5 ข้อชวนคิดก่อนตัดสินใจมีลูกคนที่สอง
ข้อ 1. ระยะเวลาที่ควรจะมีลูกคนถัดไป เมื่อไหร่ดี
มีต่อกันไปเลย
เรียกว่าหัวปีท้ายปี เหนื่อยคราวเดียวพอโตก็สบาย แต่กว่าจะโตล่ะคะ หากคุณพ่อคุณแม่คิดจะมีลูกต่อกันไปเลยต้องยอมรับว่าเหนื่อยมากเพราะต้องเลี้ยงลูกเล็กและต้องตั้งครรภ์ไปด้วย ยิ่งถ้าคนที่สองคลอดแล้ว ลูกคนแรกยังช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ต้องดูแลคนเล็กที่ยังแบเบาะอีก หากมีญาติหรือมีพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลก็จะแบ่งเบาไปได้ส่วนหนึ่ง
ห่างกัน 1-2 ปี
ทิ้งระยะให้ลูกตนโต โตสักนิดแล้วมีอีกคน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นเวลาที่ยังเหน็ดเหนื่อยอยู่เช่นกัน และยิ่งลูกคนโตเป็นวัยกำลังเตาะแตะ เล่นซน ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ ต้องคิดด้วยว่าจะวิ่งไล่จับลูกคนโตไหวหรือไม่
ห่างกัน 3-4 ปี ขึ้นไป
หลาย ๆ ครอบครัว วางแผนมีลูกในช่วงระยะเวลาประมาณนี้ เพราะคิดว่าไม่ห่างกันไปนัก และลูกคนโตก็พอรู้เรื่องแล้ว จะไม่เหนื่อยมากจนเกินไป เพราะลูกคนโตจะอยู่ในวัยรู้เรื่องแล้ว สามารถปล่อยให้อยู่กับคนอื่น หรือให้พ่อคอยดูแลได้ แบบสบาย ๆ แล้ว สามารถพาไปไหน มาไหน ช่วยเหลือตัวเองได้ดี และยังอาจจะคอยช่วยเหลือดูแลน้องได้ด้วย แต่ในทางกลับกันในวัยนี้ก็ต้องไม่ทอดทิ้ง หรือละเลยกับลูกคนโต เพราะลูกอาจจะเกิดอาการน้อยใจ ว่าพ่อแม่หรือครอบครัวไม่รัก ไม่ให้ความสำคัญกับเขาเหมือนที่เคยได้รับมาหลายปี
ข้อ 2. เวลาสำหรับดูแลลูกทั้งสองอย่างเพียงพอหรือไม่
ตอนมีลูกคนแรกก็ยังไม่วุ่นวายเรื่องการบริหารเวลาสักเท่าไร เพราะต่างก็ทุ่มเทเวลาให้เจ้าตัวน้อยได้เต็มที่ เรื่องแบ่งเวลาของพ่อแม่โดยเฉพาะที่ต้องทำงานนอกบ้านทั้งคู่ยังผลัดกันดูแลได้ ยิ่งลูกเข้าโรงเรียนแล้ว พอจะช่วยเหลือตนเองได้บ้างก็จะทำให้เรื่องการดูแลง่ายขึ้น หากช่วงเวลาดังกล่าวคุณแม่ตั้งครรภ์และคลอดน้องเล็ก ๆ ออกมา คนโตก็อาจจะให้คุณพ่อ ญาติ หรือพี่เลี้ยงมาช่วยดูแล แต่คุณแม่ก็ยังต้องเป็นหลักสำคัญ เพราะหากดูแลแต่น้องเล็กลูกคนโตจะน้อยใจและอาจจะมีปัญหาเกลียดน้องได้นะคะ เคยดูแลเขายังไงก็ต้องดูแลให้ได้เหมือนเดิมหรือพยายามเท่าเดิม ลูกคนโตจะได้ไม่รู้สึกว่าเขามีน้องมาแย่งความรัก ต้องวางแผนให้รอบคอบจัดสรรเรื่องเวลาว่าจะดูแลคนโตและคนเล็กอย่างไร
ข้อ 3. เงิน ค่าใช้จ่าย ในการเลี้ยงดูที่เพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอด ได้แก่ ค่าทำคลอดซึ่งราคาจะต่างกันอีกระหว่างคลอดตามธรรมชาติและผ่าคลอด นอกจากนี้ยังมีค่าวัคซีน ค่านม ค่ายา ค่าผ้าอ้อม เป็นต้น เป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่การมีลูกคนแรกดีตรงที่คุณแม่สามารถเอาของใช้ของลูกคนโตมาให้น้องได้ก็จะช่วยประหยัดไปได้พอสมควร
วางแผนสะสมเงิน มีลูกคนที่สองนอกจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึง คือ เงินออมเพื่อใช้จ่ายในยามที่จำเป็น ควรมีเงินสำรองไว้เพื่อใช้จ่ายลูกทั้งสองคน โดยเฉพาะคนเล็กที่ยังแบเบาะจะมีค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดมาก ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ลองคำนวณดูว่าควรมีเงินในบัญชีเท่าไรเพื่อให้เพียงพอสำหรับลูกทั้งสองคน คุณพ่อคุณแม่จะได้คิดทางวิธีบริหารเงินได้ชัดเจน รวมถึงการหาช่องทางในการเพิ่มรายได้เข้าครอบครัวมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอและเหมาะสมกับการดูแลลูกทั้งสองคนได้อย่างไม่ลำบาก
ข้อ 4. อายุ และความสมบูรณ์ของร่างกายคุณแม่
เรื่องของอายุไม่ใช่แค่ตัวเลขแล้วคะสำหรับการตัดสินใจมีลูกคนที่สอง เพราะถ้าหากอายุเลย 35 ปีไปแล้ว คุณแม่อาจไม่มีเวลามากนักที่จะเว้นวรรคระหว่างลูกคนแรกและลูกคนที่สอง แต่หากคุณอายุเพียง 30 ปี คุณก็อาจมีเวลาที่จะไตร่ตรองนานขึ้นอีกนิด ฉะนั้น หากคุณกำลังวางแผนจะมีลูกคนที่สอง ควรปรึกษาแพทย์ด้วยว่าอายุของคุณจะทำให้การตั้งครรภ์มีความเสี่ยงหรือไม่
ข้อ 5. ความคิดเห็นที่ตรงกันของคุณพ่อคุณแม่
เรื่องการวางแผนมีลูกคนที่สองทั้งคุณแม่และคุณพ่อควรมีความคิดเห็นที่ตรงกัน หากฝ่ายหนึ่งพร้อม อีกฝ่ายหนึ่งไม่พร้อม หากคุณมีความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกัน ควรนั่งลงพูดคุยอย่างจริงจัง ชี้แจงความต้องการของตนเอง และรับฟังอีกฝ่ายอย่างเปิดใจ แม้ว่าจะตกลงกันไม่ได้ในทันที แต่อย่างน้อยคุณก็เข้าใจกันมากขึ้น และน่าจะนำไปสู่บทสรุปที่ตรงใจทุกฝ่ายได้ในที่สุด
เรื่องน่ารู้
การวิจัยที่ University of California,San Francisco พบว่า ระยะห่างที่เหมาะที่สุดที่จะมีลูกคนต่อ ๆ ไปคือ 24-35 เดือน การตั้งครรภ์ที่เร็วกว่าช่วงเวลาดังกล่าว มีความเป็นไปได้สูงที่ทารกจะมีน้ำหนักแรกคลอดต่ำ คุณหมอคาดเดาว่า มารดาอาจจะต้องการเวลาที่จะหายจากอาการเครียดและต้องการบำรุงร่างกายให้แข็งแรงหลังจากการคลอดบุตรครั้งที่ผ่านมา
ศาสตราจารย์ Jeannie Kidwell แห่ง University of Tennessee กล่าวว่า ช่วงเวลาที่ลูกคนแรกอายุน้อยกว่า 1 ขวบ หรือ มากกว่า 4 ขวบเป็นช่วงเวลาที่ดีเลิศในแง่ของ ความสัมพันธ์ของเด็กๆ กับพ่อแม่ การชิงดีชิงเด่นกับพี่น้อง และการนับถือตนเอง (self-esteem) ของเด็ก ๆ Jeannie เชื่อว่า เด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ขวบ จะยังไม่มีเซนส์เรื่องของสถานภาพของตนเอง และ เด็กที่อายุมากกว่า 4 ขวบจะไม่ค่อยต้องการความสนใจจากพ่อแม่มากเท่าเดิม และเริ่มจะรู้จักใช้ชีวิตด้วยตนเองได้แล้ว
ถึงยังไงการวางแผนที่จะมีลูกคนที่สองไม่ใช่ต้องอาศัยหลักทางวิชาการเป็นสำคัญ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ความพร้อมในการวางแผนของพ่อแม่นั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะแต่ละครอบครัวย่อมมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ไม่มีใครรู้ได้ว่าคุณพร้อมที่จะมีลูกคนที่สองเมื่อไร มาเริ่มวางแผนกันดีกว่าค่ะ หากคิดจะมีลูกคนที่สอง
อ้างอิงข้อมูลจาก
kapook
bloggang
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ฝึกให้พี่รักน้องตั้งแต่อยู่ในท้อง
ชีวิตแม่ลูกสอง ที่ไม่มีใครเคยบอก
มีลูกหัวปีท้ายปี: ฉันท้องตอนลูกเพิ่งสองเดือน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!