให้มีรูปร่างที่ดี
#4 อ่านหนังสือเป็นเร็ว

#4 อ่านหนังสือเป็นเร็ว

หากลูกได้มีทักษะการอ่านตั้งแต่อายุยังน้อยเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสในการพัฒนาความรู้ ความสามารถด้านอื่น ได้รวดเร็วและส่งผลต่อความฉลาดที่เพิ่มขึ้นได้ มีผลการศึกษาของประเทศอังกฤษได้ทำการทดลองคู่แฝดจำนวน 2,000 คู่ พบว่าเด็กคนที่เริ่มหัดอ่านหนังสือก่อนจะมีไอคิวสูงกว่าคู่แฝดที่เริ่มทีหลัง นักวิจัยได้ให้เหตุผลของการที่เด็กที่เริ่มหัดอ่านหนังสือก่อนจะมีไอคิวที่สูงกว่า เพราะว่าการอ่านเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาสมองที่สำคัญ เด็กที่อ่านหนังสือเป็นเร็วจะช่วยให้เด็กฉลาดขึ้นนั้นเอง
#5 มีแนวโน้มว่าสูง

#5 มีแนวโน้มว่าสูง

การศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัยในปี 2008 พบว่า เด็กที่มีความสูงจะมีผลทดสอบด้านไอคิวที่สูงกว่าเด็กทั่วไป และจะมีโอกาสประสบความสำเร็จทางการเงินเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
#6 เรียนดนตรี

#6 เรียนดนตรี

มีการค้นคว้าจากประเทศเยอรมันบอกว่า การให้ลูกได้เรียนดนตรีมีประโยชน์ต่อกระบวนการเรียนรู้มากเป็นสองเท่าของการเล่นกีฬา เต้น หรือแสดงละครอีก เด็กที่เรียนดนตรีจะมีกระบวนการความคิดที่เด่นชัด ช่วยให้เรียนดี มีทักษะการอ่านเขียนที่ดีขึ้น เรียนรู้ภาษาต่าง ๆ ได้เร็ว ช่วยในด้านความจำ มีความรอบคอบ เพิ่มไอคิว มีความคิดสร้างสรรค์และมีความมั่นใจในตนเอง โดยงานวิจัยในปี 2011 ได้ทำการทดลองกับเด็ก ๆ อายุ 4-6 ปี พบว่าเด็กที่เรียนดนตรีเพียงแค่เดือนเดียวมีผลทดสอบด้านความฉลาดสูงขึ้น
#7 เป็นเด็กถนัดซ้าย

#7 เป็นเด็กถนัดซ้าย

เคยได้ยินกันไหมค่ะว่า เด็กที่ถนัดซ้ายจะเรียนเก่ง เด็กที่ถนัดขวาจะเป็นนักกีฬา ซึ่งนักวิจัยชาวออสเตรเลียระบุว่าคนที่ถนัดซ้ายนั้นสามารถคิดได้เร็วกว่า และมีแนวโน้มที่เล่นกีฬาเก่งกว่า รวมถึงทำงานที่ซับซ้อนหรือทำกิจกรรมพร้อม ๆ กันหลายอย่างได้ดี สามารถเชื่อมโยงสองสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันในเชิงที่มีความหมายได้ มีการคิดวิเคราะห์ที่ดี ซึ่งเป็นลักษณะของความคิดที่แปลกใหม่ เป็นแนวคิดที่คนส่วนใหญ่คาดไม่ถึง
วิจัยชี้ 7 ลักษณะที่เข้าข่ายว่าลูกคุณ “ฉลาดกว่า” คนอื่นได้

วิจัยชี้ 7 ลักษณะที่เข้าข่ายว่าลูกคุณ “ฉลาดกว่า” คนอื่นได้

ลักษณะข้างต้นเป็นเพียงลักษณะบ่งชี้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ลูกคุณจะเข้าข่ายเป็นเด็กฉลาดหรือมีโอกาสสูงที่จะมีไอคิวสูงกว่าคนปกติ แต่ถ้าไม่มีตรงเลยก็ไม่ได้หมายความว่า คุณพ่อคุณแม่จะส่งเสริมหรือช่วยพัฒนาความรู้ ความสามารถของลูกให้ฉลาดไม่ได้นะคะ ที่สำคัญพื้นฐานของการเลี้ยงลูกไม่ได้ปลูกฝังไว้กับความฉลาดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูแลลูกให้ดีด้วย “ความรัก” ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกเติบโตมาเป็นเด็กที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์นะคะ
ถัดไป
img

บทความโดย

Napatsakorn .R

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • วิจัยชี้ 7 ลักษณะที่เข้าข่ายว่าลูกคุณ "ฉลาดกว่า" คนอื่นได้
แชร์ :
  • ลูกติดแม่มาก จนไม่เป็นอันทำอะไร รับมือยังไง?  ให้ลูกมั่นใจ ติดแม่น้อยลง

    ลูกติดแม่มาก จนไม่เป็นอันทำอะไร รับมือยังไง? ให้ลูกมั่นใจ ติดแม่น้อยลง

  • EQ ต่ำ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว: 3 พฤติกรรมเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหารที่พ่อแม่ควรรู้ทัน

    EQ ต่ำ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว: 3 พฤติกรรมเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหารที่พ่อแม่ควรรู้ทัน

  • นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
    บทความจากพันธมิตร

    นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก

  • ลูกติดแม่มาก จนไม่เป็นอันทำอะไร รับมือยังไง?  ให้ลูกมั่นใจ ติดแม่น้อยลง

    ลูกติดแม่มาก จนไม่เป็นอันทำอะไร รับมือยังไง? ให้ลูกมั่นใจ ติดแม่น้อยลง

  • EQ ต่ำ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว: 3 พฤติกรรมเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหารที่พ่อแม่ควรรู้ทัน

    EQ ต่ำ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว: 3 พฤติกรรมเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหารที่พ่อแม่ควรรู้ทัน

  • นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
    บทความจากพันธมิตร

    นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว