5 ความเชื่อ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกจากสมัยก่อน ที่แปลกสุดๆ
เชื่อว่าคุณแม่หลายคนคงจะได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกแบบแปลกๆมาจากผู้หลีกผู้ใหญ่กันบ้ง ไม่มากก็น้อย แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ความเชื่อของผู้คนในสังคมก็เปลี่ยนไปตามกระแสสังคม ทำให้ความเชื่อบางอย่างถูกลบทิ้งเนื่องจากเรามีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์มารองรับเหตุผลที่ดีกว่า วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านย้อนเวลาไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ยุคศตวรรษที่ 19 และ ศตวรรษที่ 20 ไปดู 5 ความเชื่อ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกในสมัยก่อนในยุคนั้น ที่พอได้รู้แล้ว คุณจะรู้สึกได้เลยว่ามันแปลกสุดๆ
ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรถ์ ห้ามนึกถึงคนหน้าตาไม่น่ามอง
การเลี้ยงลูกเป็นอะไรที่ยากอยู่แล้ว ลองนึกซิว่าในสมัยก่อนที่คนเชื่อว่าความคิดของเราจะส่งผลต่อหน้าตาและสุขภาพของลูกด้วย ย้อนกลับไปช่วงประมาณปี 1920s มีความเชื่อที่ว่าถ้าลูกคุณมีความไม่เพอร์เฟ็คใดๆเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา มันเป็นเพราะว่าคุณแม่คิดถึงคนหน้าตาไม่น่าชม อ้าว! แบบนี้ก็ได้หรอแม่
“หญิงที่ตั้งครรถ์ไม่ควรที่จะนึกถึงคนที่มีน่าตาน่าเกลียด หรือคนที่มีความพิการ ติดโรค ทุกชนิด”B.G. Jefferis และ Nicholas ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Searchinglights on Health : The Science of Eugenics เล่าถึงความเชื่อของคนในยุคก่อน พวกเขายังกล่าวต่ออีกว่า ผู้คนในสมัยนั้นจะแนะนำให้หญิงที่กำลังตั้งครรถ์มองแต่อะไรสวยๆงามๆ ในยุคนั้น คุณแม่ จะโทษตัวเองทันทีถ้าลูกเกิดมาไม่น่ารัก น่าชัง มันคือความกดดันที่พวกเธอต้องแบกรับ
อย่าจับ อย่าเล่นกับลูกให้มากเกินไป
ในช่วงปีศตวรรษที่ 20 มีความเชื่อว่า พ่อ แม่ ผู้ปกครอง อย่าไปจับ อย่าไปเล่นกับลูกให้มากเกินไป พวกเขาเชื่อว่าการที่พวกเขาไม่ให้ความสนใจทารกมากจนเกินไปนั้นจะทำให้เด็กมีอายุยืนมากขึ้น ความเชื่อนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ลูกเล็กไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของพ่อแม่ ผู้ปกครองแค่ทำหน้าที่ ที่จำเป็นคือ ป้อนอาหาร เปลี่ยนชุดให้ลูก และก็ไม่ต้องยุ่งอะไรกับลูกอีก
การตีลูกจะทำให้ลูกหยุดร้องไห้
เชื่อว่าผู้ปกครองหลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องของความเชื่อนี้ผ่านหูมาบ้าง ความเชื่อว่าเด็กที่ทำตัวไม่ดีจะต้องโดนตีเพื่อเป็นการสั่งสอนนั้นมีมาช้านาน จากบทความในปี 1916 พวกเขาเชื่อว่าการตีลูกจะทำให้เขาหรือเธอหยุดร้องไห้ได้อีกด้วย
ลูกต้องนอนหันหัวไปทางทิศเหนือ
เชื่อเถอะว่าพ่อแม่ จะลองทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกนอนหลับได้อย่างง่ายๆ ถ้ามันเห็นผล ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1889 นายแพทย์ George H. Napheys ได้กล่าวไว้ว่า การจัดการร่างกายของมนุษย์ในช่วงนอนหลับควรจะข้องเกี่ยวกับเข็มทิศ เมื่อทำได้ดังนั้นเราจะสามารถหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่นอนหันหัวไปทางทิศเหนือ นายแพทย์ Gorge ยังกล่าวต่ออีกว่า ทิศเหนือเป็นทิศที่มีสนามพลังไฟฟ้าที่ดี ระบบประสาทของมนุษย์เชื่อมต่อกับจักรวาลในทางที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้ สิ่งที่เขาพูดมันเหมือนกับเป็นเรื่องงมงายหรือพิธีกรรมซะมากกว่าจะเป็นเรื่องจริง ที่มีหลักฐานยืนยัน
อย่าให้นมลูกในช่วงหน้าร้อน
“การให้นม หรือให้อาหารในอากาศที่ร้อน อาจทำให้ลูกตายได้ นี่คือความเชื่อของคนยุคสมัยนั้น พวกเขาเชื่อว่าคุณแม่ไม่ควรให้นมลูกในช่วงฤดูร้อน และต้องหาหญิงคนอื่นมาให้นมลูกแทน ถ้าหาไม่ได้ต้องส่งลูกออกไปยังชนบท ไม่แน่ใจว่าที่มาของความเชื่อนี้มีที่มาหรือตรรกกะอะไรอยู่เบื้องหลัง
Source : theweek
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
7 พฤติกรรมพ่อแม่ทำร้ายลูก เตือนพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกในทางที่ผิด ระวังลูกเสียคน!!
ตีลูกหรือไม่ตี? การลงโทษมากกว่าการฝึกระเบียบวินัย
อย่าบังคับลูกเรียนมากเกินไป อุทาหรณ์จากครอบครัวที่สูญเสีย